4 ก.ค. 2021 เวลา 00:44 • ปรัชญา
นาฬิกาชีวิต
เรื่องราวที่ผมถ่ายทอดในครั้งนี้ คือเรื่องราวในคืนวันหนึ่ง ซึ่งต้องท้าวความก่อนว่า ช่วงนั้นผมมีเรื่องเครียดหลายๆอย่าง ราวกับมรสุมที่ถาโถมเข้าใส่ตัวผม ด้วยความเครียดที่สะสมมานานหลายวัน บวกกับการอดหลับอดนอนมาหลายคืน ผมรู้สึกเหมือนร่างกายต้องแบกของหนักไว้เป็นจำนวนมหาศาล คืนนั้นผมเป็นลมล้มลง ร่างกายไร้เรี่ยวแรงจนแทบหมดสติ ชั่วครู่แม่ผมซึ่งเข้ามาเห็นพอดีจึงช่วยพยุงผมขึ้นรถและขับพาผมไปโรงพยาบาลในทันที โดยระหว่างที่เดินทางผมรู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างค่อยๆช้าลงๆ แล้วตัวผมก็เริ่มเกร็งและแข็งไปทั้งตัวหูที่เคยได้ยินกลับไม่ได้ยินอีกต่อไป แล้วในใจก็นึกถึงแม่ที่อยู่ข้างๆ โดยที่แม่ใช้มือหนึ่งขับรถ อีกมือหนึ่งจับมือผมไว้ และผมก็พยายามพูดออกมาว่า
"ผมรักแม่นะครับ"
"หวังว่าจะได้เกิดมาเป็นลูกแม่อีก" เสียงอันแผ่วเบาเอ่ยออกมาพร้อมกับใจที่กำลังสิ้นหวัง
แล้วผมก็หลับตาลงพร้อมกับน้ำตา
วันรุ่งขึ้นเหมือนโชคชะตาจะยังไม่พรากชีวิตผมไป ผมตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยความงุนงง แล้วแม่ที่นั่งอยู่ข้างๆก็ถามว่า
"เป็นยังไงบ้างลูก"
"ไม่เป็นไรแล้วครับแม่" ผมตอบแม่กลับไป
จากเรื่องราวครั้งนั้นทำให้ผมนึกถึงนาฬิกาเรือนเก่าที่มันหยุดเดินไปแล้ว..
ชีวิตของเราก็คงเหมือนกับนาฬิกา เราทำงาน เราเรียน เราอยู่กับครอบครัว เราทำแบบนั้นหมุนเวียนไปเรื่อยๆทุกๆวัน จนสุดท้ายวันหนึ่ง นาฬิกาเรือนนั้น ก็ชำรุดและทรุดโทรมไปตามกาลเวลาไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ตาม นาฬิกาก็อาจจะหยุดเดิน
"ทุกสิ่งทุกอย่างย่อม เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปเป็นธรรมดา"
ดังนั้นสิ่งที่ควรทำก่อนที่นาฬิกาจะหยุดเดิน..นั่นก็คือ
"การสร้างคุณค่าให้ชีวิตเราเอง"
"ไม่ต้องรออนาคต"
"ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด"
3
เพราะเมื่อนาฬิกาหยุดเดินแล้ว ถึงเวลานั้นเราก็คงทำได้แค่ ปล่อย ปล่อยให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป หรือแม้แต่ปล่อยให้เรื่องราวของเราเหลือไว้เพียงความทรงจำ
การสร้างคุณค่าตัวเอง สำหรับผมคือการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ทำในสิ่งที่เราอยากทำ แบ่งปันสิ่งดีๆให้กับคนอื่น ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ ตามกำลังที่ตัวเองสามารถทำได้ ผมคิดว่าวันหนึ่งสิ่งดีๆเหล่านั้นจะย้อนกลับมาหาตัวเรา คอยเป็นสิ่งที่คุ้มครองใจเราอยู่ลึกๆ แล้วพลังแห่งการทำความดีนั้น จะคอยเสริมกำลังใจ ให้เราฝ่าฟันเหตุการณ์อันเลวร้าย และคอยพยุงให้เราก้าวเดินได้อย่างมีสติ
"ทำดีย่อมได้ดีกลับมา"
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าผมจะผ่านเรื่องอะไรก็มาก็ตาม มันคือส่วนหนึ่งในเรื่องราวชีวิตผม ซึ่งผมก็ขอให้มันผ่านพ้นไปโดยไม่เอากลับมาคิดอีก นั่นก็คือ"การปล่อยวาง"และผมจะขอทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาขอเก็บไว้เป็นประสบการณ์ที่ดี เพื่อให้"นาฬิกาชีวิต" ได้หมุนต่อไปอย่างมีคุณค่ามากที่สุด
- ติดตามผ่าน Facebook page ได้ที่ -
โฆษณา