4 ก.ค. 2021 เวลา 09:04 • ธุรกิจ
Disney ที่เพิ่งเปิดตัว Streaming สด ๆ ร้อนๆ ในนาม Disney+ Hotstar ที่ประเทศไทยครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน ได้ถูกวิเคราะห์ถึงเรื่องการแข่งขันระหว่าง Netflix Streaming เพราะมีกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด และอาจจะกลายเป็น Streaming Platform ที่ 1 ในหลาย ๆ ประเทศแทนที่ Netflix ในอนาคต ซึ่งทาง Disney ได้ตั้งเป้าหมายที่จะมี Subscriber ทะลุ 250 ล้านคนภายในปี 2024 หรือในอีก 3 ปีข้างหน้านั่นเอง!
1
สงสัยกันมั้ยว่า Disney มีวิธีการอย่างไรทำให้ยอด Subscribe มีอัตราการเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด แม้จะเพิ่งเปิดตัวได้เพียงไม่นาน? เป็นเพราะ Disney ได้ใช้กลยุทธ์ด้านดิจิทัลนั่นเอง
ในปัจจุบันที่พฤติกรรมการใช้ Internet และ Social Media ของคนมีแนวโน้มสูง บวกกับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้ผู้คนหันมาชมสื่อบันเทิงผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
การปรับตัวที่สำคัญของ Disney เลยคือการตัดสินใจโบกมือลา Netflix และหันมาทำธุรกิจ Streaming เป็นของตนเอง โดยการซื้อกิจการ Streaming ที่ชื่อว่า BamTech และผลิตคอนเทนต์ถึงมือผู้บริโภคโดยไม่ต้องพึ่งโรงภาพยนต์ หรือที่เรียกกันว่าการทำธุรกิจแบบ Direct-to-consumer นั่นเอง และได้ใช้ชื่อว่า “Disney+ Hotstar”
Disney ได้ใช้ Digital Platform ต่าง ๆ ในการทำการตลาด เพื่อกระตุ้นการรับรู้และขยายฐานผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นการนับถอยหลังสู่การเปิดตัว Disney+ Hotstar ผ่าน Youtube ในประเทศมาเลเซีย ตามหัวข้อที่มีองค์ประกอบทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เป็นที่รู้จักเพื่อขับเคลื่อนความเกี่ยวข้องในพื้นที่ต่าง ๆ
ซึ่งถือว่าเป็นการทำการตลาดที่สร้างความตื่นเต้นต่อทุกคนที่ตั้งหน้าตั้งตารอการเปิดตัวครั้งนี้ นอกจากนี้ ทาง Disney+ Hotstar ของประเทศไทยได้มีการนำนักร้องและนักแสดงหน้าหนึ่งของประเทศมาร้องเพลงประกอบหนังต่าง ๆ เพื่อโปรโมตการเปิดตัวในครั้งนี้ แน่นอนว่าผู้ฟังจะได้ปลดล็อกสกิลหูทองคำกันเลยทีเดียว
ส่วนการใช้บริการของ Disney+ Hotstar ในประเทศไทยนั้นเรียกได้ว่ากินใจผู้ชมสุด ๆ เพราะ Disney ได้ตั้งราคาที่ทำให้ทุกคนตัดสินใจสมัครได้อย่างไม่ลังเล โดยการจับมือกับค่ายโทรศัพท์ที่มีฐานผู้ใช้งานสูงในประเทศไทยอย่าง AIS ซึ่งมีค่าบริการเพียง 35 บาทต่อเดือนในปีแรก และไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้นแต่ในอีกหลาย ๆ ประเทศทำให้ในปัจจุบัน Disney+ Hotstar มียอดสมาชิกแซง Netflix ในหลายประเทศทั่วโลก แม้จะเพิ่งเปิดตัวมาได้เพียงไม่กี่เดือน
1
โฆษณา