4 ก.ค. 2021 เวลา 09:55 • ความคิดเห็น
ในการบวชตามพุทธศาสนา ก็บวชได้เฉพาะเพศชาย ซึ่งในลึกๆ แล้วเหตุผลทำไม ก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ผมเชื่อตามพุทธองค์ว่า
1
ในความคิดผม ในเรื่องเพศที่สาม ไม่ว่าท่านจะเป็นเพศไหน ท่านเลือกได้แค่ภายนอก แต่เนื้อแท้แล้วท่านเลือกไม่ได้ ผมคิดว่ามันไม่ใช่รสนิยมที่จะบอกว่าชอบเพศไหนได้ เพราะเรื่องเพศมาจากจิตใต้สำนึกสั่งให้ร่างกายมีปฏิกิริยา มีอารมณ์ มีความรู้สึกตามจิตใต้สำนึก เราควบคุมไม่ได้ ดังนั้นเพศที่สามอาจมีปัญหาในการอยู่ร่วมกันได้ถ้าหากสามารถบวชได้
1
ในความเห็นต่าง หากมองในมุมปุถุชนอย่างเราๆ หรือสมมติสงฆ์ ก็อาจมองได้ว่าเพศอื่นก็บวชได้ นั่นก็อาจจะจริง ในความคิดผมถ้าเพศอื่นบวชได้จริง..
สำหรับเพศหญิงบวช .. เราต้องมีวัดหญิงไหม แค่มีกุฏิหญิงในวัดชายคงไม่ได้ เพราะทุกวันนี้ยังมีเรื่องเสื่อมทางเพศในผ้าเหลืองเกิดขึ้นเลย
สำหรับเพศอื่นบวช ก็คงคล้ายกัน หากชายไม่แท้บวช เมื่อท่านเข้าไปอยู่ที่วัดแล้ว จะควบคุมจิตใจได้อย่างไรไม่ให้หวั่นไหวกับพระชายแท้ เปรียบเทียบก็เหมือนมีพระชายแท้อยู่กับหญิงในที่พัก เป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง
หากหญิงไม่แท้บวช ด้วยสภาพร่างกาย ก็ไม่แตกต่างจากเพศหญิงบวช คืออาจต้องมีวัดหญิง และท่านอาจจะมีปัญหาในวัดหญิงอีกในเรื่องการควบคุมจิตใจอย่างไรไม่ให้หวั่นไหวกับหญิงแท้
ดังนั้นเพศอื่นๆ บวชด้วยใจจะดีกว่าคับ แม้แต่พระสงฆ์เอง ที่มีทั่วไปส่วนใหญ่ก็เป็นสมมติสงฆ์ ไม่ใช่ว่าบวชแล้วจะเป็นพระอริยสงฆ์ เพียงแต่ท่านถือศีลมากกว่าคนทั่วไป ถ้าเราศรัทธาในพุทธศาสนาจริง แม้ไม่บวชก็ก้าวหน้าในทางธรรมได้
ท่านทั้งหลายทุกเพศที่อยากบวชมีเหตุผลอะไรที่อยากบวชครับ ถ้าเป็นเรื่องความรู้ ทางทฤษฎี ปฏิบัติ ผมเชื่อว่าเราเรียนรู้กันได้ มีหลายวิธีในการเข้าถึง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอบรมต่างๆ หรือกัลยาณมิตรเองก็ตามสามารถช่วยได้ เหตุผลนอกจากนี้คืออะไรคับ
มาเพิ่มในเรื่องของความเท่าเทียมกัน มันไม่มีอยู่จริงคับ ในเมื่อคนเราเกิดมาแตกต่าง ตั้งแต่ร่างกาย จิตใจ สมมติว่าออกกฎหมายให้เรียกคนอ้วนว่า คนผอม และงดใช้คำว่าอ้วน เพื่อลดปัญหาคนอ้วนฆ่าตัวตาย (ไม่ได้ว่าใครนะคับ) ถึงแม้จะทำได้จริง แต่เนื่อแท้คนอ้วนก็รู้ตัวเองดีอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต่างอะไรกับการที่สังคมปัจจุบันจะตกลงให้มีภิกษุณีได้ แต่ในความเป็นจริงมันสิ้นสุดลงตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว สิ่งนี้กลับจะกลายเป็นอัตตาที่ขวางภิกษุณีทั้งหลายให้เสื่อมถอยลงเสียอีก ในเรื่องเพศที่สามก็ไม่ต่างกัน
โฆษณา