4 ก.ค. 2021 เวลา 12:27 • การศึกษา
ตัวหนังสือจีนที่คนจีนอ่านไม่ออก เพราะญี่ปุ่นเป็นคนสร้าง
凩(こがらし)
ออกเสียงว่า มู่ ซึ่งหมายถึงลมหนาว และการออกเสียงภาษาญี่ปุ่นก็เหมือนกับ: 木枯し
凪(なぎ)
ออกเสียงว่า จื่อ อันที่จริงไม่มีการออกเสียง แต่วิธีการป้อนข้อมูลถูกบันทึกเป็น zhǐ ดูจากคำก็คือ “风 (ลม)+止 (หยุด)” แปลว่า เงียบสงบ
畑(はた)
ออกเสียงว่า เถียน และมักใช้ในชื่อภาษาญี่ปุ่น เช่น โคฮาตะ ปรมาจารย์ด้านแอนิเมชั่นชาวญี่ปุ่น ซึ่งเสียชีวิตในปีนี้ ทาเคชิ โอบาตะ นักเขียนการ์ตูนเรื่อง Death Note ความหมายพื้นฐานของคำนี้ หมายถึง ดินแดนแห้งแล้ง ทุ่งนา และความเชี่ยวชาญ
雫(しずく)
ออกเสียง หน่า / เซี่ย คำข้างบนคือ ฝน (雨) ข้างล่างคือ ลง (下) ซึ่งหมายถึงหยดน้ำ คำนี้มักใช้ในชื่อผู้หญิงญี่ปุ่น ตัวอย่างเช่น Kitayama Shizuku เป็นตัวละครในอนิเมะเรื่อง 'The Inferior Students in Magic High School'
桜(さくら)
ออกเสียงว่า อิง ทุกคนคงคุ้นเคยกันดี มันถูกดัดแปลงและทำให้ง่ายขึ้นบนพื้นฐานของคำว่า 'ซากุระ' ซึ่งหมายถึงดอกซากุระและต้นซากุระ
枠(わく)
ออกเสียงว่า หัว ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง ขอบเขต และเฟรม ในภาษาจีนมีความหมายเหมือนกับคำว่า 桦
峠(とうげ)
ออกเสียงว่า เฉี่ย อันที่จริงนี่ถือได้ว่าเป็นอักษรจีนโบราณ หมายถึง ' 卡' ในสมัยโบราณ แต่ยังคงใช้ในญี่ปุ่น แปลว่า ยอดภูเขา ยอด.
榊(さかき)
ออกเสียงว่า เสิน เป็นชื่อสถานที่ในญี่ปุ่น แต่ก็หมายถึง ต้นหยางตงซู ด้วย ต้นไม้ชนิดนี้ถือได้ว่าเป็นพืชที่ขาดไม่ได้ในศาสนาชินโตของญี่ปุ่น กิ่งสามารถใช้ประดับศาลเจ้าหรือใช้ในเทศกาลได้ จึงมีชื่อในญี่ปุ่นว่า 'มาซากิ'
躾(しつけ)
ออกเสียงว่า เม่ย แท้จริงแล้ว มันมาจาก 'ร่างกาย(身) + ความงาม(美)' ซึ่งหมายถึงการศึกษาและการฝึกฝนของผู้คน และเป็นตัวอักษรจีนที่สร้างขึ้นหลังจากกำหนดมารยาทในศิลปะการต่อสู้ ในภาษาญี่ปุ่น มันยังหมายถึงการเย็บ ด้ายยืด
杣(そま)
ออกเสียงว่า เมี๋ยน เป็นอักษรจีน-ญี่ปุ่นที่มีรูปร่างเหมือนกัน แม้จะมีรูปร่างเดียวกับอักษรจีน '杣' แต่ความหมายของคำก็ต่างกันมาก ในภาษาจีนหมายถึงชายคา และในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงต้นไม้ ไม้โค่น และไม้แปรรูป
โฆษณา