6 ก.ค. 2021 เวลา 02:50 • ธุรกิจ
กรณีศึกษา Megachef น้ำปลา ที่เจาะตลาดพรีเมียม
2
รู้หรือไม่ว่าตลาดน้ำปลาในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท
แบ่งเป็นมูลค่าตลาดน้ำปลาแท้ประมาณ 5,000 ล้านบาท
 
ซึ่งตลาดน้ำปลาแท้ ก็เป็นอีกลักษณะธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูง
โดยจะแข่งขันกันที่ มาตรฐาน คุณภาพ การผลิต และรสชาติของน้ำปลา
 
ในประเทศไทยนั้น มีเจ้าตลาดที่ครองตลาดน้ำปลามายาวนาน คือ ทิพรส
ตามมาด้วย น้ำปลาตราปลาหมึก ซึ่งเป็นผู้เล่นอันดับ 2
3
กรณีศึกษา Megachef น้ำปลา ที่เจาะตลาดพรีเมียมแต่รู้หรือไม่ว่า มีน้ำปลาแบรนด์หนึ่งที่ได้สร้างจุดยืนที่ชัดเจน
ว่าเป็น น้ำปลาแท้เกรดพรีเมียม คุณภาพสูง แตกต่างจากแบรนด์อื่น
นั่นก็คือ “Megachef” ที่ตอนนี้กำลังเข้ามาร่วมแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดน้ำปลา
 
แล้วเรื่องราวของ Megachef จะน่าสนใจขนาดไหน ?
น้ำปลาพรีเมียมต่างจากน้ำปลาทั่วไปอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1
จุดเริ่มต้นของ น้ำปลาพรีเมียม แบรนด์ Megachef ก่อตั้งโดยคุณภาส นิธิปิติกาญจน์
หรือทายาทรุ่นที่ 3 ของบริษัท โรงงานน้ำปลาไทย (ตราปลาหมึก) จำกัด
 
โดยบริษัทแห่งนี้ก็เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำปลา ตรา “ปลาหมึก” แบรนด์น้ำปลาที่คนไทยคุ้นเคยกันดีและครองส่วนแบ่งการตลาดน้ำปลาแท้ในอันดับที่ 2 อยู่นั่นเอง
หลังจากที่คุณภาส ได้เข้ามาช่วยธุรกิจของครอบครัวและเก็บเกี่ยวประสบการณ์การบริหาร
และการตลาดมานานเกือบ 6 ปี
เขาจึงได้ก่อตั้งบริษัท สินวารีพัฒนา จำกัด ขึ้นในปี 2546 หรือเมื่อ 18 ปีที่แล้ว
โดยเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำปลา ภายใต้ชื่อแบรนด์ใหม่อย่าง “Megachef”
แต่ด้วยความที่เป็นแบรนด์ใหม่ แถมราคายังสูงกว่าน้ำปลาอื่น ๆ ในตลาดน้ำปลาประเทศไทย
Megachef จึงมีเป้าหมายไปที่ตลาดต่างประเทศ ที่มีน้ำปลาคุณภาพและราคาใกล้เคียงกัน
โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทยในต่างแดน และกลุ่มคนต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารไทย
3
จึงทำให้ Megachef ได้มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปแล้วกว่า 30 ประเทศทั่วโลก
Cr.franchise-solution
แล้วคำถามที่ตามมาก็คือ Megachef หันมาโฟกัสกับตลาดในประเทศไทยตอนไหน ?
ในช่วงปีที่ผ่านมา ทุกธุรกิจล้วนต้องเจอความท้าทายจากวิกฤติโควิด 19
ซึ่งทาง Megachef เองก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสถานการณ์นี้ได้
1
เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ตลาดทั่วโลกมีการชะลอการสั่งซื้อสินค้า
ตามมาตรการของแต่ละประเทศเป็นระยะเวลาหนึ่ง รวมถึงปัญหาการส่งออก ที่พบปัญหาเรื่องการขนส่งไม่เพียงพอ ไม่ตรงตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ทำให้การส่งสินค้าเป็นไปอย่างล่าช้า
ดังนั้นแทนที่ Megachef จะนิ่งนอนใจ และรอให้สถานการณ์กลับเป็นปกติ
พวกเขามีวิธีแก้ไข และรับมือกับวิกฤติดังกล่าว
โดยใช้โอกาสที่การดำเนินธุรกิจต่างประเทศติดขัด จึงหันมากระตุ้นตลาดภายในประเทศ
ให้เติบโตมากขึ้น ผลักดันสินค้าอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ พื้นที่
แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็ออกมาดี จนทำให้ Megachef สามารถสร้างยอดขายให้เติบโต
สะท้อนออกมาเป็นรายได้ของ Megachef ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
ปี 2560 มีรายได้ 274 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 345 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้ 398 ล้านบาท
ปี 2563 มีรายได้ 452 ล้านบาท
เรียกได้ว่า Megachef ทำผลประกอบการเติบโตได้อย่างโดดเด่น
โดยรายได้เติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 18% ต่อปี ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วน้ำปลา Megachef
แตกต่างจากแบรนด์อื่นในตลาดอย่างไร ?
นอกจากการสร้างจุดยืนของแบรนด์ที่ชัดเจนว่าเป็นน้ำปลาพรีเมียมแล้ว
สิ่งที่น่าสนใจอย่างแรกคือ คุณภาพของสินค้า โดยน้ำปลา Megachef นั้นทำมาจากปลาสดและเกลือทะเล ไม่ใส่สารปรุงแต่งกลิ่นหรือสารกันบูด และยังมีกรรมวิธีการหมักจากวัตถุดิบธรรมชาติเป็นเวลากว่า 2 ปี
ถึงแม้ว่ากระบวนการผลิตน้ำปลาของ Megachef นั้นจะใช้ระยะเวลานาน
แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพสินค้าและผลตอบแทนที่ผู้บริโภคจะได้รับจากแบรนด์ เวลาที่เสียไปก็ถือได้ว่าคุ้มค่ามากทีเดียว
1
อีกทั้ง Megachef มีระดับสารฮิสตามีนในระดับต่ำ ซึ่งฮิสตามีน (Histamine) เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่พบได้ในอาหารทะเลหลายชนิด รวมถึงพืชและสัตว์ที่ผ่านการหมักดอง และสารฮิสตามีนจะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อย ๆ ตามความไม่สดของอาหารทะเล
ในขณะที่น้ำปลาส่วนมากในประเทศไทย จะมีค่าฮิสตามีนในน้ำปลาเฉลี่ยอยู่ที่ 400-600 ppm
4
น้ำปลา Megachef ได้มีการควบคุมระดับค่าฮิสตามีนให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 100 ppm เท่านั้น
3
Cr.megachefsauce
เรื่องดังกล่าวก็อาจจะเป็นส่วนที่ช่วยให้ผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่หันมาใส่ใจสุขภาพของตนเองมีตัวเลือกมากขึ้น
และในบางประเทศอย่าง ประเทศญี่ปุ่นที่มีกฎหมายควบคุมเกี่ยวกับการนำเข้าอาหารที่เข้มงวด ได้กำหนดค่าฮิสตามีนในน้ำปลาให้ไม่เกิน 60 ppm
ทำให้ Megachef เป็นหนึ่งในน้ำปลาไม่กี่แบรนด์จากประเทศไทย ที่สามารถส่งออกไปขายในประเทศญี่ปุ่นได้
รวมถึงวัตถุดิบที่นำมาผลิตมีคุณภาพสูง มีสัดส่วนโปรตีนที่สูงกว่าน้ำปลาเจ้าอื่นในตลาด ส่งผลให้รสชาติอาหารที่ปรุงออกมาจากน้ำปลาของ Megachef มีรสชาติกลมกล่อมมากขึ้น
2
ทั้งหมดนี้ก็น่าจะเป็นส่วนผสมสำคัญที่ทำให้ชื่อของ Megachef ถูกแนะนำปากต่อปาก จนค่อย ๆ กลายเป็นน้ำปลาพรีเมียมที่หลายคนติดใจ
ปัจจุบัน Megachef ก็ยังมีเป้าหมายระยะยาวในการขยายตลาดในกลุ่มสินค้า ประเภทซอสปรุงรส โดยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคต
ซึ่งผลิตภัณฑ์ทุกตัวก็จะเน้นเรื่องคุณภาพ รสชาติ และประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีลักษณะเด่นคือ สินค้าทุกตัวจะต้องไม่มีวัตถุกันเสียทั้งหมด
ก็น่าติดตามต่อไปว่าหลังจากสำเร็จจากธุรกิจน้ำปลาพรีเมียมแล้ว Megachef จะรุกเข้าสู่ซอสปรุงรสประเภทไหน
มาถึงตรงนี้ ก็ต้องบอกว่าเรื่องราวของ Megachef ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
เพราะจริง ๆ แล้ว แบรนด์นี้เกิดขึ้นมาจากการสืบทอดธุรกิจครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น
1
Megachef สะท้อนให้เห็นว่าในบางครั้ง
เราก็ไม่จำเป็นต้องทำธุรกิจในรูปแบบเดิมเสมอไป
หากเราปรับตัวและคอยมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ มาพัฒนาและต่อยอด
รวมถึงนำประสบการณ์และทักษะที่ได้รับจากครอบครัว
เราก็อาจจะทำให้ธุรกิจครอบครัวที่มีอยู่แล้ว เติบโตไปได้ไกลขึ้นอีกในอนาคต
6
เหมือนอย่างที่ Megachef ได้ลองนำธุรกิจน้ำปลาที่บ้าน
มาต่อยอดเป็นแบรนด์น้ำปลาพรีเมียม ที่ตอนนี้นอกจากจะกำลังขายดีในประเทศไทยแล้ว
ธุรกิจน้ำปลาของครอบครัว ก็ยังได้ไปไกลถึงตลาดต่างประเทศแล้ว นั่นเอง..
References:
-สัมภาษณ์โดยตรงกับ Megachef
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
โฆษณา