จนในวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ.1871 ในเมืองชิคาโกจึงได้ประกาศกฎอัยการศึก ทหารหลายกองพันถูกเรียกตัวไปควบคุมสถานการณ์ที่เมืองชิคาโก ก่อนที่จะควบคุมสถานการณ์ได้ และยกเลิกกฎอัยการศึกในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา
1 เดือนหลังจากเกิดเพลิงไหม้ โจเซฟ เมดิลล์ ได้ถูกรับเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีนครชิคาโก เขาได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเริ่มก่อสร้างและปรับปรุงอาคารในเมืองทั้งหมด โดยให้มีความเข้มงวดเรื่องการป้องกันอัคคีภัยมากขึ้น และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการสร้างอาคารและผังเมืองที่ช่วยปกป้องประชาชนจากอัคคีภัยอย่างเห็นได้ชัดจนถึงปัจจุบัน
สถาปนิกในนครชิคาโกได้เริ่มวางรากฐานการสร้างอาคารในเมืองใหม่ทั้งหมด ซึ่งได้กลายเป็นต้นแบบของการสร้างเมืองสมัยใหม่ อาคารที่ล้อมรอบไปด้วยวัสดุป้องกันไฟ ทุกชั้นจะต้องมีทางออกหนีไฟไปยังชั้นล่างได้อย่างง่ายดาย ยังไม่รวมถึงผังเมืองที่ทุกอาคารจะต้องติดกับถนนขนาดใหญ่ซึ่งสามารถให้รถดับเพลิงเข้าไปได้ และสามารถอพยพผู้คนได้อย่างสะดวก
และนั่นทำให้เกิด “The Home Insurance Building” มันเป็นตึกระฟ้าแห่งแรกในโลก ที่ถูกสร้างขึ้นในนครชิคาโกในปีค.ศ. 1885 เพียง 14 ปีหลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ แม้ว่าจะมีความสูงเพียง 10 ชั้น แต่อาคารนี้เป็นอาคารแห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้นวัตกรรมการสร้างอาคารจากเหล็ก รวมถึงการคิดค้นกระบวนการผลิตเหล็กจำนวนมากเพื่อใช้ในการสร้างอาคาร จนกลายเป็นต้นแบบของอาคารระฟ้าหลายแห่งทั่วโลกในปัจจุบัน
ถึงแม้จะเกิดไฟไหม้รุนแรงขึ้น แต่โครงสร้างพื้นฐานของนครชิคาโกส่วนใหญ่ รวมถึงระบบขนส่งต่างๆ ยังคงไม่บุบสลาย ผู้คนในนครชิคาโกต่างช่วยกันฟื้นฟูเมืองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว รวมถึงนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเติบโตของประชากรอย่างยิ่งยวดได้ทำให้นครชิคาโกนั้นกลับมายิ่งใหญ่อย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลาที่เกิดเพลิงไหม้ ประชากรของนครชิคาโกมีประมาณ 324,000 คน ในอีก 9 ปีต่อมา มีชาวชิคาโกประมาณ 500,000 คน และในปีค.ศ.1890 เมืองนี้ได้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการคมนาคมขนส่งที่สำคัญ และปัจจุบันนั้นมีประชากรประมาณกว่า 2.71 ล้านคน
“สัปดาห์การป้องกันไฟ” หรือ “Fire Prevention Week” เป็นสัปดาห์แห่งการระลึกซึ่งมีขึ้นทุกสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมในทุกปี เพื่อเป็นการระลึกถึง“เพลิงไหม้ครั้งยิ่งใหญ่ในชิคาโก” หรือ “Great Chicago Fire” ที่เกิดขึ้นช่วงต้นเดือนตุลาคมเช่นกัน