เขียนถึง Too Good at Goodbyes โดย Proad
.
Top Notes: Aldehydes, Bergamot, Mandarin, Neroli
Middle Notes: Rose, Geranium, Freesia, Peony, Jasmine, Ylang Ylang
Base Notes: Vanilla, Patchouli, Tonka Bean, Musk, Sandalwood, Ambergris
.
ออกตัวก่อนนะคะว่า ไม่กล้าเรียกโพสต์นี้ว่าเป็นรีวิว เพราะรู้ตัวว่ายังไม่สันทัดในการจำแนกกลิ่นต่างๆมากขนาดนั้นค่ะ เลยคิดว่า อยากจะเขียนถึงน้ำหอมตัวนี้ ในฐานะผู้ใช้ธรรมดาๆคนนึงแล้วกันค่ะ
เดิมที เคยเป็นคนบ้าน้ำหอม แต่ความที่กลัวจะล้มละลายก่อนตาย เลยต้องกดความบ้าคลั่งไว้ จนวันนึงมาเจอแบรนด์โปรด ซึ่งตรงจริตมาก ทั้งความเป็นน้ำหอม Niche ความเป็น House เล็กๆ ที่ทำให้โอกาสเดินไปซ้ำกับคนอื่นก็ยากขึ้นไปอีกหน่อย ไปจนถึงค่าตัวที่ทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นเยอะ (เมื่อเทียบกับสรรพันเทพเทพาอย่าง Xerjoff, By Kilian หรือ Clive Christian อะไรพวกนั้น ซึ่งถ้าตามซื้อทุกตัวที่ชอบ อาจต้องขายบ้านขายรถกันเลยทีเดียวค่ะ 😂)
ย้อนกลับไปวันไปซื้อ เรามีโจทย์ที่ง่ายมากนั่นคือ ขอเบสวานิลลา และกลิ่นที่ดึงดูดจมูกเพศตรงข้าม (เป็นคนชัดเจนมากค่ะ 😂 เพราะถ้าไม่เน้นดึงดูด กลับไปทามองเล่ยะอย่างเดิมก็ด้ายยยย) น้อง พนข. ก็น่ารักเหลือใจ หลังฟังโจทย์แล้ว ก็หยิบตัวนี้มาให้ทันที พร้อมกระซิบกระซาบ
"เชื่อผมเถอะพี่... ตัวนี้ๆๆ รับรอง"
แต่รับรองอะไร น้องก็ไม่ยักพูดต่อนะคะ 5555
หลังจากน้องฉีดให้ลองดมบนหลังมือ บัตรเครดิตก็ปลิวออกจากกระเป๋าตังค์ไม่รู้ตัว เอาล่ะ ต่อจากนี้จะเป็นส่วนของการเขียนถึงตัวน้ำหอมซะทีนะคะ หลังจากน้ำท่วมทุ่งมานาน
ลักษณะกลิ่น: ส่วนตัวมีความคิดว่า กลิ่นตัวนี้มีความ Complex ประมาณนึงเลยทีเดียว นั่นคือ กลิ่นเปิดกับกลิ่นปิด ค่อนข้างต่างกันอยู่พอตัว กลิ่นเปิดสำหรับเรา มันจะเป็นกลิ่น Top notes ตามที่ลิสต์ไว้นั้นจริงๆ แต่จากนั้น ไม่นาน เรียกว่าแวบเดียว กลิ่นก็พัฒนาเข้าสู่ช่วง Middle notes เร็วมาก นั่นคือ มีความสวนดอกไม้มาแบบเต็มๆ ให้ความรู้สึกเหมือนมีกิจการค้าดอกไม้อยู่ปากคลองตลาด เพราะเล่นขนกันมาทั้งมะลิ กระดังงา Geranium Peony และกุหลาบ ความแปลกอยู่ตรงนี้ค่ะ ทั้งที่ส่วนตัวจริงๆแล้ว เป็นคนไม่ชอบกลุ่มกลิ่นดอกไม้เลยยยยย และแต่ละตัวที่ใส่มานี่ เป็นตัวที่ปกติจะไม่ถูกกับจมูกมาก (โดยเฉพาะกระดังงา มะลิ และ Peony) แต่พอมาอยู่รวมกันเป็นชุมชนปากคลองตลาด กลับน่าดมซะงั้น เป็นดอกไม้ที่ให้ความรู้สึกซับซ้อน เหมือนความยากในอารมณ์ของผู้หญิง ที่เดาสามวันเจ็ดวันก็เดาไม่จบ 5555
หลังจากนั้นไม่นานนัก จะพัฒนาเข้าสู่ Base notes ก่อนจะเป็น Dry down ซึ่งเป็นกลิ่นที่เราชอบที่สุด เพราะมากันทั้งวานิลลา Patchouli และ Sandalwood บวกความเป็น Musk หน่อยๆ แต่กลิ่นที่เด่นที่สุดคือ วานิลลาและ Patchouli ซึ่งเป็นสองกลิ่นที่เราชอบมาก บางขณะที่สูดดมเข้าเต็มปอด ก็จะได้กลิ่น Sandalwood แทรกขึ้นมาอย่างพองาม เหมือนกลัวแย่งซีนวานิลลา
แคแรกเตอร์กลิ่น: มีความเป็นผู้หญิงสูงมากกกกก มากจนบังอาจสงสัยว่า ถ้าผสมกับเหงื่อผู้ชาย หรือถ้าผู้ชายลองใส่จะเป็นยังไงบ้าง ตัวกลิ่นให้ความรู้สึกถึงผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ มีความ Mature และผ่านโลกมาประมาณนึง ในระดับที่ยังไม่ถึงกับกร้านโลก เป็นผู้หญิงที่ลึกลับ คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ แต่ก็เป็นน้ำเย็นและความสบายใจให้คนอยู่ใกล้ ยามเมื่อถึงช่วง dry down
ส่วนผลของการทดลองให้หนุ่มๆดม: Fail ค่ะ
หนุ่มไม่ชอบ?
ไม่มีหนุ่มให้ลองค่ะ 5555 ช่วงโควิดดดด เค้าห้ามออกนอกบ้านอะเนอะ ถามแมว แมวก็ไม่ตอบ เชอะ...
ความคงทน:
Longevity - เอาไป 7/10 เคยฉีดตอนเข้านอน และเนื่องจากเป็นคนขี้เกียจ เน้นนอนนาน เมื่อตื่นอีกทีหลังการนอนนานๆนั้น ยังพอได้เค้าลางกลิ่นอยู่บ้าง
Projection - วันก่อนค่ะ แต่งตัวเสร็จ เดินลงมาข้างล่าง ลูกชายที่เรียนออนไลน์ห่างไปประมาณ 4 เมตร บ่นออกมาว่า "Mommy, your perfume!" แต่ก็ไม่ทุกครั้งนะคะ โดยรวมๆให้ 7/10 อีกเช่นกัน
Silage - ข้อนี้ตอบยาก เพราะทุกวันนี้เดินแค่สวนหน้าบ้าน ถามนก นกก็ไม่ตอบ ถามแมว แมวก็เดินหนี จบข่าวค่ะ ไม่รู้จะให้คะแนนยังไง
ภาพรวม - 8/10 ให้คะแนนความพิเศษของกลิ่น ความยูนีคที่ส่วนตัวยังนึกไม่ออกว่าคล้ายกลิ่นไหน (แต่เป็นคนมีประสบการณ์กับน้ำหอมยังน้อยอยู่นะคะ ออกตัวก่อน แหะๆ) ความคุ้มค่ากับราคา และที่สำคัญ เพิ่มคะแนนสิเนหาให้กับน้องๆพนักงานขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ค่ะ
น้องน่ารักขนาดที่ คำแนะนำเราคือ จิตไม่แข็งอย่าเดินเข้าเคาน์เตอร์ ได้เสียเงินไม่รู้ตัวแน่นอน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
