ทำไม NETFLIX ถึงเปย์ไม่อั้นให้กับคนเก่ง!
เป็นที่รู้กันว่า องค์กรที่เติบโตแบบไต่ระห่ำและ "คลั่งคนเก่ง" อย่างเน็ตฟลิกซ์ยินดีจ่ายไม่อั้น เพื่อได้ตัวท็อปในท้องตลาด มาลงในตำแหน่งต่างๆ ที่เหมาะเจาะ นั่นอาจฟังดูหวือหวา น่าอิจฉา แต่ราคาที่ "คนเก่ง" เหล่านั้นต้องจ่ายเพื่อแลกกับได้การทำงานที่ “องค์กรเก่ง” อย่างเน็ตฟลิกซ์นั้นก็ไม่น้อยเช่นกัน เพราะอะไรน่ะหรือ…
1. เพราะคุณต้องเข้าร่วมวัฒนธรรมที่ขึ้นชื่อว่า "แรง!" ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ถ้าคุณอยากเข้าทำงานที่เน็ตฟลิกซ์ เตรียมเหลาทักษะการปะ ฉะ ดะ กับคนเก่งคนอื่นๆ เอาไว้เลย เพราะองค์กรเก่งที่ได้คนเก่งมาแล้ว มีหรือจะไม่คาดหวังให้คนเหล่านั้น ปล่อยของแบบไม่ยั้ง นิสัยกล้าถกเถียงคัดง้างอย่างเต็มเหนี่ยวเพื่องาน เป็นสิ่งที่คุณถูกคาดหวังอย่างหนักหน่วงที่เน็ตฟลิกซ์
"ทีมผู้บริหารของเน็ตฟลิกซ์เราแรง เวลาคาดคั้นเอาความเห็นจากใคร เราเชื่อว่าคนคนนั้นฉลาดมากจนเราอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงคิดอย่างนั้น ทีมผู้บริหารทำตัวเป็นแบบอย่างให้พนักงานเรื่องการตั้งคำถามอย่างดุเดือด และการถกเถียงกันอย่างเปิดเผย"
และถ้าคุณคิดแค่มีวาทศิลป์ก็รอดตัวได้ ถือว่าเข้าใจผิดมหันต์ เพราะจริงๆ แล้วคุณต้องทำงานบ้านอย่างหนัก ถึงหนักมาก จึงจะโน้มน้าวให้องค์กรที่เต็มไปด้วยคนเก่ง เข้าใจ และเห็นชอบกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง "จะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าคนพูดไม่ยอมอธิบายเหตุผลตามจริง สิ่งหนึ่งที่เป็นภัยมหันต์ต่อองค์กร คือ คนที่เถียงเก่งเถียงชนะเพราะโน้มน้าวใจคนเก่ง ไม่ใช่เพราะเอาความจริงมาพูดกัน" แพตตี้ แมคคอร์ด เขียนไว้ใน "ทำไม NETFLIX ถึงมีแต่คนโคตรเก่ง"
2. เน็ตฟลิกซ์ถือว่า "จ่ายเพื่ออนาคต"
ที่เน็ตฟลิกซ์ยินดีจะจ่ายเงินเดือนให้คนคนหนึ่งสูงลิ่วกว่าราคาสูงสุดของตลาดแบบไม่กระพริบตา มีเหตุผลสำคัญอยู่เบื้องหลัง ยิ่งสำหรับบริษัทในซิลิคอนแวลลีย์ ที่นวัตกรรมแห่งอนาคต และการทำสิ่งที่ปฏิวัติวงการไม่จบไม่สิ้น คือ ทุกสิ่งทุกอย่าง และคือการอยู่รอดอย่างยั่งยืน เน็ตฟลิกซ์มองว่าค่าตอบแทนที่ให้แก่คนเก่งที่บริษัท ต้องการจริงๆ เป็นหนี้ค้างชำระที่ต้องจ่ายเพื่อสร้างอนาคต
"เช่นว่า เราอุตส่าห์หาตัววิศวกรซอฟต์แวร์ที่มีคุณสมบัติตรงตามต้องการมาได้และทุกคนก็ชอบเธอมาก แต่บริษัทคู่แข่งเสนอเงินเดือนให้เธอ สัก 35,000 ดอลลาร์ ซึ่งเยอะกว่าที่คุณตั้งใจจะจ่ายมาก คุณต้องพิจารณาว่าธุรกิจจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในอนาคตหากได้เธอมา ไม่ใช่หาแคนดิเดตที่สองที่คุณสมบัติยังห่างชั้น หรือแทงกั๊กรออีกสองสามเดือนให้มีคนที่มีทักษะสูงแบบคนที่หนึ่งเข้ามาก่อน” แพตตี้ อธิบาย ในหนังสือ
3. คุณอาจไม่ได้อยู่นานที่ NETFLIX
นี่ก็คติอันโดดเด่นอีกข้อของเน็ตฟลิกซ์ "ศิลปะของการจากลาด้วยดี" เน็ตฟลิกซ์ไม่เชื่อเรื่องของเป้าหมายการรักษาคนในองค์กรให้อยู่ยาวนานเท่าที่จะนานได้ ไม่ใช่เพราะมันไม่ดี แต่มันม่จำเป็น และเน็ตฟลิกซ์บอกว่าบริษัท "ไม่ใช่ครอบครัว" ที่ความผูกพันคือทุกสิ่ง
"เราโฟกัสเรื่องความผูกพันที่พนักงานมีต่อบริษัทกันผิดจุดค่ะ ความผูกพันกับการทำงานได้ดีไม่ได้เกี่ยวข้องกัน" แพตตี้ แมคคอร์ด กล่าวในหนังสือเช่นกัน
เน็ตฟลิกซ์เชื่ออย่างหนักแน่นว่า คนที่สำคัญที่สุดในนาทีนี้ ไม่จำเป็นต้องสำคัญในวันข้างหน้า การแยกย้ายไปหาความท้าทายใหม่ๆ เป็นเรื่องธรรมดาที่น่ายินดี ไม่ใช่น่าเศร้า
แม้แต่ตัว แพตตี้ แมคคอร์ด ผู้เขียน "Powerful" หรือ "ทำไม NETFLIX ถึงมีแต่คนโคตรเก่ง" ที่ร่วมปลุกปั้นเน็ตฟลิกซ์เคียงบ่าเคียงไหล่ผู้ก่อตั้ง รีด เฮสติ้งส์ มากว่า 14 ปี ในฐานะเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายจัดสรรทรัพยากรบุคคล จนฝ่ายบุคคลของเน็ตฟลิกซ์แข็งแกร่งและเขี้ยวลากดินมาจนถึงทุกวันนี้ ก็ได้มาเขียนหนังสือธุรกิจเล่มเยี่ยมที่โด่งดังทั่วโลกเล่มนี้ ตอนที่เธอออกจากเน็ตฟลิกซ์มาแล้ว (ด้วยดีและยังเป็นมิตรเหนียวแน่นของ รีด) เพราะมองว่า ภารกิจที่ท้าทายสุดของเธอที่นั่นเสร็จสิ้นลงแล้ว
อีกหลายความลับของแรงดึงดูดระหว่าง "คนเก่ง" กับ "องค์กรเก่ง" ที่จะนำพาคุณและองค์กรพุ่งทะยานสู่ความเป็นหนึ่ง จัดไปเล่มนี้ ไม่ผิดหวัง
ข้อมูลดีๆ จากหนังสือ "ทำไม NETFLIX ถึงมีแต่คนโคตรเก่ง"
โดย แพตตี้ แมคคอร์ด
สำนักพิมพ์ Amarin HOW-TO
สั่งซื้อ > https://bit.ly/36wMrB1
- 117
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
