คนธรรมดาอย่างเราๆไม่ว่าจะบวชหรือไม่บวชคงไม่สามารถเป็นอริยบุคคลได้หรอกครับเพราะคนธรรมดาแบบเราๆผมตีความว่าคนในสังคมปกติที่มีครบใน ตันหา ราคะ สนใจในการดำรงอยู่ ยึดมั่นถือมันเป็นของธรรมดา ต่อให้บวชกี่พรรษาก็เป็นได้แค่คนเราๆ เพราะเราๆก็เป็นแบบนี้แหละหวังหาความสุขจากกองเงินกองทองกองกิเลส และเช่นกัน การที่จะยกระดับจิตใจให้สูงจนไปสู่ขั้นอื่นๆก็ไม่เกี่ยวกับการบวช คนปกติไม่ต้องสวมเครื่องแบบนักบวชก็ไปถึงนิพพานได้ คนผู้นั้นมุ่งสู่หลักธรรมมุ่งหาความสุขตามหลักธรรม ละทิ้งกิเลส ตัญหา ไม่ยึดมั่นถือมั่น ขัดเกลาปัญญา ศึกษาธรรมะเพื่อการหลุดพ้น ธรรมะเกิดมาก่อนพระพุทธโคดมและมีผู้ประเสริฐที่หลุดพ้นไปก็เยอะแล้ว มันเลยไม่เกี่ยวกับการบวชหรือไม่ ส่วนการจะกลับมาเกิดอีกกี่ชาติมันก็อยู่ที่กรรม หากชาตินี้ยังสร้างกรรมก็ยังต้องมีชาติหน้าเป็นวัตตจักรไม่สิ้นสุด เวียนว่ายตายเกินไปตามกรรม
สรุป คนอย่างเราๆ ก็เป็นได้แค่มนุษย์สังคมแบบเราๆจะเป็นอริยะบุคคลคงไม่ได้ บวชไปก็เป็นคนแบบเราๆ เป็นอริยะบุคคลไม่ได้ ต้องทิ้งความเป็นเราๆออกไป ใช้หลักธรรมของพระพุทธองค์ในการดำเนินชีวิตต่อให้ไม่บวชก็ไปถึงขั้นอริยะบุคคลครับ..^^..