7 ก.ค. 2021 เวลา 10:53 • ประวัติศาสตร์
วันสุดท้ายและการตายของ “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler)”
ในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler)” และ “อีวา เบราน์ (Eva Braun)” ภรรยาที่เขาเพิ่งจะแต่งงาน ได้จบชีวิตลงด้วยการฆ่าตัวตายในบังเกอร์ใต้ดินในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
1
การเสียชีวิตของฮิตเลอร์ นำมาสู่จุดจบของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นจุดจบของช่วงเวลาที่มืดหม่นที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์
1
ฮิตเลอร์และเบราน์
แต่ก่อนนั้น ฮิตเลอร์เห็นตนเองเป็นเสมือน “ผู้กอบกู้” แห่งเยอรมนี
ภายหลังจากที่เยอรมนีพ่ายแพ้อย่างน่าอับอายในสงครามโลกครั้งที่ 1 ฮิตเลอร์ก็ได้ให้สัญญาว่าจะนำพาเยอรมนีกลับคืนสู่ความรุ่งเรืองให้ได้
ขณะที่เขียนหนังสือเรื่อง “ไมน์คัมพฟ์ (Mein Kampf)” หรือ “การต่อสู้ของข้าพเจ้า” ฮิตเลอร์ได้กล่าวในหนังสือว่าปัญหาของเยอรมนีนั้นมาจากศัตรูสองกลุ่ม
1
1.ฝรั่งเศส ซึ่งหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ได้กดขี่เยอรมนีมาตลอด
1
2.ชาวยิว ซึ่งทำให้กลุ่มชาติพันธ์อารยันที่บริสุทธิ์ต้องแปดเปื้อน
1
ไมน์คัมพฟ์ (Mein Kampf)
จากนั้น ฮิตเลอร์ก็ได้ขึ้นสู่อำนาจ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนีในปีค.ศ.1933 (พ.ศ.2476) ก่อนที่ในเวลาไม่นาน จะได้เป็นผู้นำสูงสุดแห่งเยอรมนี
หลังจากขึ้นสู่อำนาจ พรรคนาซีของฮิตเลอร์ก็ได้ทำการแบนพรรคการเมืองอื่นๆ ทำให้ไม่มีคู่แข่ง
2
ฮิตเลอร์ได้รุกรานโปแลนด์ในปีค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) จุดชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่ในเวลาต่อมา เขาจะรุกรานชาติต่างๆ ในยุโรปอีกหลายชาติ และทำการกำจัดคู่แข่งทางการเมือง ประหารชาวยิวอีกจำนวนมาก และเริ่มต้นค่ายกักกันแสนโหดร้าย
1
แต่ในเดือนเมษายน ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) สภาพการณ์ก็ได้เปลี่ยนไป เยอรมนีอยู่ในสภาพที่ไม่มั่นคง จวนจะแพ้ และจุดจบของฮิตเลอร์ก็กำลังมาถึง
ในปีค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) สถานการณ์ของเยอรมนีก็ไม่ค่อยดีนัก ก่อนหน้านั้นก็ได้พ่ายในสงครามกับสัมพันธมิตร โดยในปีค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) กองทัพสัมพันธมิตรได้บุกนอร์มังดี ทำให้นาซีต้องถอยร่นกลับไปเบอร์ลิน
1
การบุกนอร์มังดีในปีค.ศ.1944 (พ.ศ.2487)
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) ผู้บัญชาการระดับสูงในกองทัพเยอรมันจำนวนหนึ่ง ได้วางแผนการสังหารฮิตเลอร์ โดยคาดหวังว่าหากฮิตเลอร์ตาย ก็อาจจะสามารถเจรจาสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร
1
แต่แผนการสังหารฮิตเลอร์นั้นล้มเหลว และฮิตเลอร์ก็ได้สั่งประหารชาวเยอรมันกว่า 4,000 คนที่สงสัยว่ามีส่วนในการวางแผนลอบสังหารตน
4
ต้นปีค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) กองทัพโซเวียตได้มุ่งตรงมายังเบอร์ลิน ในขณะที่ทัพสัมพันธมิตรอื่นๆ เช่น กองทัพอเมริกัน ก็กำลังใกล้เข้ามาเช่นกัน
แต่ในเวลานั้น อยู่ๆ ฮิตเลอร์ก็หายตัวไป โดยกองทัพอเมริกันเชื่อว่าฮิตเลอร์น่าจะหนีไปซ่อนตัวที่เทือกเขาในบาวาเรีย
1
กองทัพอเมริกันซึ่งประจำอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมนี ได้รับรายงานว่าผู้สนับสนุนนาซีกว่า 300,000 คน ได้ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา โดยได้รับการสนับสนุนจากโรงงานอาวุธใต้ดิน
รายงานนี้ ทำให้กองทัพอเมริกันเกรงว่าพวกนาซีจะใช้ยุทธวิธีการรบแบบสงครามกองโจร และทำให้สงครามยิ่งลากยาวออกไปอีก
แต่ในความเป็นจริง ในขณะที่ผลของสงครามเริ่มจะแสดงว่านาซีนั้นใกล้จะล่มเต็มที แต่หน่วยโปรปากันด้าของฮิตเลอร์ ก็ยังคงแถลงผ่านทางวิทยุว่าหน่วยอารักขาฮิตเลอร์นั้น จะปกป้องฮิตเลอร์จนถึงที่สุด
2
ส่วนทางด้านฮิตเลอร์ เขาก็ไม่ได้ออกไปจากเบอร์ลิน หากแต่ซ่อนตัวอยู่ในบังเกอร์ลับตลอดปีค.ศ.1945 (พ.ศ.2488)
ห้องจำลองบังเกอร์ของฮิตเลอร์
ในขณะนั้น ทางฝั่งตะวันออก กองทัพแดงของโซเวียตก็กำลังเคลื่อนเข้ามา ส่วนทางตะวันตก กองทัพสัมพันธมิตรชาติอื่นๆ ก็กำลังมุ่งมาเช่นกัน และฮิตเลอร์ก็ตระหนักแล้วว่าตนคงต้องพ่ายแพ้
16 มกราคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) ฮิตเลอร์ได้หลบอยู่ในบังเกอร์ใต้ดิน ซึ่งอยู่ลึกลงไปกว่า 50 ฟุต มีขนาดกว่า 2,700 ตารางฟุต ตกแต่งอย่างหรูหรา อีกทั้งยังมีน้ำสะอาดและไฟฟ้าอีกด้วย
1
บังเกอร์แห่งนี้ช่วยปกป้องฮิตเลอร์และพวกพ้องจากระเบิดของกองทัพสัมพันธมิตร
แต่ถึงอย่างนั้น ฮิตเลอร์ก็ประสบปัญหาทางสุขภาพ ความเครียดจากการทำสงครามทำให้ผมของเขาเริ่มเป็นสีเทา เขาเริ่มมีอาการสั่น ควบคุมตัวเองไม่ได้ สายตาก็เริ่มจะไม่ดี
2
ฮิตเลอร์เพิ่งจะมีอายุเพียง 55 ปี แต่เขาดูแก่กว่าอายุมาก
เมษายน ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) กองทัพแดงได้มาถึงเบอร์ลิน พร้อมทหารอีก 2.5 ล้านนาย และทุกคนก็มุ่งมั่นที่จะกลับไปพร้อมหัวของฮิตเลอร์
1
ในที่สุด จุดจบก็มาถึงแล้ว
ทางด้านฮิตเลอร์ เขาไม่คิดที่จะหนี เขากลัวการถูกจับเป็นมากกว่าความตาย โดยเฉพาะเมื่อเขาได้ยินข่าวลือว่าโซเวียตต้องการจะจับเป็นเขา และจับใส่ในกรง แห่ประจานรอบเบอร์ลิน
ความอับอายนี้ สำหรับฮิตเลอร์ แย่ยิ่งกว่าความตายซะอีก
1
ถึงแม้กองทัพศัตรูจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่ฮิตเลอร์ก็สั่งให้กองทัพเยอรมันสู้ตาย หากผู้บัญชาการคนไหนสั่งถอยทัพ มีโทษประหาร
แต่ฮิตเลอร์ก็รู้ว่ายังไงตนก็ต้องแพ้ และได้ตัดสินใจแต่งงานกับ “อีวา เบราน์ (Eva Braun)” ผู้หญิงที่ฮิตเลอร์มีความสัมพันธ์มาเป็นเวลานาน
อีวา เบราน์ (Eva Braun)
วันที่ 29 เมษายน ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) ฮิตเลอร์ได้แต่งงานกับเบราน์
1
ฮิตเลอร์ได้พบกับเบราน์ครั้งแรกในปีค.ศ.1929 (พ.ศ.2472) ขณะที่เบราน์มีอายุเพียง 17 ปี และทำงานอยู่ในสตูดิโอถ่ายภาพในมิวนิก
ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันมายาวนานถึง 16 ปี โดยฮิตเลอร์ได้ปิดบังความสัมพันธ์นี้ไม่ให้สื่อมวลชนรู้ และเบราน์ก็ภักดีต่อฮิตเลอร์เสมอมา
1
ก่อนจะเข้าพิธีแต่งงาน ฮิตเลอร์ได้สั่งให้เบราน์หนีไป แต่เบราน์ก็ไม่ยอมไป ยืนยันจะขอตายเคียงข้างฮิตเลอร์
1
ฮิตเลอร์ได้ทราบถึงการประหาร “เบนิโต มุสโสลินี (Benito Mussolini)” ผู้นำอิตาลี และทราบว่าศพของมุสโสลินีถูกประชาชนนำมาประจานและลบหลู่
ฮิตเลอร์จึงตั้งใจจะตายด้วยมือตนเอง และให้ศพของตนไหม้ไปให้หมด
29 เมษายน ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) ฮิตเลอร์ได้เตรียมการตายของตน โดยเขาได้สั่งให้บอดี้การ์ดทำลายเอกสารส่วนตัวของเขา และให้แพทย์ทำการทดลองไซยาไนด์กับสุนัขของตนที่ชื่อ “บลอนดี (Blondi)”
1
ที่ให้ทดลองกับบลอนดี นอกจากเป็นการทดสอบประสิทธิภาพยาแล้ว อีกสาเหตุก็คือ ฮิตเลอร์ไม่อยากให้บลอนดีตกอยู่ในมือของโซเวียต และถึงแม้การทดลองจะได้ผล บลอนดีก็ตายตามที่คาด แต่ฮิตเลอร์ก็เสียใจเป็นอย่างมาก
2
ฮิตเลอร์กับบลอนดี
เช้าวันต่อมา 30 เมษายน ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) กองทัพแดงมาใกล้มาก แทบจะอยู่เหนือบังเกอร์ของฮิตเลอร์แล้ว และแพทย์ประจำตัวฮิตเลอร์ก็พยายามขอร้องไม่ให้ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตาย
แต่ฮิตเลอร์ได้ตอบว่า
“คุณหมอ คุณรู้แล้วว่าผมตัดสินใจยังไง จะไม่มีการเปลี่ยนอะไรทั้งนั้น คุณพาครอบครัวหนีออกไปจากเบอร์ลินเถอะ”
แต่แพทย์ของฮิตเลอร์ก็ไม่หนี และภายหลังจากที่ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตาย แพทย์ก็ได้ฆ่าครอบครัวของตนเอง และฆ่าตัวตายตาม
จากนั้น ฮิตเลอร์ก็ได้จับมือกับลูกน้องทุกคน พร้อมกล่าวลา
ฮิตเลอร์ได้กล่าวแก่ทหารคนสนิทด้วยเสียงที่เรียบ นิ่ง
“ฉันจะยิงตัวเองแล้ว นายก็รู้นะว่าต้องทำยังไง”
จากนั้นฮิตเลอร์ก็ได้แสดงท่าทางการเคารพแบบนาซี พร้อมกล่าวว่า
“จบลงแล้ว ลาก่อน”
4
ฮิตเลอร์และเบราน์ได้ขังตัวเองอยู่ในห้อง ก่อนที่เบราน์จะกินแคปซูลไซยาไนด์ ส่วนฮิตเลอร์ก็กินแคปซูลไซยาไนด์เช่นกัน และได้ยิงตัวเองอีกด้วย
1
ภายหลังจากการตายของทั้งสอง เหล่าผู้ภักดีต่อฮิตเลอร์ก็ได้ขนศพของทั้งสองออกมาที่สวนเล็กๆ ภายนอกบังเกอร์ ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังอยู่ทั่ว
1
ศพของฮิตเลอร์และเบราน์ถูกเผาทันที
ผู้ที่ใกล้ชิดฮิตเลอร์ต้องการให้ทำลายศพของฮิตเลอร์อย่างละเอียด ไม่ให้เหลือ เนื่องจากไม่ต้องการให้ชิ้นส่วนของฮิตเลอร์ตกไปถึงมือศัตรู แต่ถึงอย่างนั้น กระดูกขากรรไกรและฟันของฮิตเลอร์ ก็ยังเหลือรอดมาได้
1
มีการเปิดเผยว่ากองทัพโซเวียตได้ยึดเศษชิ้นส่วนของฮิตเลอร์ไว้ได้ หากแต่ในเวลาต่อมา ก็เกิดข่าวลือว่าฮิตเลอร์ยังไม่ตาย
1
ในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) ได้มีการเตรียมการแถลงข่าวการเสียชีวิตของฮิตเลอร์ แต่ถึงอย่างนั้น ทางการก็ไม่อยากจะแถลงความจริงว่าฮิตเลอร์ฆ่าตัวตาย และได้แถลงว่าฮิตเลอร์นั้นเสียชีวิตในสงคราม โดยเป็นผู้นำทัพในแนวหน้า
1
ภายหลัง ทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ ก็ตามออกมา บางคนก็ว่าฮิตเลอร์นั้นหนีไปได้ และได้ไปอาศัยอยู่ในถ้ำบนหุบเขาที่อิตาลี บ้างก็รายงานว่าเห็นฮิตเลอร์อยู่ในคาสิโนที่ฝรั่งเศส
1
สหภาพโซเวียตก็ได้ออกมาแถลงว่าไม่พบศพฮิตเลอร์ ทำให้หลายคนเชื่อว่าฮิตเลอร์ยังไม่ตาย และได้หนีไปอเมริกาใต้
ในปีค.ศ.2018 (พ.ศ.2561) นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส สามารถพิสูจน์ได้ว่าฮิตเลอร์เสียชีวิตเมื่อปีค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) จริง โดยทำการตรวจสอบจากฟันของฮิตเลอร์ที่ทางการโซเวียตได้เก็บเอาไว้
1
และจนถึงทุกวันนี้ การตายของฮิตเลอร์ ก็เป็นเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์หนึ่ง และเป็นหนึ่งในการตายที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์
โฆษณา