Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Play Now Thailand
•
ติดตาม
7 ก.ค. 2021 เวลา 13:02 • กีฬา
#ยูโรรำลึก
โดย มิสมาต้า
ในวงการฟุตบอลคงจะหาคนที่มีประสบการณ์อย่าง ไมเคิล เลาดรูป ได้ยากยิ่ง เพราะเขาเคยได้มีโอกาสอยู่ร่วมสโมสรฟุตบอลอาชีพเดียวกับบิดาของตนเอง และยังได้เล่นร่วมทีมชาติกับน้องชายของเขาอีกด้วย
ฟิน เลาดรูป คนพ่อในวัย 36 ปี กับ ไมเคิล เลาดรูป ลูกชายคนโตในวัย 17 ปี ได้ลงซ้อมร่วมกันเมื่อทั้งสองคนอยู่ทีม KB สโมสรฟุตบอลในลีกเดนมาร์ก เมื่อปี 1980 ในขณะที่ ไบรอัน เลาดรูป วัย 11 ปี ยังเตะฟุตบอลอยู่กับเพื่อนๆ ที่สวนสาธารณะอยู่เลย
1
จนกระทั่งปี 1983 เดนมาร์ก ที่อยู่ร่วมกลุ่มในการแข่งฟุตบอลยูโร 1984 รอบคัดเลือกกับอังกฤษ พวกเขาไล่ตามตีเสมออังกฤษในบ้านตัวเองได้ 2-2 ในนาทีที่90 พอดี จากการยิงของ เจสเปอร์ โอลเซน ปีกดาวรุ่งจาก อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม
อังกฤษจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเก็บชัยชนะให้ได้ในบ้านตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่ค่อยเข้าข้าง บ๊อบบี ร็อบสัน ที่เพิ่งเข้ามารับงานต่อจาก รอน กรีนวูด ที่ยุติการคุมทีมหลังจบฟุตบอลโลกที่สเปน
1
บ๊อบบี ร็อบสัน ต้องขาด ไบรอัน ร็อบสัน ที่เริ่มมีอาการบาดเจ็บบ่อยแล้วจากการเล่นแบบบู๊ล้างผลาญตามสไตล์ รวมทั้งยอดผู้จัดการทีมท่านนี้ยังทำพลาดด้วยการไม่ใส่ชื่อ เกล็น ฮอดเดิล กองกลางอัจฉริยะระดับเท้าชั่งทองเข้ามาในทีมชุดนั้น
เขาเลือกใช้งานกองกลางสามคนอย่าง เรย วิลกินส์ - แซมมี ลี - จอห์น เกรกอรี ลงบัญชาเกมกลางสนาม แล้วให้ จอห์น บาร์นส กับ เทรเวอร์ ฟรานซิส คอยสนับสนุน พอล มาริเนอร์ ในเกมรุก
แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นดังหวัง เมื่อ ฟิล นีล แบ็คขวาจากทีมแชมป์ยุโรปเข้าบอลพรวดพราดจนทำให้ทีมเสียลูกจุดโทษ จนถูก อัลลัน ซิมอนเซน สังหารผ่านมือ ปีเตอร์ ชิลตัน เข้าไป และ กลายเป็นประตูชัยที่ส่งให้อังกฤษตกรอบคัดเลือกครั้งนั้นทันที
ซึ่งขุนพลเดนิชไดนาไมต์ยุคนั้นคือชุดที่กำลังจะกลายเป็นชุดในตำนานในอีก 3 ปีข้างหน้าที่ฟุตบอลโลกที่เม็กซิโก เมื่อพวกเขามีจอมทัพอย่าง พรีเบน เอลเกียร์ ลาเซน - โซเรน เลอร์บี - อัลลัน ซิมอนเซน เป็นไดนาโมของทีม
ซึ่งในเกมวันนั้น ไมเคิล เลาดรูป ในวัย 20 ปี ได้ลงสนามเป็นตัวจริง อันเป็นบิ๊กแมตช์ครั้งแรกของเขา ซึ่งด้วยความใหม่ต่อเกมระดับนี้ และ อังกฤษชุดนั้นไม่ใช่ธรรมดา เขาจึงเล่นไม่ค่อยออกจนถูกเปลี่ยนตัวออกไป
แต่นั่นก็พอแล้วสำหรับการเปิดตัวในเกมระดับสูงจนกลายเป็นขาประจำของทีมชาติ
เขาพัฒนาไปจนกลายเป็นจอมทัพของทีมชุดสร้างเซอร์ไพรส์ในฟุตบอลโลก 1986 ที่ทำให้ทั้งโลกต้องจำทีมชาติขาวแดงที่เปล่งประกายด้วยการเล่นเกมรุกอันสวยงาม
แล้วหลังจากนั้น ไมเคิล เลาดรูป ได้พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นเพลย์เมกเกอร์ระดับทวีป จากการได้ไปเล่นในเวทีกัลโช่ที่เป็นลีกอันดับหนึ่งของโลกในยุคนั้น แต่ด้วยการจำกัดโควตานักเตะต่างชาติ ยูเวนตุสยุค มิเชล พลาตินี จึงไม่ค่อยมีที่ให้เขาลงสนามในช่วงแรก
จนย้ายทีมข้ามลีกมาเล่นให้ บาร์เซโลน่า ของ โยฮัน ครัฟฟ์ เมื่อปี 1989 ที่คัมป์นูจึงกลายเป็นเบ้าหลอมให้เขาเดินหน้าเข้าสู่ความเป็นนักเตะระดับโลกตัวจริง
เขาประสบความสำเร็จอย่างมากมายในยุคที่กุนซือเทวดาวางรากฐานให้ศูนย์ฝึกลามาเซีย และทำให้บาร์เซโลน่ากลายเป็นทีมระดับโลกเคียงข้างศัตรูอย่าง เรอัล มาดริด
ในขณะเดียวกันนั้น หลังจากที่ บ๊อบบี ร็อบสัน ล้มเหลวในการรับงานครั้งแรก เขาถึงกับเอ่ยปากยอมรับกับสื่อชาติตัวเองว่า
งานผู้จัดการทีมชาติอังกฤษมีความกดดันในการทำงานยิ่งกว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งงานนี้จะไม่สามารถทำอะไรผิดพลาดได้เลย
หลังจากนั้นสองชาตินี้ได้มาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง แค่คราวนี้เป็นการแข่งขันรายการระดับเมเจอร์อย่างยูโร 1992
ซึ่งในช่วงปี 1990- 1991 ทีมชาติเดนมาร์กที่พกดีกรีแชมป์ชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 19 เมื่อปี 1988 ได้ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลเมเจอร์เป็นรายการที่สองติดต่อกัน หลังไม่ผ่านการคัดเลือกทั้งฟุตบอลโลก 1990 และ ฟุตบอล ยูโร 1992
แต่ด้วยปัญหาสงครามกลางเมืองของประเทศยูโกสลาเวีย จึงทำให้ทีมชาติที่ได้เป็นแชมป์กลุ่มจากรอบคัดเลือกถูกตัดสิทธิ์จากองค์กรลูกหนังโลก ซึ่งรวมถึงยูฟ่าด้วย
นั่นจึงทำให้ทีมชาติเดนมาร์กที่เป็นรองแชมป์กลุ่มได้สิทธิ์เข้าไปแข่งยูโร 1992 ที่ประเทศสวีเดนแทน
ซึ่งนักเตะส่วนใหญ่กำลังอยู่ในช่วงพักร้อน นอกจากแกนนำของทีมบางคนที่ใจจดใจจ่อกับข่าวสารของการพิจารณาทีมชาติยูโกสลาเวียจากทางยูฟ่า
หลังจากมีการประกาศข่าวแบนยูโกสลาเวียอย่างเป็นทางการ ขุนพลทีมชาติเดนมาร์กมีเวลาเตรียมทัพประมาณ 10 วันเพื่อไปแข่ง
ทุกคนพร้อม แต่ ไมเคิล เลาดรูป กลับมองว่าเสียเวลา เพราะการที่มีเวลาเตรียมทีมน้อยเกินไปไม่ใช่สิ่งที่เขาเห็นพ้องกับทีม รวมทั้งไม่ค่อยจะกินเส้นกับ ริชาร์ด โมลเลอร์ นีลเซน ผู้จัดการทีม เขาจึงปฏิเสธการเข้าร่วมทีมเฉพาะกิจชุดนั้น
แต่ ไบรอัน เลาดรูป น้องชายของเขาเลือกตัดสินใจต่างจากพี่ชาย และนี่คือก้าวที่เลาดรูปคนน้องเริ่มสร้างเส้นทางของตนเองแล้ว
โลกอาจจะพลาดการชมความแข็งแกร่งทีมชาติยูโกสลาเวียชุดที่ว่ากันว่าดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา จนถูกยกเป็นทีมเต็ง
เพราะนี่คือทีมที่มีนักเตะชุดที่เคยได้แชมป์เยาวชนโลกในปี 1987 ที่ตอนนั้นเข้าสู่วัยฉกรรจ์กันทุกคนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เปแดร็ก มิยาโตวิช , ซโวนิเมียร์ โบบัน , โรเบิร์ต โปรซิเนซกี้ , ดาวอร์ ซูเคอร์, เดยัน ซาวิเซวิช , ดาร์โก้ ปานเชฟ , โรเบิร์ต ยาร์นี่ และ วลาดิเมียร์ ยูโกวิช
รวมทั้งนักเตะระดับตำนานเย่าง ดราแกน สตอยโควิช ที่สร้างชื่อเสียงเอาไว้เมื่อฟุตบอลโลกเมื่อสองปีที่แล้วที่อิตาลี
แต่โลกไม่รู้ว่ามวยแทนอย่างเดนมาร์กที่ยอมรับกันเองว่า ต่อให้พ่าย 3 เกมรวดตกรอบแบบยิงใครไม่ได้ พวกเขาจะไม่รู้สึกผิดหวังเลย กลับเดินหน้าสร้างนิยายตั้งแต่เกมนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม
เจ้าภาพสวีเดน , ฝรั่งเศส และ อังกฤษยุคเปลี่ยนผู้ตัดการทีมคนใหม่ นี่คือกรุ๊ป ออฟ เดธ สำหรับเดนมาร์กชัดๆ
พวกเขาแบ่งคะแนนมาจากสิงโตป่วยจนเริ่มมีหวัง แต่กลับเข้าสู่ความเป็นจริงเมื่อแพ้เจ้าภาพ ในเกมตัดสินพวกเขาต้องชนะฝรั่งเศส แล้วแช่งให้อังกฤษไม่มีคะแนน
สุดท้ายพวกเขาทำได้ เทพนิยายแห่งเดนส์กำลังเดินทาง
แชมป์เก่าเมื่อปี 1988 คือเหยื่อรายต่อมา ทั้งโลกได้รู้จัก ปีเตอร์ ชไมเคิล ที่เซฟลูกจุดโทษของ มาร์โก ฟาน บาสเทน ได้อย่างง่ายๆ จนแชมป์เก่าแพ้ในการดวลจุดโทษตัดสิน
แชมป์โลกเยอรมันยุครวมชาติคือเหยื่อรายใหญ่ที่ทำให้เทพนิยายเดนส์จบลงด้วยความสมบูรณ์แบบ
ทั้งโลกรู้จักเดนมาร์กในฐานะแชมป์ เสียงเพลง We are red, we are white, we are Danish Dynamite กระหึ่มไปทั่วยุโรป
เดนมาร์กลบคำครหาของคำว่ามวยแทน พวกเขาอาจไม่ได้เล่นฟุตบอลสวยงามเหมือนตอนเป็นหนึ่งในยอดทีมของยุค 80s
ปีเตอร์ ชไมเคิล กับแผงกองหลังถ่วงเวลาด้วยการรับส่งบอลกันไปมาอย่างน่าเกลียด จนกระทั่งถูกฟีฟ่านำมาเป็นต้นแบบการพิจารณากฎห้ามผู้รักษาประตูใช้มือรับบอลที่ฝ่ายเดียวกันส่งคืน
พวกเขาไม่มีนักเตะอันดับหนึ่งของทีม พวกเขาไม่ได้มาแข่งด้วยสภาพความฟิตครบร้อย พวกเขาไม่ได้ถูกตั้งความหวังเหมือนทีมชุดก่อนๆ
แค่ในฐานะเต็งบ๊วยมวยแทน พวกเขาเป็นแชมป์ด้วยการเล่นเอาสนุก เล่นด้วยแท็กติกทุกอย่างแบบไม่ต้องแบกความหวังของใคร
นี่จึงเป็นเทพนิยายที่เป็นที่สุดของวงการฟุตบอล
และในคืนวันนี้ เดนมาร์กที่ขาด คริสเตียน อีริคเซน และ เข้ามาถึงรอบนี้ด้วยการแพ้ในสองเกมแรก กำลังจะสร้างรอยแค้นให้กับอังกฤษในฟุตบอลยูโรอีกครั้ง
เทพนิยายเดนส์ภาคสองกำลังเข้าสู่บทสุดท้ายด้วยการหยุดเส้นทาง Football's coming home
1
แต่พวกเขาต้องไม่ลืมเช่นกันว่า ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาลงแข่งกับอังกฤษในรายการเมเจอร์ที่ฟุตบอลโลกฉบับเอเชีย เมื่อปี2002
พวกเขาถูกถล่มยับจนกลับบ้านแทบไม่ไหวด้วยสกอร์ 3-0 ซึ่งในวันนั้น ทีมชาติอังกฤษมีผู้จัดการทีมชาติคนปัจจุบันนั่งเป็นสักขีพยานในฐานะตัวสำรอง
ตีสองคืนนี้นิยายเรื่องใดจะได้ไปต่อ รอชมไปด้วยกัน
#PlayNowThailand #khelnow #football #footballgames #footballhighlights #footballplayers #Euro2020
3 บันทึก
6
2
1
3
6
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย