CATCH THE DREAM | ไล่จับฝัน
จุดเริ่มต้นของบทความนี้ต้องขอขอบคุณคำถามนี้ค่ะ
เชื่อเหลือเกินว่าทุกคนมีความฝันเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราไปถึงยังจุดหมาย ความฝันอาจหมายถึงการเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายในวัยเยาว์ ความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ใดๆ ก็ตาม ถ้าเราแค่ฝัน มันจะไม่มีวันเป็นจริง
ความฝันในวัยเด็ก คือสัตวแพทย์ อยากเป็นมาก ใครถามก็บอกว่าอยากเป็นสัตวแพทย์ เพราะเป็นคนรักสัตว์ แต่ความมีเมตตาในตัวฉันมันไปกันไม่ได้กับทักษะคณิตศาสตร์ที่แทบจะไม่มีเลย อยู่ในขั้นเชื่องช้า งุ่มงาม เลยต้องตัดใจ
พอตาสว่างแล้วก็เลยต้องเบนเข็มไปเรียนด้านภาษา และงานศิลปะเท่าที่โรงเรียนจะอำนวยให้ในสมัยก่อนก็คือ ศิลป์ภาษาฝรั่งเศส และพื้นฐานวาดภาพเหมือน
สมองสั่งให้ไปต่อด้านภาษาค่ะ เลยต่อยอดมาเรื่อยๆ เด็กในประเทศอย่างเราก็ฝันที่อยากจะเข้าเรียนอักษรศาสตร์ จุฬาฯ แต่... ระบบเอ็นทรานซ์ ของเรานั้นซับซ้อนนัก ฉันฝันสลายตอนปริญญาตรี แต่ชีวิตเราต้องไปต่อ
ฟ้าเมตตาให้ได้เป็นนิสิตปริญญาโท สาขาภาษาศาสตร์ประยุกต์ ของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิมยาลัย นี่คือฝันแรกที่ทำสำเร็จ เป็นฝันที่ภาคภูมิใจ มันปลื้มปริ่มยิ่มได้ทั้งวัน
...แต่เชื่อมั้ยคะ แค่สอบก็ยากแล้ว พอเรียนจริงยากกว่า จำได้ว่า มีการสอบ CUTEP และสอบตรงของคณะ ทางคณะฯ คัดเหลือ 50 คนสำหรับสอบสัมภาษณ์ และผ่านเข้าเรียนจริงแค่ 14 คน พอเรียนได้ 2 สัปดาห์มีคนถอดใจ สรุปในรุ่นฉันมีเรียนกันอยู่ 10 คน
ฉันเป็นได้ไปต่อและจบการศึกษาด้วยความภาคภูมิใจ และ ชีวิตจริงนอกรั้วมหาวิทยาลัยกำลังรอเราอยู่ มีจุดเปลี่ยนที่ทำให้ได้ทำงานโรงแรม
![[สัพเพเหระกับแมวโกญจา] ตอนที่ 1 : ฉันกับจุดเริ่มต้นงานขายบริการ](https://t1.blockdit.com/photos/2021/07/60e5a720c8275403d2e855f0_800x0xcover_0cvK_Y-9.jpg)
ในขณะที่ฉันได้เป็นนิสิต ฉันใช้โอกาสนั้นเข้าห้องสมุดคณะอักษรฯ มันคือสวรรค์ ใช่ค่ะ...ฉันตะลุยอ่านนิยายที่เค้าว่าเป็นตำนาน เป็นงานชั้นครู นิยายแปล ทุ้กกกกวัน และมีเพื่อนอยู่หนึ่งคนเป็นแรงบันดาลใจในการเป็นนักแปล
หลังจากทำงานประจำอยู่พักใหญ่ เลือดนักอักษรศาสตร์มันยังไม่หายไปไหน ฉันเสียดายสิ่งที่อุตส่าห์ภาคภูมิใจร่ำเรียนมา และฝันใหญ่คืออยากมีชื่ออยู่บนปกหนังสือ สำนักพิมพ์ไหนที่เค้าเปิดรับสมัครเราก็ส่งตัวอย่างแปลไปค่ะ ตามที่เค้ากำหนด
หนังสือเล่มแรกที่ได้แปลคือเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และพึ่งเผยแพร่ออกเป็น E-book ในปีนี้ค่ะ
เนื้อหาอ่านง่ายเป็นหนังสือเด็กน้อย
ส่วนอีกเล่มนึงสายโหดคือ SAMSUNG 3.0 หลังเจอเล่มนี้เข้าไป ฉันได้ข้อคิดสำหรับนักแปลโนเนม หน้าใหม่ ถ้าเปรียบเป็นสำนวนก็คือ "ทำนาบนหลังคน" แต่ฝันเราต้องเป็นจริงสิ เราต้องไม่ยอมแพ้
หนังสือที่รับแปลมีต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษก็จริง แต่เนื้อหาด้านเต็มไปด้วยชื่อของคนเกาหลี ปรัชญาจากเรื่องสามก๊ก ...แปลไปก็ท้อไป จนได้ออกเป็นรูปเล่มตีพิมพ์ ฝันที่สองเป็นจริง
จากนั้นก็ตามมาอีกประมาณสี่เล่ม ของ Brian Tracy และหยุดไปตามภาระงานที่เพิ่มมากขึ้น
ฝันปัจจุบันคืออยากทำหนังสือภาพ ถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิตของสะใภ้ตุรกี และกลับมาจับอุปกรณ์วาดรูปอีกครั้ง ได้ลงเรียนคอร์สออนไลน์เพื่อเติมเต็มความฝันที่ไม่เคยมีโอกาสได้เรียน
และนี่คือแกลอรี่น้อยๆ ของแมวโกญจาเอง เป็นการวาดที่ไร้ทฤษฎี วาดไปตามอารมณ์ล้วนๆ
กับอีกหนึ่งการวาดผ่านลูกๆ ที่บ้าน
ความฝันไม่มีวันหมดอายุนะคะ แต่ถ้าเรารู้ตัวเร็วเท่าไร เราจะได้ไม่ต้องเสียใจกับเวลาที่มันผ่านไปโดยที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย ยิ่งในโลกไร้พรมแดน มีอินเตอร์เน็ตเป็นพื้นฐานด้วยแล้ว ลองหาข้อมูล หาโอกาสที่จะเติมเต็มและทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงกันค่ะ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
