8 ก.ค. 2021 เวลา 02:04 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Stock investment Ep. 7
=> วิเคราะห์ปัจจัยภายนอกด้วย PESTEL Analysis
PESTEL Analysis คือเครื่องมือการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกที่สงผลต่อบริษัท เพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าใจและรับรู้ปัจจัยภายนอกได้อย่างชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง และฉวยโอกาสความได้เปรียบ
PESTEL ประกอบไปด้วย Political ปัจจัยด้านการเมือง , Economic ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ , Society ปัจจัยด้านสังคม , Technology ปัจจัยด้านเทคโนโลยี , Environment ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม และ Law ปัจจัยด้านกฎหมาย
 
Political ( ปัจจัยด้านการเมือง ) เป็นปัจจัยที่เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เสถียรภาพทางการเมืองที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน การบริหารจัดการบ้านเมือง การรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นภายในประเทศ การร่วมมือระหว่างประเทศ
 
เราต้องวิเคราะห์และหาความเกี่ยวข้องกับบริษัทที่เราจะลงทุน เช่น ช่วงสิ้นปี 2563 รัฐบาลได้ออกโครงการช้อปดีมีคืน ซึ่งส่งผลให้เกิดการจับจ่ายซื้อมือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก
 
Economic ( ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ) เป็นปัจจัยที่เกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเติบโตของ GDP การเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยว อัตราการจ้างงาน อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ
 
การวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อการเติบโตของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การลดลงของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยซึ่งส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมมีรายได้น้อยลงอย่างมาก
 
Society ( ปัจจัยด้านสังคม ) เป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสังคม วัฒนธรรม วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ สิ่งเหล่านี้จะสะท้อนพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละตลาด
สิ่งแรกก่อนที่เราจะวิเคราะห์ปัจจัยทางสังคมเราต้องรู้ก่อนว่าบริษัทที่เราจะลงทุนมีลูกค้ากลุ่มไหนเป็นเป้าหมายหลัก ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจภาพการเติบโตได้ดีขึ้น
 
ตัวอย่างเช่น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุทำให้สินค้าที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุมีแนวโน้มเติบโตขึ้น กลับกันอัตราการเกิดของเด็กทารกที่ลดลงทำให้สินค้าแม่และเด็กมีแนวโน้มการเติบโตที่ลดลง
 
Technology ( ปัจจัยด้านเทคโนโลยี ) เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนึ่งที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถ้าสมมติว่าบริษัทมีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถทำให้สินค้ามีต้นทุนที่ถูกลงหรือมีคุณภาพที่ดีขึ้น จะทำให้เกิดความแตกต่างกับคู่แข่งอย่างชัดเจน ที่แต่ถ้าเกิดมีเทคโนโลยีมาแทนที่สินค้าของบริษัทโดยตรงจะส่งผลต่อตัวบริษัทเป็นอย่างมาก
 
ตัวอย่างเช่น การที่ Youtube มาแทนที่รายการโทรทัศน์ , E-book เข้ามาทำลายธุรกิจสิ่งพิมพ์ เป็นต้น
 
Environment ( ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ) เป็นปัจจัยที่วิเคราะห์สภาพสิ่งแวดล้อม ภูมิประเทศ สภาพอากาศ และที่ตั้งของบริษัทที่เราจะลงทุน ตรวจสอบดูว่าบริษัทเราตั้งอยู่ในพื้นที่เสียงต่อการเกิดภัยพิบัติหรือไม่ เกิดน้ำท่วมหรือแผ่นดินไหวบ่อยแค่ไหน ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของเราอย่างไร เป็นต้น
 
Law ( ปัจจัยด้านด้านกฎหมาย ) เป็นปัจจัยที่เกี่ยวกับกฎหมายซึ่งส่วนใหญ่จะออกมาเป็นระเบียบข้อบังคับ และข้อห้ามเสีย เช่น กฎหมายค่าแรงขั้นต่ำ กฎหมายแรงงาน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาษี
ตัวอย่างที่เห็นในชัดเจน คือกฎหมายเกี่ยวกับภาษีความหวานซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่มโดยตรง
ข้อแนะนำเพิ่มเติม : สำหรับตัวแอดมินเองชอบใช้เครื่องมือ PESTEL เป็นอย่างมากเพราะว่ามันสามารถครอบคลุมเกือบทุกๆภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ทำให้สามารถรู้ถึงความเสี่ยง และรู้ถึงโอกาสที่จะเข้าลงทุน แนะนำให้ใช้เวลากับส่วนนี้เยอะๆนะครับ เพราะเราจะเห็นภาพใหญ่ และเข้าใจแนวโน้มก่อนคนอื่น
สามารถทักมาคุยหรือ Comment กันได้เลยนะครับ ถ้าแอดมินรู้แอดมินจะช่วยตอบนะครับ
โฆษณา