8 ก.ค. 2021 เวลา 10:38 • กีฬา
เดนมาร์กสู้สุดใจ
แต่พ่ายอังกฤษที่ไม่เปอร์เฟ็ค
1. นัดนี้อังกฤษไม่ออกปีกล้วนๆแต่กลับมาเจาะตรงกลางด้วย (เหมือน 2 นัดแรก) ซึ่งทำได้ไม่ดี เพราะปัญหาเดิมเมสัน เม้าท์ กับคัลวิน ฟิลลิปส์ยืนสูงมาก ทำให้ขึ้นบอลไม่ได้ จึงต้องโยนเข้าไปอย่างเดียว
2. ฟิลลิปส์ กับไรซ์ ไม่ได้ยืนคู่กันจริงๆ(ไม่เหมือนนัดเจอเยอรมัน) คือเซาท์เกตเลือกจะให้ตัวรับธรรมชาติทำเกมบุก มันก็เลยไม่ไหลลื่น เมสัน เม้าท์ก็ตำแหน่งทับกับสเตอร์ลิ่ง เพราะลิ่งไม่ได้ค้ำที่ปีกอย่างเดียว แต่เข้ามาเล่นเป็นเบอร์ 10 เต็มตัว
3. พื้นที่ว่างหน้ากองหลังอังกฤษ ที่เดแคลน ไรซ์ คุมพื้นที่ได้ไม่หมด กองหน้าและกองกลางเดนมาร์กเข้ามารับบอลตรงนั้นว่างๆเลย แถมยังพาบอลเข้าไปหาสโตน กับแม็คไกวร์ได้บ่อยๆ ดีที่วอร์คเกอร์ และชอร์ แจ่มโคตรๆ ที่สามารถหุบเข้ามารองได้หลายครั้ง
4. แผนเพรสซิ่งของเดนมาร์กเฉียบขาดทีเดียว เพราะไม่ได้บีบตลอดเวลา แต่เหมือนมีการคุมจังหวะโดยใครสักคน ขณะที่อังกฤษเซ็ทบอลที่กองหลัง เดนมาร์กจะรอจังหวะ และเมื่อหัวหน้าเป่านักหวีดปรี๊ด!!! ผู้เล่นกองหน้าและกลางก็จะวิ่งขึ้นบีบกองหลังให้ไม่ทันตั้งตัว ทั้งแผงเพรสพร้อมกัน ทำเป็นเป็นจังหวะ และแย่งบอลได้ทุกที
5. สิ่งที่ผิดพลาดของเดนมาร์กคือการลงมาเอาบอลตรงกลางของแฮรี่ เคน เดนมาร์กไม่เคยเอาอยู่เลย (ยกเว้นโยนยาวมาให้เคน จะโดนเวสเตอร์การ์ดเก็บกินได้หมด) เคนมีพื้นที่เล่นตรงกลางเยอะมาก และก็ทำให้อังกฤษได้ประตู
6. จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้ คือ เดนมาร์กเปลี่ยนแผนเพราะผู้เล่นตัวหลักไปไม่ไหวแล้ว วิ่งสู้ฟัดจนหมดพลัง จึงต้องเปลี่ยนแผนเป็นตั้งรับ และรอสวนกลับ โดยการเปลี่ยนโทมัส เดลานี่ เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่(แต่เจ้าตัวก็หมดแรงแล้วจริงๆ) เพราะทรงเกมเดนมาร์กแพ้อังกฤษทันที ตัวสำรองไม่สามารถทดแทนได้เลย คุมพื้นที่ไม่อยู่
7. เซาท์เกตใจไม่ถึงที่จะบุกเต็มตัว น่าจะกลัวไม่ได้เข้าชิง เพราะช่วงท้ายขนาดเริ่มเปิดเกมบุกจริงจัง ยังเอาคัลวิน ฟิลลิปส์ขึ้นไปเป็นตัวรุก ไม่ยอมเปลี่ยนตัวรับออกเพื่อเพิ่มตัวรุกธรรมชาติลงไป (เอากลีริชลงไป ก็แทนตัวรุกด้วยกันอย่างซาก้า เรียกว่าไม่ยอมเสียผู้เล่นเกมรับเลย)
8. สรุปคืออังกฤษไม่เปอร์เฟ็คเหมือนเล่นกับเยอรมัน แต่ก็สามารถเข้าชิงได้ด้วยการเล่นแบบแน่นอนไว้ก่อน (อย่าลืมว่าไม่เคยมีใครพาบอลเข้าไปทำประตูอังกฤษได้เหมือนเดิม ลูกที่เสียก็เป็นโคตรฟรีคิก)
9. ส่วนเดนมาร์กก็ทำเต็มที่ เรียกว่าถ้าเป็นแฟนเดนมาร์กก็ภูมิใจได้ นักเตะทุกคนมีโฟกัสกับเกมมาก วิ่งสู้กันไม่หยุด เหมือนจะให้ภาษากาย บอกกับเพื่อนหมายเลข 10 ที่ดูทีวีอยู่ว่า “พวกกูลุยเต็มที่แล้วเพื่อน”
Picture Credit : FB/Toon stories
โฆษณา