9 ก.ค. 2021 เวลา 01:09 • สุขภาพ
มารู้จักวัคซีน Moderna ก่อนเข้าไทย สิ่งที่ควรรู้และข้อระวัง ! ใครบ้างที่ห้ามฉีด ?
Learning Never Ends
อย่างที่เราทราบกันดีว่า สถานการณ์ในตอนนี้การแพร่ระบาดของเชื้อยังคงเยอะอยู่ ในแต่ละวันมียอดจำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้นๆ สิ่งที่จะสามารถช่วยแก้ไขได้ นั่นก็คือ วัคซีน
วันนี้แอดจะมาพูดถึงวัคซีนป้องกันโควิด 19 ยี่ห้อ Moderna กัน ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือก ชนิด mRNA ที่ไทยเรากำลังจะนำเข้ามาฉีด และตอนนี้ยอดจองก็เต็มไปแล้ว และแอดเชื่อว่า หลายๆคนก็คงได้ยินชื่อยี่ห้อนี้บ่อย แต่ยังคงไม่ทราบรายละเอียดว่า วัคซีนตัวนี้เป็นอย่างไร
และวัคซีน Moderna คืออะไร ? มันมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน ? สิ่งที่ควรรู้และข้อควรระวังก่อนฉีด แอดจะพาไปทำความรู้จักกันค่ะ
วัคซีน Moderna เป็นวัคซีนชนิด mRNA - 1273 (mRNA-1273) เช่นเดียวกับวัคซีน Pfizer ค่ะ และเช่นเดียวกับวัคซีนของไทยเราที่กำลังจะเปิดตัวในปีหน้านะคะ นั่นคือ วัคซีน ChulaCov 19
freepik
วัคซีนชนิด mRNA นี้เป็นนวัตกรรมล่าสุด ซึ่งมันแตกต่างจากวัคซีนทั่วไปที่เป็นโปรตีนหรือเชื้อโรคที่ถูกทำให้ตายแล้ว และต่างจากวัคซีนที่ทำไวรัสให้เป็นพาหะ ( Viral vector vaccine) พัฒนาโดยบริษัท ModernaTx,lnc. สหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดว่าเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด 19 อันดับต้นๆ ของโลก
พูดง่ายๆ ก็คือ mRNA คือ เทคโนโลยีการนำพาเอาตัว Messenger RNA หรือ รหัสพันธุกรรมของไวรัสโควิด 19 เข้าสู่ร่างกายเรา แต่เนื่องจากว่า ถ้าเราเอาแต่แค่ตัว mRNA เข้าสู่ร่างกายเราเนี่ย ร่างกายของเราจะมีเอนไซม์ในการย่อย mRNA ให้แตกสลายไปอย่างรวดเร็ว และมันก็จะไม่เกิดประโยชน์
2
ดังนั้นเทคโนโลยีนี้จะใช้ วิธีการเอาไขมันมาหุ้มรอบๆตัวมัน เพื่อให้เป็นตัวนำพาเข้าสู่เซลล์ของร่างกายเราได้ และ mRNA ตัวนี้นะคะ ก็จะไปสร้างหรือไปบอกเซลล์ในร่างกายเรา ให้สร้างตัว spike protein ซึ่งคือ โปรตีนที่เคลือบอยู่รอบๆตัวโควิด 19 ทำให้ร่างกายของเราเกิดภูมิคุ้มกันขึ้นนั่นเองค่ะ นี่คือหลักการของตัว mRNA
1
และในปัจจุบันพบข้อมูลว่า วัคซีนชนิด mRNA เนี่ยกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อโควิด 19 ได้มากกว่าชนิดอื่นๆค่ะ ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลอื่นๆ ในเดือน มิถุนายน 2564 พบว่าวัคซีน Moderna สามารถที่จะป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 ได้มากถึง 94.1% ไกล้เคียงกับ Pfizer ที่สามารถป้องกันเชื้อโควิด 19 ได้มากถึง 95% ค่ะ
1
และวัคซีน Moderna สามารถป้องกันการติดเชื้อในผู้ป่วยสูงอายุ มากกว่า 65 ปีขึ้นไป ได้มากถึง 86.5% วัคซีน Moderna สามารถที่จะป้องกันการติดเชื้ออย่างรุนแรงได้มากถึง 100% และสามารถป้องกันการเสียชีวิตได้ 100% ค่ะ (อันนี้เป็นข้อมูลของสายพันธุ์ปกตินะคะ)
แต่ถ้าหากเป็นสายพันธุ์ใหม่ๆ เช่น สายพันธุ์เดลต้า ( อินเดีย ) ที่กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้ หรือสายพันธุ์เบต้า ( แอฟริกาใต้ ) จากการศึกษาในหลอดทดลองพบว่า (ยังไม่มีการศึกษาในมนุษย์นะคะ) สามารถที่จะป้องกันการติดเชื้อหรือว่าทำลายพวกเชื้อเหล่านี้ได้พอสมควร แต่ประสิทธิภาพอาจจะลดลงกว่าสายพันธุ์ปกติทั่วๆไปค่ะ
3
ซึ่งวัคซีน Moderna เนี่ยก็เป็นตัวที่ผ่านการรับรองโดย WHO หรือองค์การอนามัยโลก สามารถให้เป็นวัคซีนที่ใช้ในภาวะฉุกเฉินได้ นอกจากนี้ยังผ่าน อย. ของประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
2
ส่วนในเรื่องการจัดเก็บ อย่างที่เราทราบว่า mRNA Vaccine มีการจัดเก็บที่ค่อนข้างยุ่งยาก เพราะต้องเก็บในอุณหภูมิติดลบที่ค่อนข้างเยอะ แต่เราพบว่าตัว Moderna เนี่ยยังมีข้อดี จะง่ายขึ้นมาหน่อย ถึงแม้เป็นวัคซีน mRNA ก็ตาม
ถ้าเกิดว่าเราเก็บวัคซีนที่อุณหภูมิติด -20 องศาจะสามารถจัดเก็บรักษาได้นานถึง 3 เดือนค่ะ ถ้าเกิดเก็บในอุณหภูมิ 2-8 องศา คือในตู้เย็นธรรมดาเนี่ย จะสามารถเก็บได้เป็นเวลา 1 เดือนหรือ 30 วันค่ะ
🎯 ผลข้างเคียงของวัคซีน Moderna
1
freepik
ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผลข้างเคียงที่เรียกว่า ผลข้างเคียงเล็กน้อย ไม่ได้มีอันตรายอะไร และส่วนใหญ่จะเกิดภายใน 1-2 วัน หลังจากที่ฉีดวัคซีนไปแล้วค่ะ หลังจากนั้นอาการจะหายไปได้เอง โดยทั่วไปก็จะประมาณ 2-3 วันค่ะ
ส่วนอาการก็คือ หลังจากที่เราทำการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว อย่างที่เราทราบว่า เวลาที่ร่างกายเราสร้างภูมิคุ้มกันขึ้น มันก็จะมีอาการ เช่น มีไข้ หนาวสั่น ปวดศรีษะ อาจจะมีอาการปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียได้ค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีอาการในเรื่องของปฏิกิริยาที่เกิดจากตัววัคซีน เช่น มีอาการปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด
และสามารถมีอีกภาวะหนึ่งที่เรียกว่า Covid arm คือ แขนจะบวมแดงขึ้นมาเลย อันนี้สามารถพบได้เรื่อยๆ นอกจากนี้ก็จะมีอาการในเรื่องของการบวมบริเวณใต้วงแขนและก็จะเกิดขึ้นหลังจากการฉีดวัคซีนค่ะ
โดยทั่วไปเราจะฉีดเข็มที่ 1 ห่างจากเข็มที่ 2 ประมาณ 4 สัปดาห์ค่ะ โดยทั่วไปนะคะ อีกอาการหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้คือ ส่วนใหญ่จะเป็นมากขึ้นในเข็มที่ 2 เมื่อเทียบกับเข็มที่ 1 อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องรู้ก่อนนะคะ แต่เพียงแต่ว่ามันเป็นผลข้างเคียงที่เราสามารถจัดการได้และหายไปได้เอง ไม่ได้เป็นสิ่งอันตรายอะไรนะคะ
freepik
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนทุกๆชนิด ก็คืออาการแพ้แบบรุนแรง การแพ้แบบรุนแรง คือ หลังจากที่เราฉีดวัคซีน หากเกิดอาการเฉียบพลันเนี่ย คือ ภายในเวลาไม่กี่นาที เช่น ภายใน 15 นาทีหรือครึ่งชั่วโมง คนไข้อาจจะมีอาการในเรื่องของ ใจสั่น หน้ามืด เป็นลม มีความดันตก และถ้าช่วยไม่ทันอาจจะเสียชีวิตได้
คนไข้กลุ่มนี้ บางทีอาจจะมีผื่นขึ้น อาจจะเป็นอาการคล้ายๆกับลมพิษ อาจจะมีปากบวม ตาบวม และอาจจะบวมในช่วงหลอดลมด้วย อาจจะทำให้คนไข้เกิดอาการหายใจไม่ออกได้ค่ะ อันนี้อาการที่แพ้แบบรุนแรงค่ะ โดยเฉพาะที่เราเรียกว่า Anaphylactic Shock หรือ anaphylaxis ค่ะ ซึ่งมันมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้กับยาทุกชนิดหรือวัคซีนทุกชนิด แต่เราไม่รู้ว่าใครที่จะแพ้อะไร
แต่ว่าถ้าเป็นตัว Moderna เนี่ย ก็มีการศึกษามาแล้วเช่นกันนะคะว่า ความเสี่ยงของการแพ้แบบรุนแรง พบว่า คนที่แพ้ Moderna พบใน 2.5 คน ต่อ 1 ล้านคนค่ะ แต่ถ้าเทียบกับตัว Pfizer จะพบว่า แพ้ 11 คน ต่อ 1 ล้านคนค่ะ ซึ่งหากใครที่มีอาการพวกนี้ เราต้องห้ามฉีดอยู่แล้ว ทีนี้เราจะมาดูกันว่า ใครที่ห้ามฉีด หรือไม่ควรฉีดวัคซีน Moderna
🎯 ใครที่ห้ามฉีด หรือไม่ควรฉีดวัคซีน Moderna
freepik
1. คนที่มีประวัติการแพ้แบบรุนแรงต่อพวก mRNA เช่น เคยฉีด Pfizer มาแล้วและแพ้ mRNA ก็ห้ามฉีด Moderna นะคะ
2. เคยฉีด Moderna แล้วมีอาการแพ้ตามที่กล่าวไปข้างต้น คือ อาการที่แพ้แบบรุนแรงค่ะ โดยเฉพาะที่เราเรียกว่า Anaphylactic Shock หรือ anaphylaxis อันนี้เป็นข้อห้ามในการฉีด Moderna ค่ะ
3. นอกจากนี้สิ่งที่เราต้องรู้ คือ คนที่เคยแพ้สารบางอย่าง ห้ามฉีดวัคซีน Moderna ถ้าจะฉีดต้องฉีดด้วยความระมัดระวัง สารตัวที่ว่านี้ก็ คือ Polythylene glycol คนที่เคยมีประวัติว่าแพ้สารตัวนี้ มีความเสี่ยงในการแพ้แบบรุนแรงในวัคซีนกลุ่ม mRNA ทั้ง 2 ตัวเลยนะคะ คือ Pfizer และ Moderna เพราะฉะนั้นห้ามฉีดนะคะ หรือหากจะฉีดต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ค่ะ
ทีนี้หลายคนคงจะสงสัยอีกว่า ไอ้เจ้าสารที่ชื่อ Polythylene glycol เนี่ย มันอยู่ในไหน และในสารประเภทอะไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าเราแพ้นะคะ มาดูกัน
1
PEG หรือ Polythylene glycol มันจะอยู่ในพวกเครื่องสำอาง หลายๆชนิดนะคะ ในครีมทุกๆชนิดแทบจะมี PEG อยู่ เช่น เครื่องสำอาง แชมพู ยาสระผม หรือพวกครีมหรือเครื่องสำอางทำความสะอาดผิวกาย พวกนี้ก็จะสามารถเจอได้บ่อยๆ นอกจากนี้ยังอยู่ในกลุ่มยาระบายบางชนิด ก็จะมีสารตัวนี้อยู่ หากใครที่เคยมีประวัติว่าแพ้เครื่องสำอาง และเคยตรวจพบว่าแพ้ PEG อัยนี้แนะนำว่าควรจะเลี่ยงวัคซีน Moderna นะคะ
ส่วนสารอีกตัวนึง คือ สารที่เรียกว่า Polysorbate ถึงแม้มันไม่ใช่ PEG แต่ว่าโมเลกุลของมันจริงๆแล้วเป็นโมเลกุลระดับย่อยของ PEG อีกทีนึง คือโครงสร้างของโมเลกุลคล้ายกัน ก็จะมีบางคนที่ฉีดวัคซีน Moderna และ Pfizer และมีผลว่าแพ้ PEG เนี่ย มีการศึกษาพบว่า คนที่แพ้ตัว Polysorbate มันจะเกิดการ Cross-reactivity หรือการปฏิกิริยาการแพ้ข้าม ไปแพ้ PEG ด้วยค่ะ
ทีนี้คนที่เคยแพ้ Polysorbate ถึงแแม้ไม่ได้แพ้ PEG โดยตรง ก็ขอแนะนำว่า ถ้าจะฉีด Moderna กับ Pfizer ถ้าเป็นไปได้ให้เลี่ยงเป็นตัวอื่น แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะว่า อาจจะมีโอกาสแพ้วัคซีนทั้ง 2 ตัวได้ค่ะ
freepik
จากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน Moderna สามารถฉีดได้ในคนอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปค่ะ แต่สำหรับคนที่อายุน้อยกว่านั้น ก็กำลังทำการศึกษาอยู่ค่ะ ซึ่งถ้าเกิดว่าข้อมูลการศึกษาออกมาแล้วว่า สามารถฉีดในเด็กได้ เดี๋ยวแอดจะนำมาอัพเดทให้ทราบกันอีกทีนะคะ
ผลข้างเคียงอีกอันนะคะที่ หากใครได้ติดตามข่าว ก็คือ ผลข้างเคียงที่เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ที่เรียกว่า Myocarditis และโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หรือที่เรียกว่า Pericarditis ใน 2 ภาวะนี้มักจะพบในการฉีดวัคซีน mRNA ค่ะ เนื่องจากว่า Pfizer และ Moderna ทั้ง 2 ตัวเป็นวัคซีนในกลุ่ม mRNA ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเหล่านี้ได้ค่ะ
1
ส่วนอัตราการเกิด คือ ประมาณ 10 - 30 คนต่อคนที่ฉีด 1 ล้านคน แต่อย่างไรก็ตาม การเกิดเรื่องของภาวะหัวใจอักเสบ จริงๆแล้วพบว่า ส่วนใหญ่สามารถที่จะรักษาหายได้แงะกลับบ้านได้ภายใน 4 วันค่ะ
ซึ่งในตอนนี้ก็มีการเปิดให้จองวัคซีน Moderna ในโรงพยาบาลเอกชนบางแห่ง และพบว่าประชาชนพากันแห่จองล้นทะลัก ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ก็มีหลายๆโรงพยาบาลที่ปิดการรับจองไปแล้ว
สำหรับราคาเท่าที่ทราบข้อมูล ต้นทุนที่องค์การเภสัชขายให้กับโรงพยาบาลเอกชน ก็คือ ต้นทุนอยู่ที่เข็มละ 1,100 บาท และกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลในเครือ ต่างก็มาประชุมร่วมกันและได้ข้อสรุปว่า ขายให้ประชาชนในราคามาตรฐาน คือ เข็มละ 1,700 บาท เพราะฉะนั้น 2 เข็มก็อยู่ที่ 3,400 บาทค่ะ ( อันนี้คือราคารวมทุกอย่างแล้ว )
แต่ว่า โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่เข้าใจว่าเป็นของรํฐบาลก็จะขายให้ประชาชนในราคาที่ถูกลง นั่นคือ เข็มละ 1,500 บาท 2 เข็มก็อยู่ที่ราคา 3,000 บาทค่ะ
freepik
จริงๆ แล้วก็คือวัคซีน Moderna เป็นวัคซีนที่ดีตัวนึงเลยนะคะ เนื่องจากเป็นวัคซีนชนิด mRNA และสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นได้ดี และผลข้างเคียงอันตรายค่อนข้างน้อย
แต่อย่างไรก็ตามถ้าเราเทียบประเทศไทยกับประเทศอื่นๆของโลก จริงๆแล้วประเทศเราน่าจะสามารถที่จะหาวัคซีนมาให้พอเพียงกับประชากรได้ดีกว่านี้ นอกจากนี้เราอาจจะไม่ต้องไปจ่ายเงินเองด้วย แต่ว่า ณ สถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ วัคซีนกำลังขาดแคลนและทางรัฐบาลเองก็ไม่ได้หาวัคซีนทางเลือกตัวอื่นๆเข้ามา
ซึ่งที่รัฐบาลจัดสรรหามาก็จะมีแค่ 2 ยี่ห้อ นั่นคือ Astrazeneca และ Sinovac 2 ตัวนี้ คือ ประชาชนสามารถฉีดได้ฟรี แต่ถ้าเป็นวัคซีนทางเลือกแบบ Moderna อันนี้เราต้องจ่ายเงินเอง
อันนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่คิดว่า เราน่าจะมีมาตรการอะไรที่ดีกว่านี้เพื่อให้ประชากรสามารถรับการฉีดวัคซีนได้ทั่วถึงและไม่ต้องจ่ายหรือเสียค่าใช้จ่ายเอง อันนี้ก็อยากฝากให้รัฐบาลได้หาแนวทางแก้ไขโดยเร็วที่สุดนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
นพ. รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ / แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง
โฆษณา