Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Gourmet Story
•
ติดตาม
9 ก.ค. 2021 เวลา 00:38 • ไลฟ์สไตล์
“ชานมไข่มุก” - ทานอย่างไรให้น้ำชากับไข่มุกหมดพร้อมกัน?
ชานมไข่มุกดูเหมือนจะเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะคนทำงาน เวลากินข้าวเสร็จต้องถือถ้วยชานมไข่มุกไปกินต่อหลังอาหารกันแทบทุกคน แม้ในยุคที่เราต้องกักตัว Work From Home กัน คนเหล่านี้ก็ยังต้องสั่งชานมไข่มุกผ่านแอปเดลิเวอรี่ให้ไปส่งที่บ้าน
ขอบคุณภาพประกอบจาก Pinterest ของ Talk Boba
ประเทศไทยนั้นดูเหมือนคนไทยจะนิยมชมชอบชานมไข่มุกมากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน จากการสำรวจของ Grab เมื่อปี 2562 พบว่า คนไทยเป็นอันดับ 1 ในการบริโภคชานมไข่มุกคือคนละ 6 ถ้วยต่อเดือน ในขณะที่อัตราถัวเฉลี่ยของการบริโภคของคนในอาเซียนอยู่ที่คนละ 4 ถ้วยต่อเดือน
ชานมไข่มุกมีที่มาจากประเทศไต้หวัน มีเรื่องเล่าที่เป็นต้นกำเนิดของชานมไข่มุกอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกเกิดขึ้นที่ร้านน้ำชา Chun Shui Tang ในเมือง Taichung ทางตะวันตกของเกาะไต้หวัน คุณ Liu Han-Chieh ซึ่งเป็นเจ้าของได้เปิดขายชานมเย็นในร้านเป็นครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1980 หลังจากที่ไปเห็นมีการเสิร์ฟกาแฟเย็นที่ประเทศญี่ปุ่น
ต่อมาในปี 1988 ขณะที่คุณ Lin Hsiu Hui ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กำลังประชุมอยู่กับลูกน้อง และในที่ประชุมนั้นก็มีขนมสาคูของไต้หวันเรียกว่า fen yuan วางไว้เป็นของรับประทานเล่นด้วย fen yuan เป็นขนมทำจากแป้งสาคูสีใสและเป็นสีขาวขุ่นตรงกลาง รูปร่างเหมือนไข่มุกสีดำที่เราทานกันอยู่ทุกวันนี้ คุณ Lin ก็เอาขนมนั้นใส่ลงไปในถ้วยชาเย็นที่เธอกำลังดื่มอยู่ คนอื่น ๆ ในที่ประชุมก็เลยทำตามแล้วก็พบกับความอร่อยของน้ำชาใส่ขนมนั้น ก็เลยเอาออกมาทำขายและได้รับความนิยมอย่างมากมายในเวลาอันรวดเร็ว
อีกเรื่องหนึ่งบอกว่า ชานมไข่มุกมีต้นกำเนิดจากร้านน้ำชา Hanlin ในเมือง Tainan ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะไต้หวัน ร้านน้ำชานี้มีคุณ Tu Tsong He เป็นเจ้าของและเป็นผู้คิดค้นสูตรใส่ขนม fen yuan สีขาวในน้ำชา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ชานมชนิดนี้มีเรียกชื่อว่า”ชานมไข่มุก” แต่หลังจากนั้นไม่นานคุณ Tu ก็เปลี่ยนขนมที่ใส่จากสีขาวเป็นสีดำอย่างที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน
1
เคยสงสัยกันบ้างไหมครับว่า ทำไมเม็ดไข่มุกต้องเป็นสีดำ? ขนม fen yuan ที่เป็นต้นกำเนิดของเม็ดไข่มุกก็เป็นเม็ดแป้งสาคูใส ๆ ไม่มีสีอะไร คำตอบก็คือ เม็ดแป้งสาคูนั้นมันไม่มีรสชาติ เป็นเพียงเม็ดแป้งจืด ๆ เพราะฉะนั้นก็เลยมีผู้คิดทำให้มันมีรสหวานขึ้นมาหน่อยด้วยการใส่น้ำตาลทรายแดงลงไป ผลก็คือเนื้อในเม็ดสาคูกลายเป็นสีดำ ซึ่งก็มีผลดีคือ นอกจากจะทำให้เม็ดสาคูมีรสหวานขึ้นมาแล้ว ก็ยังทำให้มีสีสันดีกว่าการเป็นเม็ดสีขาวขุ่น ๆ
ขอบคุณภาพประกอบจาก Domino Pizza Taiwan
ชานมไข่มุกของไต้หวันเดี๋ยวนี้กลายเป็นเครื่องดื่มที่คนนิยมกินกันในระดับโลกไปแล้ว อย่างบริษัทชื่อ Cong Cha ซึ่งเป็นบริษัทชานมไข่มุกบริษัทหนึ่งของไต้หวัน ตอนนี้ก็มีสาขาไปแล้วถึง 1,300 สาขาใน 19 ประเทศเช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม สิงคโปร์ เม็กซิโก ออสเตรเลีย แคนาดา และสหรัฐอเมริกา เรียกว่า ฝรั่งตาน้ำข้าวเดี๋ยวนี้ก็กินชานมไข่มุกกันถ้วนหน้า
วิธีทานชานมไข่มุกดูก็ไม่น่ามีวิธียุ่งยากอะไร พอได้ถ้วยชานมไข่มุกมาก็แค่เอาหลอดปักลงไปแล้วดูดน้ำชาหอม ๆ หวาน ๆ พร้อมกับเม็ดไข่มุกที่เคี้ยวมัน ๆ แต่ยังครับ มีคนคิดวิธีการที่เราจะทานชานมไข่มุกให้อร่อยได้อย่างเต็มที่ ทำยังไงเหรอครับ?
1
วิธีที่คุณจะได้ซาบซึ้งกับชานมไข่มุกถ้วยอร่อยของคุณยิ่งขึ้นนั้น คุณ Elynn Lee ได้บอกเอาไว้ในเว็บเพจ Quara ว่า
(1) เราก็ต้องเขย่าถ้วยนั้นเสียก่อน เพื่อให้ส่วนผสมไม่ว่าจะเป็นน้ำชา นมหรือน้ำตาลเข้ากันดีเสียก่อน และเม็ดไข่มุกที่จมอยู่ก้นถ้วยก็จะแยกตัวออกจากกันและก็ลอยขึ้นมาบางส่วนเพราะผลจากการเขย่านั้น
(2) ในระหว่างที่ทานนี้ พอดูดไป 2-3 ทีแล้วก็ต้องอย่าลืมคนน้ำชาสลับไปด้วยนะครับ เพราะเม็ดไข่มุกจะจมลงไปนอนก้นใหม่ เพราะฉะนั้นจึงต้องคนอยู่สม่ำเสมอเพื่อให้มันลอยจะได้กินพร้อมชาไปด้วย ไม่อย่างนั้นเราจะดูดได้น้ำชาอย่างเดียวแล้วตอนท้ายต้องกินไข่มุกอย่างเดียวเพราะนอนก้นถ้วยกันอยู่
ขอบคุณภาพประกอบจาก grapee.jp
(3) ให้ดึงหลอดสูงขึ้นมาอีกนิดจะได้ดูดน้ำชาเข้าไปด้วย เพราะเม็ดไข่มุกจะนอนอยู่ก้นถ้วย การปล่อยหลอดไว้ก้นถ้วยจะทำให้คุณได้กินแต่ไข่มุก นอกจากนี้ คุณ Elynn Lee เธอยังมีเทคนิคโดยการจับหลอดให้เอียงเล็กน้อยก็จะทำให้กินน้ำชาได้พร้อมไข่มุก เพราะหากปักหลอดลงไปตรง ๆ จะมีไข่มุกถูกดูดเข้าหลอดมากเกินไป
(4) ไม่ต้องรีบกิน ค่อย ๆ ซึมซาบไปกับน้ำชากลิ่นหอมมีรสหวาน ๆ มัน ๆ ของน้ำตาล + นม ตามด้วยเม็ดไข่มุกที่เคี้ยวแล้วได้ความเหนียวหนุบสู้ฟ้น เพิ่มรสสัมผัสให้กับชานมที่หวานหอมให้เต็มที่
แต่วิธีการกินที่เจ๋งที่สุดก็คือ สามารถกินน้ำชาและไข่มุกได้หมดพร้อม ๆ กัน เวลาเรากิน บางทีก็น้ำชาหมดก่อน บางทีก็ไข่มุกหมดก่อนแล้วแต่วิธีกิน ดังนั้นการกินน้ำชาและไข่มุกให้หมดพร้อม ๆ กันก็นับเป็นความสามารถเฉพาะตัวอย่างหนึ่ง
คุณ Krist Wongsuphasawat ได้ออกแรงทำศึกษาวิธีการทานไข่มุกได้หมดถ้วยพร้อมกับชานมไว้ โดยแสดงการคำนวณไว้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ มีตัวเลขและกราฟประกอบ นับว่ามีความอุตสาหะเป็นอย่างยิ่งครับ ขอปรบมือให้ดัง ๆ ใครที่สนใจวิธีการของคุณ Krist ก็ไปดูโดยละเอียดได้ที่
https://observablehq.com/@kristw/boba-science
ชานมไข่มุกในทุกวันนี้มีสูตรที่แตกแขนงออกไปอย่างมากมาย นับตั้งแต่ตัวน้ำชาซึ่งมีมากมายหลายชนิดพัฒนาไปจนถึงเป็นน้ำผลไม้ชนิดต่าง ๆ เม็ดไข่มุกก็มีมากมายหลายสีหลายแบบทั้งแบบเม็ดใหญ่และเม็ดเล็ก มีหวานมากหวานน้อย และ ฯลฯ เป็นธุรกิจที่มีความเติบโตสูงมาก Fortune Business Insights ทำวิจัยเมื่อปี 2020 ว่า ตลาดของชานมไข่มุกทั่วโลกอยู่ที่ 2.02 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2019 และจะเติบโตเป็น 3.39 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2027 โดยมีอัตราการเติบโตรวมที่ 7.2% ต่อปี
การบริโภคชานมไข่มุก แม้จะมีรสอร่อยแต่ก็ต้องระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ “น้ำตาล” เพราะที่เรากินแล้วชื่นใจก็เพราะปริมาณน้ำตาลที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกเช่นนั้น มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ทำการสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ในชานมไข่มุก 25 ยี่ห้อพบว่า มีเพียง 2 ยี่ห้อ ที่น้ำตาลน้อยกว่าปริมาณที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ(คือไม่ควรเกิน 24 กรัม (6 ช้อนชา) ต่อวัน) ขณะที่บางยี่ห้อสูงถึง 18 ช้อนชา
ขอบคุณภาพประกอบจาก consumerthai.org
เพราะฉะนั้น เมื่อจะกินชานมไข่มุกของอร่อยก็ทานแต่พอดีนะครับ อย่าเพลิดเพลินกับของอร่อยจนเป็นผลร้ายต่อสุขภาพ
เรื่องตอนที่แล้ว “ไก่ทอด - กินเมื่อไหร่ก็อร่อย” อ่านได้ที่
https://www.blockdit.com/posts/60dd01104288ef0e03bc908c
Gourmet Story - เรื่องราวเกี่ยวกับอาหารที่เป็นเกร็ดความรู้ เล่าสู่กันฟัง เพิ่มความอร่อยของอาหารที่เรารับประทาน ติดตามได้ที่
https://www.blockdit.com/pages/5ec8e61ec4d9510ca73a2d34
2 บันทึก
8
3
5
2
8
3
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย