Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
มาดามหมีขาว
•
ติดตาม
9 ก.ค. 2021 เวลา 05:13 • ข่าว
บทสรุปของสารเคมีอันตราย
จากเหตุการณ์ระเบิดและไฟใหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก
ซอยกิ่งแก้วสมุทรปราการ
โรงงานของมิลินก็โดนไปกับเค้าด้วยเลย
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นครั้งนี้อยู่ใกล้ตัวพวกเรามากจนแทบไม่อยากเชื่อว่า ชีวิตเราอยู่ใกล้อันตรายระดับนี้ไดัอย่างไรเราไม่เคยรู้เลยว่า มัจจุราช - มหันตภัยร้ายซ่อนตัวอยู่ห่างจากเราไม่กี่ร้อยเมตร รอคอยจังหวะที่จะปรากฎกายอย่างร้ายกาจเพียงแค่ใครสักคนพลั้งเผลอ หรือพลาดพลั้งไปเพียงเสี้ยววินาที
ร้านอาหารในโรงงาน
นี่คือสภาพออฟฟิตและโชว์รูมของเรา
เหตุการณ์นี้สอนเราอีกครั้ง และอีกหลาย ๆ ครั้งนับจากนี้ว่า ความไม่ประมาท คือรากฐานของทุกชีวิต ทุกหน้าที่ ทุกภาระกิจแห่งความเป็นมนุษย์ ยิ่งสำคัญ ยิ่งเสี่ยง ยิ่งต้องการสำนึกในเรื่องนี้สูง เพราะหากขาดไปแม้เพียงชั่ววินาที ไม่ได้หมายถึงชีวิตเดียว
ห้องนอนที่ลูกๆและมิลินนอน ถือว่าเป็นการรอดชีวิตเพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตรเอง
แต่อาจหมายถึงชีวิตของเพื่อนมนุษย์อีกนับหลายร้อยหลายพันหลายหมื่นคน ที่อาจพลิกผันไปอย่างง่ายดายดุจฝุ่นธุลีเพียงชั่วข้ามคืน
ส่วนพวกเราชาวกิ่งแก้วและทุกคนที่ยังดำเนินชีวิตต่อไปในสภาวะแวดล้อมหลังเหตุการณ์ร้าย ก็น่าคิดว่า และควรรับรู้ว่า เรากำลังเผชิญอยู่กับอะไร และเราจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ต่อไปอย่างไร ด้วยอะไร
ขอบคุณภาพจาก Voice TV
ไขทุกข้อกระจ่างเรื่องสารเคมีเป็นพิษย่านกิ่งแก้ว:
🔥ข้อมูลจากศูนย์พิษวิทยาบอกว่า สารเคมีในที่เกิดเหตุคือ EPS คือ Expanded polystyrene เป็นสารเคมีที่สำคัญซึ่งใช้ในการผลิตเม็ดพลาสติก เมื่อติดไฟจะทำให้เกิดแก๊สพิษซึ่งสามารถเข้าสู้ร่างกายได้ทาง การสูดดม และทางผิวหนัง
🔥สารตั้งต้นที่ทำให้เกิดการระเบิดรวมถึงทำให้ไฟไหม้ไม่หยุด ตอนนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าคือ สไตรีนโมโนเมอร์(Styrene Monomer) เรียกง่าย ๆ ว่ามันคือสารตั้งต้นในการผลิตออกมาเป็นโฟมนั่นเอง
🔥นอกจาก polystyrene แล้ว ยังมีสารพิษอื่น ๆ เช่นสารปิโตรเคมีที่ใช้เป็นตัวทำละลาย และสารพิษที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ของตัวอาคารโรงงาน ยกตัวอย่างเช่น แก๊สพิษที่สามารถแทนที่อ็อกซิเจนในอากาศ และแก๊สไซนาไนด์ ที่ทำให้เกิดภาวะขาดอ็อกซิเจนระดับเซลล์ เป็นต้น
🔥แก๊สพิษต่าง ๆ เหล่านี้มีอนุภาคขนาดเล็ก ไม่สามารถใช้หน้ากากอนามัยหรือ N95 ในการป้องกันได้ ผู้ที่จำเป็นต้องเข้าไปปฏิบัติงานในจุดเกิดเหตุหรือบริเวณอันใกล้ จึงควรใส่หน้ากากป้องกันแก๊สพิษแบบเฉพาะเพื่อป้องกันไม่ให้สารพิษเข้าสู่ร่างกาย
🔥โรงงานที่เกิดเหตุมีสารเคมีอันตรายอย่างน้อย 2 ชนิด คือ เพนเทน และสไตรีนโมโนเมอร์ (StyreneMonomer) ซึ่งเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำและโฟมหล่อเลี้ยงไว้ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ถังบรรจุสารเคมีมีอุณหภูมิสูงเกินไป
🔥สารสไตรีนโมโนเมอร์ เป็นของเหลว ไวไฟ เมื่อติดไฟจะให้ควัน หรือก๊าซที่ระคายเคืองหรือเป็นพิษ จึงไม่ควรอยู่ใกล้เปลวไฟ
🔥สารสไตรีนโมโนเมอร์ เป็นสารตั้งต้นผลิตโฟม มีคุณสมบัติติดไฟได้ง่าย ส่วนสารพอลิสไตรีนนั้น เมื่อถูกความร้อนสูงจะให้สาร 2 ชนิดคือ สไตรีน (Styrene) และเบนซีน (Benzene)
🔥เบนซีนเป็นสารพิษอันตราย มีความเป็นพิษสูง และเป็นสารก่อมะเร็ง โดยอาการของผู้ที่ได้รับเบนซีนเมื่อหายใจเข้าไปในระดับสูงและเป็นเวลานาน คือในระยะแรก ๆ จะเกิดอาการซึม วิงเวียน คลื่นไส้ หมดสติ ใจสั่น เมื่อสูดดมเป็นเวลานานจะทำให้เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือด (Leukemia) ได้
🔥สไตรีนมอนอเมอร์ เป็นชื่อเรียกของสารตั้งต้นโมเลกุลเล็กที่นำมาใช้สังเคราะห์ต่อเนื่องให้เป็นโมเลกุลใหญ่ขึ้นจนได้เป็นพอลิเมอร์หรือพลาสติก สารสไตรีนมีโครงสร้างหลักของโมเลกุลเป็นตัวเบนซีน ซึ่งเป็นไฮโดรคาร์บอนประเภทวงแหวน 6 เหลี่ยม จัดเป็น สารก่อมะเร็ง และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย
🔥สารสไตรีนโมโนเมอร์ เป็นสารระเหย ถ้าหายใจเข้าไป จะเกิดการระคายระบบทางเดินหายใจ คือ ปวดศีรษะ มึนงงอ่อนเพลีย คลื่นไส้ และมึนเมา ถ้าได้รับสารปริมาณสูง จะชักและเสียชีวิตได้ หากการหายใจเข้าไปในระยะนานๆ อาจมีอาการทางสายตา การได้ยินเสื่อมลง และการตอบสนองช้าลง
🔥สไตรีนโมโนเมอร์ เป็นสารเคมีที่มีอันตรายต่อระบบอวัยวะสำคัญของร่างกาย ทั้งระบบ ทางเดินหายใจ ระบบประสาท ระบบสร้างเลือด ตับ และระบบประสาทส่วนกลาง เมื่อได้รับไอระเหยของสารนี้ทางการสูดดมส่งผลให้เวียนศีรษะ ง่วงซึม ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย หมดสติ จะต้องย้ายผู้ป่วยไปบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ทันที หากได้รับทางผิวหนังจะมีอาการผิวหนังแดง ปวด ให้ใช้วิธีล้างผิวหนังทันทีด้วยสบู่และน้ำปริมาณมาก ๆ หากสัมผัสสารทางดวงตาจะทำให้ระคายเคืองตา ตาแดง ปวดตา จึงควรล้างตาด้วยน้ำ ในปริมาณมาก ๆ เช่นกัน เพื่อเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
🔥 หมอกควันที่มีสารพิษเหล่านี้ มีระยะเวลาสลายตัวตามธรรมชาตินานนับปี แต่ก็จะเกี่ยวข้องกับปัจจัยอย่างอื่นด้วยเช่น น้ำ ความชื้น ฝน ก็จะทำให้สลายตัวได้เร็ว และน้ำจะทำปฏิกิริยาทำให้กลายเป็นสารประกอบตัวอื่นที่สลายตัวได้ง่ายขึ้น และลงสู่พื้นดินซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และวนกลับมาสู่มนุษย์ได้อีก
มุมจากหลังคาโรงงานมิลินเอง
🔥 อนาคตที่ควรพึงระวัง!
ข้อมูลจาก
BBC.Com
บอกเราว่า ถังจัดเก็บสารเคมีที่อยู่ในโรงงานมีขนาดบรรจุกว่า 2,000 ตัน ก่อนเกิดเหตุมีปริมาณสารสไตรีนโมโนเมอร์อยู่ราว 600 ตัน เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ สารเคมีส่วนหนึ่งก็ไหลออกมาเผาไหม้เป็นเชื้อเพลิง (มีการคาดคะเนว่ามีสารที่เกิดการระเบิดมากกว่า 1,000 กิโลกรัม) ขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนที่เหลือในถังบรรจุแน่ชัด
ปัญหาคือ กลไกในการตรวจสอบมีอำนาจมากเพียงใด ที่จะเข้ามาจัดการ “ความเสี่ยง” ในเรื่องนี้ ? เพราะไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
สรุป:
สารเคมีที่โรงงานนี้มีสารตั้งต้นหลายตัว ซึ่งสารประกอบหลัก ๆ คือ สไตรีน (styrene) เพราะเป็นโรงงานที่ทำ ฟองน้ำโฟม นอกจากนี้ ยังมีสาร พอลิสไตรีน (polystyrene) โดยมีสไตรีนเป็นสารตั้งต้น และยังมีสารที่อยู่ในกลุ่มตัวทำละลายเช่น คาร์บอน เตตระคลอไรด์ (carbon tetrachloride) โทลูอีน (toluene) สารเคมีที่เป็นตัวชะล้างทำความสะอาด ซึ่งเป็นสารประกอบ ฮาโลเจน (halogen) ซึ่งโดยรวมแล้ว จะเรียกว่าเป็นสารเคมีที่ไม่เป็นมิตรต่อมนุษย์ คือ สารที่เหนี่ยวนำที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็งในอนาคต ด้วยเหตุนี้จึงใช้งานในอุตสาหกรรมระบบปิด ไม่ค่อยจะหลุดรอดออกมาสู่ชุมชน
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นในอากาศที่มาจากการเผาไหม้ คือ ฝุ่น PM 2.5 พร้อมกับสารปนเปื้อนสารเคมี เป็นกลุ่มหมอกควัน กระทบต่อประชาชนที่อาศัยโดยรอบ และยังเป็นผลต่อสุขภาพในระยะยาว
มลพิษที่เกิดขึ้น "ไม่ได้มีพิษเฉียบพลัน แต่เป็นกลุ่มหมอกควันที่มีสารเคมีเจือปนมีผลต่อร่างกายในระยะยาว ถ้าสูดหายใจเข้าไปจะมีผลกระทบต่อทางเดินหายใจ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะเป็นมะเร็งกันทั้งหมด เพราะสารกลุ่มนี้เป็นสารที่สงสัยให้ก่อมะเร็ง แต่การรับเข้าไปเยอะ ๆ ก็มีผลต่อร่างกาย ในส่วนของกลุ่มผู้ป่วยที่มีร่างกายอ่อนแออยู่แล้วเมื่อต้องสูดดมสารพิษก็อาจทำให้ร่างกายแย่ลง แนะนำว่าประชาชนควรใส่หน้ากากแบบเต็มใบหน้า หรือหน้ากากที่ป้องกัน PM 2.5 ได้"
ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกนาทีชีวิตของเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครทุก ๆ คนที่เสียสละ เวลา กำลังกาย - ใจ ช่วยกันในเหตุการณ์ที่เปรียบเสมือนยักษ์ร้าย ที่ทุกคนช่วยกันขับไล่มันให้พ้นไปจากพื้นที่ชีวิตของเรา ไม่มีใครอยากเห็นมันกลับมาไม่ว่าเมื่อใด
ขอบคุณภาพจาก Voice TV
เหตุการณ์นี้บอกเราว่า เวลาคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง ไม่มีใครเห็นค่าของเวลาจนกระทั่งมันหายไป หรือเมื่อมันจบลงอย่างที่ไม่อาจเรียกคืนสิ่งใดกลับมาได้ หรือว่าเมื่อใครสักคนหายไปจากเราตลอดกาล
ใช้ชีวิตในทุก ๆ นาที ให้คุ้มค่ากับโอกาสที่เราได้มีชีวิต
ไม่มีใครรู้จริง ๆ ว่าเราจะตายกันเมื่อไหร่
ดังนั้นเราจงใช้ชีวิตทุกลมหายใจให้เหมือนเป็นวันสุดท้ายของเรา
ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิต
Live as if it were your last day
จงมีชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท
อ้างอิง: ศูนย์พิษวิทยา, BBC News, รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0016236107000312?via%3Dihub
#ระเบิดกิ่งแก้ว #ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว #supremepharmatech
#explosion #ไฟไหม้โรงงานพลาสติก #ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว21 #กิ่งแก้ว #กิ่งแก้ว21
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย