10 ก.ค. 2021 เวลา 03:44 • กีฬา
FALSE 9 หรือ NUMBER 9
ควันหลงจากคู่อิตาลีปะทะสเปน ที่เรารู้สึกว่าสนุกที่สุดในบอลยูโรหนนี้
เพราะตลอดทั้งเกม มีการเปลี่ยนแผน ชิงเหลี่ยมกันของโค้ช 2 คนตลอดเวลา
และรูปแบบที่เห็นได้ชัดที่สุด คือการเปลี่ยนกลับไปกลับมาระหว่างระบบ “FALSE 9” หรือ “ระบบหน้าเป้า” (ย้ำว่าเปลี่ยนกลับไปกลับมาทั้ง 2 ทีม เพื่อรับมือกัน) วันนี้เลยจะมาเล่าให้ฟังว่าเราเห็นอะไรบ้างระหว่างเกมคู่นี้
Q: เริ่มเกมทำไมสเปนเปลี่ยนมาใช้ false 9 ต่างจากรอบที่ผ่านๆมา
A: สเปนต้องการให้ โอลโม่ เป็น false 9 เพื่อลงมาเอาบอล กลาง 3 คนไม่ต้องดันสูง ประกบตัวต่อตัวกับกลางอิตาลีทุกคน แล้วก็ได้ผล ช่วงแรกบอลอิตาลีขึ้นไม่ได้เลย บอลออกมาจากกองหลังหรือดอนนารุมมา จะมาโดนแย่งที่แดน 2
...แผนนี้สเปนชนะ
Q: กลางครึ่งหลัง ทำไมอิตาลีเปลี่ยนมาใช้ false 9 และสเปนกลับมาใช้ number 9
A: อิตาลีขึ้นนำจากจังหวะฉาบฉวย แต่กลางสนามสเปนครองเกมเบ็ดเสร็จ อิตาลีเลยคิดซะว่าถ้าตั้งเกมไม่ได้ ก็ไม่ต้องตั้ง งัดแผน “คาเตนัคโช่” คือการตั้งรับรอสวนกลับซึ่งเป็น DNA ของอิตาลีมาใช้ซะเลย ไม่ครองบอลก็ได้ หน้าเป้าเลยไม่สำคัญเท่ากับการเพิ่มตัวคอยป่วนแผงกลางสเปน กลางคุมจังหวะแบบแวรัตติ ก็เปลี่ยนเป็นกลางที่มีความเร็ว จะได้ให้วิ่งทะลุขึ้นไปได้แบบเปสซิน่าจะดีกว่า
ส่วนสเปนต้องการประตูตีเสมอ จึงต้องเพิ่มหน้าเป้า เพื่อเพิ่มตัวนักเตะไปค้ำในเขตโทษ คอยชนกับเซ็นเตอร์อิตาลี
…แผนนี้ทันกัน เสมอกัน
Q: แล้วท้ายเกมทำไมอิตาลีกลับมาใช้แผน number 9 อีกครั้ง
A: เซ็นเตอร์อิตาลีวางบอลยาว(จะสวนกลับด้วยลูกเรียด กลางตัวออกบอลแม่นๆแบบแวรัตติก็เอาออกไปแล้ว) แต่กลางทะลุไปเอาบอลไม่ได้ ประกอบกับไม่มีกองหน้าคอยเก็บบอล คาเตนัคโช่อันเกรียงไกรกำลังจะกลายเป็นแผนรถบัส จึงต้องเอาหน้าเป้ากลับลงมาอีกที
…แผนนี้ทำอะไรสเปนไม่ได้ แล้วยังเป๋ไปเป๋มาด้วย สเปนยังเป็นต่อ
Q: ทำไมสเปนต้องบุกแต่ดันเปลี่ยนตัวรุกออก แล้วเพิ่มตัวรับอย่างโรดรี้ลงไป ทั้งๆที่ต้องการตีเสมอ
A: ลำพังโมราต้า ไม่ได้สร้างความระคายเคืองให้กับโคตรกองหลังอิตาลีเลย ทำให้เลือกที่จะเปลี่ยนเอาปีกอย่างโอญาซาบัลออก แล้วใส่โมเรโน่ลงไปอัดไว้ในเขตโทษอีกคน แล้วให้โรดรี้คอยลงมาเล่นแนวกว้างคุมทั้งริมเส้นและตรงกลาง ได้ผลจริงๆ สเปนตีเสมอได้
…แผนนี้สเปนชนะไปอีกยก
Q: สเปนดูดีกว่าทุกแผน แล้วทำไมตกรอบ
A: เพราะฟุตบอลเขานับผลแพ้ชนะที่ประตูได้เสีย(ถึงแม้จะตัดสินด้วยการยิงจุดโทษก็ตาม) และที่สำคัญ ‘คาเตนัคโช่’ ของอิตาลีเขาแน่นอนจริงๆ เห็นได้จากคิเอลินี่เล่นไป 120 นาที ก่อนยิงจุดโทษ พี่แกยังดีดอยู่เลย
โฆษณา