10 ก.ค. 2021 เวลา 23:07 • ท่องเที่ยว
2. เยือนบ้านมหาตมะ คานธี
มหาตมะ คานธี น่าจะเป็นชื่อที่ชาวโลกจดจำได้อย่างแม่นยำ ท่านเป็นคนหนึ่งที่รณรงค์ให้ประเทศอินเดียได้รับเอกราช วิถีชีวิตของท่านโด่งดังถึงขนาดได้นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ด และได้รับออสการ์หลายรางวัล
ในประเทศอินเดียมีพิพิธภัณฑ์มหาตมะ คานธี หลายแห่งมาก แต่ที่โด่งดังอยู่ 2 แห่ง คือที่นิวเดลลีและที่มุมไบ
บ้านที่นิวเดลลี เป็นบ้านหลังใหญ่ ซึ่งที่จริงแล้ว คานธีไม่ได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ แต่มีผู้ร่วมอุดมการณ์ทางความคิดคนหนึ่งมอบบ้านหลังนี้ให้เป็นที่ทำงาน ซึ่งคานธีก็ใช้พื้นที่ห้องส่วนตัวน้อยมาก แม้กระทั่งในห้องก็ไม่มีเครื่องตกแต่งอะไรมากมาย มีเพียงฟูกนอน ผ้าห่ม ของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และเครื่องมือปั่นด้าย
สิ่งที่น่าสนใจของบ้านหลังนี้ก็คือเขามีการทำรอยเท้าตามทางเดินในวันสุดท้ายของคานธีก่อนที่จะถูกยิงในบริเวณที่คานธีไปนั่งภาวนาเป็นประจำ และจุดที่ถูกยิงล้มลง ก็มีการทำเครื่องหมายให้เห็นชัดเจน
บ้านมหาตมะ คานธีที่นิวเดลลี
ประวัติของมหาตมะ คานธี เล่ากันแบบย่อๆ มีดังนี้
คานธีเกิดวันที่ 2 ตุลาคม 1869 (2412) ในแคว้นคุชราต และถูกยิงตายเมื่อ 30 มกราคม 1948 (2491)
แม่ของคานธีเป็นเมียคนที่ 4 ของพ่อคานธี
เขาเป็นลูกมีแม่เคร่งศาสนา ทำให้คานธีรับอิทธิพลการเรียนรู้ความอดทนให้กับตัวเอง
คานธีมีชื่อเต็มว่า โมหันทาส กรัมจันท์ คานธี แต่คนที่ตั้งชื่อมหาตมะ คือท่านระพิณทรนาถ ฐากูร กวีเอกของอินเดียที่เคยได้รับรางวัลโนเบล
คานธีแต่งงานเมื่อปี 1883 ตั้งแต่อายุ 13 มีลูก 5 คน ตายตั้งแต่เป็นทารก 1 คน สมัยก่อนมีความเชื่อกันว่าถ้าลูกไม่ได้แต่งงาน พ่อแม่จะต้องตกนรก วิธีแก้ปัญหาง่ายๆในสังคมอินเดียยุคนั้นคือการหาคู่ให้ตั้งแต่เด็ก เพื่อให้พ่อแม่ได้สบายใจว่ายังไงลูกก็มีคู่ครองแล้ว ยังไงพ่อแม่ก็ไม่ตกนรก
ในปี 1888 คานธีมีลูกคนแรก แต่ต้องไปเรียนต่ออังกฤษ ทีแรก แม่ไม่อยากให้ไป เพราะกลัวลูกจะแตกแถว คานธีจึงให้สัญญากับแม่ว่า ไม่กินเนื้อ ไม่กินเหล้า ไม่ยุ่งผู้หญิงอื่น
ปี 1892 คานธีจบการศึกษา กลับถึงอินเดีย อีกไม่นานก็มีลูกคนที่สอง (ไวจัง)
1893 เขาได้งานทำเป็นทนายความที่อาฟริกา คานธีได้ซื้อตั๋วรถไฟชั้นหนึ่ง แต่เจอผู้โดยสารชั้นหนึ่งที่ผิวขาวไม่พอใจที่คนผิวคล้ำอย่างคานธีมาอยู่ร่วมชั้นหนึ่งกับพวกเขา จึงไปบอกเจ้าหน้าที่ให้คานธีย้ายไปตู้โดยสารชั้นสาม คานธีปฏิเสธ จึงถูกรุมทำร้ายและถูกโยนออกมาจากรถไฟ นับแต่นั้น คานธีก็ได้เข้าต่อสู้เรียกร้องเรื่องสิทธิมนุษยชน เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เดือดร้อน
ปี ค.ศ. 1915 คานธีกลับถึงอินเดียที่เมืองบอมเบย์ (มุมไบ) คานธีตัดสินใจละทิ้งการแต่งกายแบบตะวันตกดังที่เคย และหันมาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมของแคว้นคุชราต และเมื่อเดินทางกลับมาถึง ชาวอินเดียจำนวนมากไปชุมนุมต้อนรับคานธีกลับบ้านอย่างล้นหลาม ไม่กี่วันต่อมา คานธีเดินทางไปหา รพินทรนาถ ฐากุร มหากวีแห่งอินเดีย และรพิทรนาถนี้เอง ได้ขนานนามคานธีว่า "มหาตมา" อันแปลว่า ผู้มีจิตใจสูงส่งให้แก่คานธี เป็นคนแรก และหลังจากนั้น คานธี ได้เดินทางไปทั่วประเทศอินเดีย กลายเป็นผู้นำเรียกร้องในเรื่องต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องเอกราชให้กับประเทศอินเดีย
จนกระทั่งวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1948 ขณะที่คานธีอยู่กลางสนามหญ้า กำลังสวดมนต์ภาวนาตามกิจวัตร ก็ถูกนาถูราม โคทเส ชาวฮินดูผู้คลั่งศาสนา ไม่ต้องการให้ฮินดูสมานฉันท์กับมุสลิม ยิงปืนใส่คานธี 3 นัด จนคานธีล้มลง คานธีได้สิ้นลมหายใจในวัย 78 ปี
จบเรื่องราวแบบย่อๆตามนี้ ในเมืองนิวเดลลีจึงมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับมหาตมะ คานธีอยู่ 2 แห่ง คือสถานที่พักของมหาตมะคานธีละสถานที่เผา ซึ่งกลายเป็นสถานที่รำลึกถึงเขาจนถึงทุกวันนี้
ห้องพักในบ้านที่นิวเดลลี
วาระสุดท้ายของมหาตมะ คานธี
สถานที่เผาศพ ซึ่งกลายมาเป็นสถานที่รำลึก
คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจที่นิวเดลลีมากกว่าก็เพราะ ณ.สถานที่นั้นคือสถานที่จริงซึ่งท่านถูกยิงจนเสียชีวิต แต่ก็มีบ้านอีกหลังคือที่มุมไบ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะในระหว่างปี ค.ศ. 1917 – 1934 คานธีได้มาเยือนเมืองบอมเบย์ (เพิ่งเปลี่ยนชื่อเป็นมุมไบเมื่อปี 1996) และได้มาพักที่ mani bhavan ซึ่งก็คือบ้านหลังนี้
ภายในอาคารเก่านี้มี 3 ชั้น ชั้นล่างและชั้นที่สองเป็นห้องสมุดและนิทรรศการภาพ ส่วนชั้นบน เป็นนิทรรศการจำลองภาพเหตุการณ์ต่างๆที่สำคัญของมหาตมะคานธี เช่นตอนที่ท่านถูกโยนจากรถไฟที่อาฟริกาเมื่อปี ค.ศ.1873 หรือตอนที่ท่านมาบอมเบย์เพื่อรณรงค์ให้ชาวอินเดียเลิกใส่ชุดแบบตะวันตก หันมาใส่ชุดพื้นเมืองแทน ไปจนถึงเหตุการณ์บั้นปลายของชีวิตที่ถูกยิงโดยชาวฮินดูผู้คลั่งศาสนา เมื่อวันที่ 30 มกราคม 1948
บ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่โตมากก็จริง แต่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง ใครมามุมไบหากมีเวลา น่ามาเยือนสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้กันครับ
ห้องนอนในบ้านที่มุมไบ อยู่ชั้น 3
มณี ภาวัน บ้านพักที่มุมไบ
อยากรู้ว่าคานธีในอินเดียยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ขอให้ดูธนบัตรทุกมูลค่าของประเทสอินเดีย ตั้งแต่ประเทสอินเดียได้รับเอกราชมาถึงปัจจุบัน มีเฉพาะคานธีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ปรากฏอยู่ในธนบัตร โดยไม่มีใครมาแทนที่ได้เลย
โฆษณา