11 ก.ค. 2021 เวลา 01:05 • สุขภาพ
📃 วันนี้ มาทำความรู้จัก ไขมันในช่องท้อง ( Visceral Fat ) กันครับ
. . . . . เมื่อพูดถึงไขมันในร่างกาย เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย อีกทั้งยังมีกลุ่มคนที่มักเชื่อว่าคนที่ผอมคือคนที่ไม่มีไขมันในร่างกาย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว คนผอมนั้นสามารถมีไขมันที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับไขมันประเภทนี้กันให้มากขึ้น มาดูกันสิว่าไขมันชนิดไหนที่แม้แต่คนผอมก็มีได้ และอันตรายมากแค่ไหนกัน
👉🏻 ไขมันที่ว่านั้นคือ ไขมันในช่องท้อง (visceral fat) ซึ่งหลายคนเข้าใจว่า น่าจะเป็นสิ่งเดียวกันที่เรียกว่า “พุง” ซึ่งไม่ผิดครับ แต่ไม่ถูกไปซะหมด เพราะว่าไขมันในช่องท้องคือส่วนหนึ่งของพุงพวกเรานั่นเอง แต่มีอีก 2 ชั้นครับที่เป็นส่วนประกอบของพุง
🐖 พุง ของเรามี ส่วนประกอบ 3 ชั้น
1. ไขมันใต้ผิวหนัง คือ ไขมันชั้นแรกของพุง ส่วนที่เราสัมผัสได้ จับที่ผิวของเรากดลงไป นิ่มๆ นั่นหล่ะครับ 55555
2. กล้ามเนื้อหน้าท้อง คือ กล้ามเนื้อตรงบริเวณหน้าท้อง ที่เราชอบเรียกว่า “ ซิกแพ๊ค “ Six pack อ่าครับ ที่หลายคนอยากจะมีกันในชีวิตนี้ ซึ่งแท้จริงแล้ว มันมีอยู่แล้ว แต่แค่เราไม่เคยเห็นมันเพราะ ไขมันคอยบังอยู่ตลอดเวลา
3. ไขมันในช่องท้อง คือ ไขมันชั้นในสุดของพุง ซึ่งส่วนนี้มีความอันตราย หากมีปริมาณ หรือในระดับที่มากจนเกินไป จะรบกวนการทำงานของอวัยวะหลักของร่างกาย และบ่งบอกได้ระดับหนึ่งเลยว่า ต่อไป ท่านจะเป็นกลุ่มโรค NCDs ในอนาคตอย่างแน่นอน เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคมะเร็ง โรคอ้วน
… หมายเหตุ : ถ้าไขมันในพุง เริ่มมีปริมาณมาก ต่อไปไขมันจะเปลี่ยนโครงสร้างให้มีขนาดเล็กลง และส่งผลให้ไขมัน เข้าไปอยู่ในเลือดเลือด คือ “ไขมันในหลอดเลือด” นั่นเอง ซึ่งก่อโรคเพียบ เช่น โรคความดันโลหิตสูง และอีกมากมาย … เดี๋ยวมีโอกาสค่อยมาเล่าเรื่อง ไขมันในหลอดเลือด ต่อ… ถ้าใครอยากรู้ฝากแชร์ก่อนนะครับ ❤️
📌 ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ซึ่งเป็นไขมันที่อยู่ภายในช่องท้องใน้กล้ามเนื้อหน้าท้องลงไป โดยเกิดจากการสะสมตัวของไขมันที่ร่างกายนำไปเผาผลาญเป็นพลังงานไม่หมดจนตกค้างและสะสมอยู่ถายในช่องท้อง ไขมันชนิดนี้เป็นไขมันที่สามารถละลายเข้าสู่กระแสเลือดและไปสะสมอยู่ตามอวัยวะส่วนต่างๆ ได้ เช่น ไขมันพอกตับ และไขมันในเส้นเลือด ทั้งนี้หากไขมันชนิดดังกล่าวสะสมอยู่ภายในร่างกายมากเกินไป สิ่งที่ตามมาคือโรคภัย ไข้เจ็บ และอาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้เลยครับ
📈 ซึ่งมีการวัดค่าไขมันในช่องท้อง แบ่งระดับความเสี่ยงต่อร่างกายเป็น 3 ระดับ
1. ค่า 1-5 ระดับปกติ คือค่าที่ไขมันในช่องท้องอยู่ในระดับปกติ สุขภาพดี
2. ค่า 6-14 ระดับมีความเสี่ยง คือค่าที่ไขมันในช่องท้องอยู่ในระดับเริ่มมีความเสี่ยง ที่ไขมันในช่องท้องมากจนรบกวนการทำงานในอวัยวะหลักภายในช่องท้องของพวกเรา ซึ่งเริ่มอันตรายแล้วครับ
3. ค่า 15-59 ระดับมีความเสี่ยงสูง คือไขมันในช่องท้องเข้าไปแทรกตัวในอวัยวะหลักในช่องท้องทั้งหมด ทำให้เกิดโรคไขมันอุดตันอวัยวะส่วนต่างๆ ทำให้เกิดการทำงานบกพร่อง และก่อโรคเกือบทุกชนิดที่คนส่วนใหญ่ชีวิต
🚫 ไขมันในช่องท้อง นั้น รบกวนการทำงานอวัยวะหลักๆ ของเรายังไงบ้าง?
🫁 ปอด ส่งผลทำให้ปอดขยายตัวได้ไม่เต็มที่ ระบบหายใจผิดปกติ หายใจไม่สะดวก เวลานอนหลับ และ การหยุดหายใจขณะหลับได้ (อันตรายมาก)
🩲 ตับ ส่งผลทำให้ขัดขวางการเผาผลาญ น้ำตาลในเซลล์ ตับจึงต้องทำงานหนักมากขึ้น ในการผลิตอินซูลิน ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรค เบาหวาน (ชื่อดัง) ที่คนส่วนใหญ่ชอบเป็นกัน
🦵🏻 หัวเข่า กระดูก ส่งผลทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หัวเข่า ต้องรับน้ำหนักมากขึ้น อาจจะทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้ และรวมถึงกระดูกส่วนอื่นที่ต้องรับน้ำหนักมากเช่นกัน
🧠 สมอง ส่งผลทำให้ไขมันสะสมตามผนังเส้นเลือด ขัดขวางการไหลเวียนของเลือด ที่ลำเลียงไปยังสมอง ซึ่งเป็นอวัยวะที่สูงกว่าหัวใจ ซึ่งเลือดของเราต้องลำเลียงต้านแรงโน้มถ่วงขึ้นไปอีกด้วย ทำให้เกิดโรคเส้นเลือดในสมองตีบ และไม่มีเลือดเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอ อาจจะทำให้เสียชีวิตกะทันหันได้
🫀 หัวใจ ส่วนสุดท้ายนี้ คือมีผลโดยตรงเพราะต้องสูบฉีดเลือดเลี้ยงทั่วร่างกาย และทำงานไม่เคยหยุดตั้งแต่เกิดเลย ถ้าไขมันเยอะก็อุดตันในเส้นเลือดเยอะเช่นกัน ทำให้หัวใจต้องสูบฉีดแรงขึ้น หากรุนแรงมาก อาจจะทำให้หัวใจวายได้ แน่นอน
…🔥……🔥……🔥…ไขมันในช่องท้อง อันตราย นะครับ …🔥……🔥……🔥…
#ลดไขมันช่องท้องกันเถอะ #ลดพุงลดโรค
#ผู้กองพลัส #โค้ชสุขภาพ
#ดูแลสุขภาพกันครับ #สุขภาพดี
#Bodykey #ABCfit #Nutrilite
#แชร์หน่อยครับ #เพื่อประโยชน์ #อ่านเถอะ
โฆษณา