11 ก.ค. 2021 เวลา 06:20 • ธุรกิจ
เทรนด์ตลาด Self-Care Routine At Home จุดพลิกของธุรกิจขนาดเล็ก?
สถานการณ์โควิดทำให้คนตกอยู่ในภาวะเครียดและวิตกกังวลสูงขึ้นอย่างมาก จากผลวิจัยของ National Center for Health Statistics ของอเมริกาพบว่าประชาชนช่วงอายุ 18-25 และเด็กอายุต่ำกว่านั้นเป็นกลุ่มคนที่เผชิญความเครียดสูงขึ้นที่สุด ทำให้บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ พากันคว้าโอกาสออกผลิตภัณฑ์ที่จะมาช่วยลดความเครียดให้กับผู้บริโภค ตั้งแต่บริษัทรถยนต์ เครื่องสำอางค์ ไปจนถึงอาหารและเครื่องดื่ม ตลาดการดูแลรักษาสุขภาพกายและใจนี่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและไม่จำกัดผู้เล่น
จากผลการสำรวจของ Ernst & Young กับคนอเมริกัน 1,000 คน เมื่อต้นปี 2021 เผยว่าผู้บริโภคค่อนข้างตอบรับกับผลิตภัณฑ์ใดๆ ก็ตามที่สามารถตอบโจทย์ทำให้พวกเขา 'รู้สึกดี' ขึ้นได้ การดูแลรักษาสุขภาวะทางอารมณ์เป็นสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา โดยเฉพาะในผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุ 18-24 ที่เริ่มเปลี่ยนมุมมองและวิธีการรับมือกับการดูแลสภาวะจิตใจตัวเอง พวกเขาหาซื้อสินค้าของใช้ทุกอย่างที่ช่วยลดความตึงเครียดได้ ไม่ว่าจะเป็น Bath Bomb อัลมอนด์ ไปจนถึงต้นไม้ในบ้าน และเทียนหอมต่างๆ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้การทำงานที่บ้านผ่อนคลายมากขึ้น
เมื่อความต้องการคลายเครียดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ความท้าทายและความสงสัยเรื่องการวัดผลประสิทธิภาพการคลายเครียดก็ตามมา ซึ่งสินค้าส่วนมากที่ออกมาก็ยังไม่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ชัดเจนเพื่อรองรับคุณประโยชน์ที่โฆษณาไว้ตลาดธุรกิจการดูแลสุภาพกายใจเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี (Well-Being/ Wellness) เริ่มตั้งแต่ปี 1948 ที่ WHO ประกาศว่า การมีสุขภาพดีนั้นไม่ใช่แค่การไม่ป่วย แต่หมายถึงการมีสภาวะทางกายภาพ จิตใจ และสังคมที่ดีด้วย ซึ่งนิยามนี้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นตั้งแต่ยุค 1980 เป็นช่วงที่ธุรกิจสปาฟิตเนส และผู้เชี่ยวชาญเรื่องการดูแลตัวเองเริ่มบูม สินค้าอย่าง ชา เทียนหอม สินค้าที่ใช้แช่น้ำ สปา เป็นที่ต้องการมากขึ้นเพราะเป็นของที่สร้างความรู้สึกผ่อนคลายในบ้านได้ในราคาถูก
พอมาถึงยุค 2000 คนให้ความสำคัญกับการลดความเครียดมากขึ้นไม่ใช่แค่เฉพาะในบ้าน แต่ในที่ทำงานด้วย ผู้บริโภครุ่นใหม่เปิดใจที่จะพูดถึงปัญหาทางจิตใจมากขึ้น ซึ่งทำให้ผู้ผลิตและบริษัทเห็นความต้องการตรงนี้ และพัฒนาสินค้ามาตอบโจทย์ ตลาดก็โตขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงช่วงนี้ที่เกิดโควิดระบาด การเยียวยาจิตใจก็เป็นเรื่องสำคัญและมีความต้องการไม่แพ้เทคโนโลยีเลยทีเดียว
– 3M ติดตามเรื่องนี้ตลอดและพบว่าคนอเมริกันมีภาวะความเครียดเพิ่มสูงขึ้นมาก มีการออกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลติดตามพฤติกรรมตัวเองอย่างสมุดจดบันทึก ที่มาพร้อมกับ Post-It ที่ช่วยให้ผู้ใช้ปรับปรุงพฤติกรรมตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น
– Pepsi พบว่า 2 ใน 3 ของคนอเมริกันอ้างว่าความเครียดเป็นผลให้นอนหลับยาก เมื่อปี 2020 จึงออกเครื่องดื่ม Driftwell สำหรับดื่มก่อนนอน โดยมีกลิ่นแบล็คเบอร์รี่และลาเวนเดอร์ ผสมแร่ธาตุอย่าง แมกนีเซียม และ แอล-ธีอะนีน ซึ่งเคลมว่าช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายก่อนนอน ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
– แบรนด์ Smartwater ของ Coca-Cola ออกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ Smartwater+ จับตลาดน้ำดื่มพรีเมี่ยมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจาก โสม ชาเขียว และอื่นๆ เพื่อจุดประสงค์ช่วยเสริมภาวะจิตใจ อารมณ์ให้ดีขึ้น เช่น ช่วยให้ผ่อนคลาย สดชื่น
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมจำพวก Self-Care Routine At Home กิจกรรมหรือกิจวัตรประจำวันง่ายๆ ที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ และลดความเครียด เช่น การดื่มชา การปลูกต้นไม้ในบ้าน เติบโตขึ้นมากในช่วงโควิดระบาดนี้
พฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นชัดเจนมาก ยิ่งในไทยเราจะเห็นเลยว่าคนหันกลับมาทำอาหารมากขึ้น ปลูกต้นไม้ ชงกาแฟ กิจกรรมเหล่านี้เกิดมากขึ้นไม่แพ้ไปกว่าการช้อปปิ้งหรือสั่งอาหารออนไลน์ เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้จิตใจผ่อนคลายในช่วงนี้ เกมธุรกิจ E-Commerce อาจจะเป็นเกมของตลาดขายของออนไลน์เจ้าใหญ่ และบริษัทขนส่ง แต่ถ้ากลับมามองถึงกิจกรรมจำพวก Self-Care Routine At Home มีอะไรเป็นองค์ประกอบอยู่ในนั้นได้บ้าง? เราทำอะไรเพื่อดูแลจิตใจตัวเอง? มันอาจเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่สร้างโอกาสทางธุรกิจให้เราเกาะเทรนด์ใหญ่นี้ไปด้วยก็ได้ เราจะเห็นว่าคนเริ่มสนใจสิ่งที่เป็นผลผลิตต้นทางจากชุมชน สินค้าที่คงความไม่ปรุงแต่งและความเป็นธรรมชาติไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากความต้องการลึกๆ ที่กำลังตามหาสิ่งที่สร้างสุนทรียะและสร้างสุขภาวะทางจิตใจในวันที่ออกไปเที่ยวและสัมผัสธรรมชาติไม่ได้ การดึงประสบการณ์ใกล้เคียงธรรมชาติมาไว้ใกล้ตัวที่สุดอาจเป็นทางออกของธุรกิจขนาดเล็กก็ได้
--
🔥 ไม่พลาดทุกไอเดีย Subscribe Free ที่ https://www.thebusinessbite.cloud/
💬 หรือแอดเฟรนไลน์เพื่อติดตามไอเดียใหม่ๆ ที่ https://lin.ee/EOlvdbH
❤️ NO SPAM
โฆษณา