Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Play Now Thailand
•
ติดตาม
11 ก.ค. 2021 เวลา 14:08 • กีฬา
#ยูโรรำลึก
โดย มิสมาต้า
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1980 รอบสุดท้าย
อิตาลีเจ้าภาพจบทัวร์นาเมนต์ในฐานะเจ้าภาพด้วยการชนะ 1 เสมอ2 ในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะไปดวลจุดโทษแพ้เชโกสโลวาเกียในเกมชิงอันดับสาม
พวกเขายิงได้ 2 ประตูตลอดทัวร์นาเมนต์นั้น อันเป็นผลพวงมาจากการขาดแคลน เปาโล รอสซี ดาวยิงชั้นยอดที่ถูกแบนเนื่องจากนำตัวเข้าไปพัวพันกับการล้มบอล และล็อคผลการแข่งขัน อันเป็นคดีที่ลือลั่นไปทั้งวงการฟุตบอลทั่วโลก
โดยคดีที่มีชื่อว่า "โตโตเนโร" เป็นมรสุมลูกแรกของวงการลูกหนังเลี่ยน ก่อนจะมาเกิดขึ้นอีกครั้งในศตวรรษที่ 21 จนทีมอย่างยูเวนตุสถูกปรับให้ตกชั้นไปเลย
การขาดรอสซีที่กำลังเข้าฟอร์มจึงมีผลต่ออิตาลีในการทำประตู แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีดีพอที่จะดับซ่าส์ขุนพลสิงโตคำราม ที่เพิ่งจะกลับมาเล่นในเวทีระดับโลกอีกครั้งในรอบ 10 ปี
เพราะหลังจากแพ้ทีมชาติเยอรมันตะวันตก 2-3 ในฟุตบอลโลก ปี 1970 ที่เม็กซิโก เซอร์ อัลฟ์ แรมซีย์ ลาทีมไป อังกฤษล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเพียงแค่รอบคัดเลือกของ 4 รายการเมเจอร์
รอน กรีนวูด มั่นใจในลูกทีมของเขาที่ผ่านรอบคัดเลือกมาได้ง่ายๆ และ ลงเตะอุ่นเครื่องด้วยฟอร์มการเล่นอันหรูหรา นายกฯ มากาเร็ต แธตเชอร์ ลงทุนถ่ายรูปหมู่กับนักเตะอย่างเป็นกันเองเพื่อสร้างขวัญ และกำลังใจให้ขุนพลที่กำลังจะทำหน้าที่เพื่อชาติ
ยุคนั้นทั้งคู่โด่งดังพอกันในเรื่องของฮูลิแกน แฟนบอลอังกฤษตีกันยับกับแฟนบอลเบลเยียมในเกมแรกที่เสมอกันไป 1-1
สังเวียนเหย้าของโตริโนจึงเต็มไปด้วยกำลังทหารที่พร้อมหวดกระบองใส่แฟนบอลเกเรทุกคน โดยเฉพาะฮูลิแกนอังกฤษ
มาร์โก ทาร์เดลลี ยิงประตูเดียวของเกมช่วยให้อิตาลีเก็บคะแนนสำคัญจนส่งให้ทีมรอดพ้นจากการร่วงเพียงแค่รอบนี้ ปล่อยให้อังกฤษเก็บเอาความล้มเหลวกลับบ้านไป
::
ฟุตบอลโลก 1990 รอบสุดท้าย
อิตาลีเป็นชาติเจ้าภาพ และ มีความหวังมากกว่าครั้งเป็นเจ้าบ้านยูโรเมื่อ 10 ปีที่แล้ว นักเตะตัวจริงของ อเซกลิโอ วิชินี แกร่งทั่วแผ่นมาตั้งแต่ วอลเตอร์ เซงกา , ฟรังโก บาเรซี , จุยเซปเป แบร์โกมี , เปาโล มัลดินี สมัยยังหนุ่ม , คาร์โล อันเชลอตติ , จิอันนินี , โรแบร์โต โดนาโดนี , นิโคลา แบร์ตี , เฟอร์นันโด เด นาโปลี , จิอันลูกา วิอัลลีื และ โค้ชอัซซูรี่คนปัจจุบัน
พวกเขามีเส้นทางที่สวยงามมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ที่แม้จะประสบปัญหาการทำประตูในสองเกมแรก จนท่านขรัววิชินีตัดสินใจโละสองกองหน้าคู่เดิมออกไป แล้วใข้งานสองดาวรุ่งคนดังที่ชื่อ ซัลวาตอเร สคิสลาชี กับ โรแบร์โต บาจโจ ที่ลงมายิงคนละหนึ่งลูกในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม
หลังจากนั้นสองคู่หูที่ลุกจากม้านั่งสำรองก็ได้ช่วยพาอิตาลีผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะพ่ายแพ้ฤทธิ์ของ ดีเอโก มาราโดนา ที่สร้างเกมจนสามารถยันเสมออิตาลีได้ พร้อมกับความเหนียวหนึบของ เซร์คิโอ กอยโคเชีย ช่วยเซฟทั้งในเกม และการดวลจุดโทษ
พรสวรรค์วัยหนุ่มของบาจโจยังเทียบชั้นกับมาราโดนาไม่ได้ ขุนพลฟ้าขาวจอดอิตาลีเอาไว้แค่รอบนี้ อาร์เจนตินาเข้าชิงอย่างเซอร์ไพร์ส ปล่อยให้เจ้าภาพไปเปิดศึกนัดชิงอันดับสามกับสิงโตคำรามแทน
อังกฤษของ บ๊อบบี ร็อบสัน ปรับแผนการเล่นมาใช้หลังสามคนอย่างกระทันหัน จนผ่านเกมยากๆ ในรอบแบ่งกลุ่มมาได้ จากนั้นเบลเยียม กับ แคเมอรูน ก็หยุดสิงโตคึกตัวนี้ไม่อยู่
จนอังกฤษมาแพ้จุดโทษให้ขาประจำอย่างเยอรมันตะวันตกในรอบรองชนะเลิศ เส้นทางกลับบัลลังก์ของพวกเขาสลายลงไปด้วยฝีเท้าของศัตรูเบอร์หนึ่ง
ส่งให้ทีมชาติชุดที่ดีที่สุดอีกชุดหนึ่งของพวกเขาไปไม่ถึงฝั่งฝันอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่เวลาปกติพวกเขาสู่เยอรมันได้ดีเลย นักเตะอย่าง มาร์ค ไรท์ , เทอร์รี่ บุชเชอร์ , เดวิด แพลท , พอล แกสคอยน์ , คริส วอดเดิล และ แกรี ลินิเกอร์ จึงเหลือเพียงแค่การชิงอันดับที่สามเป็นการปลอบใจ
เกมวันนั้นเป็นการชิงอันดับสามที่สนุกสนานไม่แพ้นัดชิง เจ้าภาพที่ต้องการอันดับสามปลอบใจแฟนบอล กับ อังกฤษที่ต้องการผลงานที่ดีที่สุดเพื่อศักดิ์ศรี
โรแบร์โต บาจโจ เป็นของแสลงต่อแผงหลังอังกฤษ โดยเฉพาะการฉกบอลสั่งลา ปีเตอร์ ชิลตัน ให้ได้อายในลูก 1-0 ก่อนที่จะโซโล่เดี่ยวจนช่วยให้ทีมได้จุดโทษ
อังกฤษที่เมื่อขาด พอล แกสคอยน์ เกมกลางสนามจึงเล่นแบบค่อนข้างไร้จินตนาการจนพ่ายแพ้ไป 1-2
บาจโจยิงประตูที่สองของตัวเอง และ โตโต้กดลูกที่หกจากจุดโทษจนได้รางวัลรองเท้าทองคำ ส่วน เดวิด แพลท ยิงประตูที่สนามแห่งนี้ได้ จนถูกซื้อตัวมาเล่นให้บารี่เจ้าของสนามในฤดูกาลถัดไป
::
ในยูโร 2012
อิตาลีดีเกินกว่าที่อังกฤษที่ยังหาจุดเปลี่ยนหลังหมดยุค Golden generation ไม่ได้
พวกเขาขาดนักเตะที่มีคุณภาพในหลายตำแหน่ง และ มีผู้จัดการทีมที่กลายเป็นความผิดพลาดของสมาคมจนเกิดการปฏิวัติเป็นการภายใน ช่องว่างที่ รอย ฮอดจ์สัน สร้างเอาไว้จึงทำให้พวกเขาเริ่มถูกทีมชั้นนำทิ้งห่างตั้งแต่ครั้งนี้
เกมเสมอ 0-0 ที่อังกฤษเล่นได้น่าเบื่อยิ่งกว่าคาเตนัคโชของอิตาลี แต่พวกเขายังอุตส่าห์ลากยาวไปจนถึงการดวลจุดโทษได้
แทบไม่มีใครจำว่า แอชลีย์ ยัง กับ แอชลีย์ โคล ยิงพลาด แต่ โจ ฮาร์ท กับผู้ชมทั้งโลกจำท่ายิงปาเนนกาของ อันเดรีย ปิร์โล ได้ติดตาไปจนวันตาย
อังกฤษกลับบ้านเก่า อิตาลีไปไกลจนถึงนัดชิงก่อนจะถูกสเปนสอนบอล
::
ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล
ทั้งสองทีมมาในสภาพที่ย่ำแย่พอกัน แต่อย่างน้อยอิตาลีก็ยังสะกดคำว่าชนะเป็นในเกมที่ชนะอังกฤษ 2-1
แต่สุดท้ายทั้งคู่กอดคอกันตกรอบแค่รอบแบ่งกลุ่ม แล้วปล่อยให้ทีมอย่างคอสตาริกาเป็นแชมป์กลุ่ม และ อุรุกวัยเป็นรองแชมป์
มีเพียง แคเมอรูน ออสเตรเลีย และ ฮอนดูรัส ที่ผลงานแย่กว่าพวกเขา สมาคมตัดสินใจปลด รอย ฮอดจ์สัน ที่อาการหนักยิ่งกว่าสมัยกุนซือหัวผักกาดในช่วงปี 1991-1994
::
ในทางตัวเลข และ สถิติ อังกฤษย่อมสู้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง พวกเขาแพ้ในรายการเมเจอร์ทั้งบนแผ่นดินรองเท้าบูท และ ชาติเป็นกลาง แต่อย่างน้อยพวกเขาไม่เคยแพ้อิตาลีในรายการเมเจอร์ที่พวกเขาเป็นเจ้าบ้าน
สถิติไม่เคยแพ้อิตาลี ไม่เคยเสมออิตาลี และไม่เคยถูกอิตาลียิง ย่อมสร้างความอุ่นใจให้พวกเขาได้ในคืนวันนี้แน่นอน
#PlayNowThailand #khelnow #football #Euro2020
บันทึก
8
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย