13 ก.ค. 2021 เวลา 03:00 • ความคิดเห็น
“พูดระดับโลก คุณเองก็ทำได้” เคล็ดลับการพูดอย่าง TED จากหนังสือ TED talks (part 1/2)
cr. https://commons.wikimedia.org/
💡 หลายคนคิดว่าคนที่ได้รับเชิญมาพูดบนเวที TED คือคนที่พูดเก่งมาก่อน..
แต่นั่นไม่จริงเลยครับ
Richard Turere เด็กชายอายุ 12 ขวบชาว Kenya เป็นตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้
Richard ขึ้นเวที TED ในปี 2013 เพื่อพูดเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์สุดสร้างสรรค์ที่เขาสร้างขึ้นเองเพื่อไล่สิงโตให้ออกห่างจากฝูงปศุสัตว์ของเขา คลิปวีดิโอการพูดของเขามีคนกดเข้าไปดูมากกว่า 2 ล้านครั้ง และทุกคนยืนปรบมือให้เขาหลังฟังจบ
แต่ใครจะรู้ล่ะครับว่าในวันแรกที่ทีมงาน TED เจอเขา เขายังพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ และไม่ค่อยกล้าพูดกับคนแปลกหน้าด้วยซ้ำ
💡 หนังสือ TED talks by Chris Anderson เล่าถึงสิ่งที่ทำให้ Richard และนักพูดบนเวที TED อีกหลายคนสามารถสร้างการพูดระดับปรากฏการณ์จนผู้คนลุกขึ้นยืนปรบมือได้
เทคนิคลับเฉพาะของ TED ที่ทำให้การเล่าเรื่องซับซ้อน ดูง่ายและจับใจคนฟังจะไม่ลับอีกต่อไป!
cr. amazon.com
เนื้อหาและประเด็นสำคัญในหนังสือเล่มนี้ถูกนำมาบรรจงคั้นจนสะเด็ดน้ำ แล้วเสิร์ฟมาในรูปแบบ post ที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้ ถ้าท่านพร้อมแล้ว เลื่อนลงไปอ่านต่อได้เลยครับ
💡 ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่า คนส่วนใหญ่นั้นจะมีกำแพงที่ปิดกั้นความเชื่อ สิ่งแปลกใหม่ หรือความคิดต่างๆที่ท้าทายความเชื่อของพวกเขาเอง ด้วยเหตุผลนี้ทำให้มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีตรรกะ ไม่หลงเชื่อข่าวลวงและเรื่องไร้สาระแต่นั่นก็เป็นกำแพงในการรับรู้อะไรใหม่ๆด้วยเช่นกัน
หน้าที่ของคุณในฐานะผู้พูดคือ คุณต้องทำลายกำแพงนี้ลงให้ได้ โดยอาจเริ่มจากการมี Eye contact กับผู้ฟังและแสดงส่วนที่เปราะบางหรือช่องโหว่ของเราให้ผู้ฟังเห็นบ้างเพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกสบายใจ เช่น การปลดปล่อยความเขิน อาย เล็กน้อยตอนพูดหรือการยอมรับไปตรงๆว่าตื่นเต้น สิ่งนี้เหมือนเป็นการแบไต๋ว่าเราเองก็เป็นคนธรรมดานะ ไม่ได้มีอาวุธอะไรมาทำร้ายผู้ฟัง
cr. wegointer.com
💡 ขั้นต่อมาคือ 5 steps เปิดใจคน
1. เริ่มจากการพูดจากเรื่องที่เป็นจุดร่วมระหว่างเรื่องที่จะเล่ากับเรื่องที่ผู้ฟังรู้อยู่แล้ว ง่ายที่สุดคือการพูดเกี่ยวกับการบรรยายบนเวทีของคุณนั่นแหละ ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณเป็นนักจิตวิทยาที่มาพูดเรื่องพัฒนาการสมองของมนุษย์ คุณอาจเริ่มต้นการพูดด้วยประโยคเช่น “วันนี้ผมมีเวลาพูด 20 นาทีแต่นั่นเทียบไม่ได้เลยกับสมองมนุษย์ที่พัฒนามาเป็นเวลากว่า 2 ล้านปีแล้ว”
เชื่อมสิ่งที่ทุกคนรู้ (คุณมีเวลาพูด 20 นาที) กับเรื่องที่คุณจะนำเสนอ (พัฒนาการของสมองมากกว่า 2 ล้านปี) อย่างนี้เป็นต้น
2. ทำให้คนฟังตั้งคำถามว่า ทำไม? หรือ เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร? เช่น จากประโยคแรกใน step ที่แล้วคุณอาจพูดต่อว่า “ในช่วงเวลานี้สมองของมนุษย์มีขนาดใหญ่ขึ้น 3 เท่า” เพื่อกระตุ้นความสงสัยของผู้ฟัง
3. ให้ข้อมูล (concepts) ที่เราจะนำเสนอไปทีละประเด็น เช่น “ที่สมองใหญ่ขึ้นมากขนาดนั้นเป็นเพราะมี Prefrontal cortex ซึ่งเป็นส่วนของสมอง เกิดขึ้นมาใหม่”
4. ใช้การเปรียบเทียบกับสิ่งที่เห็นภาพ เช่น “สมองส่วน prefrontal cortex นี้มีหน้าที่ในการจำลองเหตุการณ์ หรือ ประสบการณ์ในหัวเพื่อช่วยในการตัดสินใจเมื่อเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น คล้ายกับเครื่องจำลองการบินที่นักบินต้องใช้ในการฝึกบินก่อนทดสอบการบินจริงๆ”
5. ยกตัวอย่างประกอบเรื่องเล่า เช่น “การใช้สมองส่วนนี้มีความสำคัญมาก ที่ร้านไอศกรีม Ben & Jerry’s ไม่ออกไอศกรีมรสหัวหอม ก็เพราะผู้บริหารได้ใช้สมองส่วน prefrontal cortex ในการทำการทดลองการขายไอศกรีมชนิดนี้ในหัวอย่างรวดเร็วแล้วได้ข้อสรุปว่าผลมันคงไม่เวิร์ค เลยไม่ขายดีกว่า”
เมื่อลองนำข้อความที่ได้จากทั้ง 5 ขั้นตอนมาเรียงร้อยกันและขัดเกลานิดหน่อยก็พบว่าการคิดบทพูดเปิดตัวนั้นไม่ยากอย่างที่คิด
"วันนี้ผมมีเวลาพูด 20 นาทีแต่นั่นเทียบไม่ได้เลยกับสมองมนุษย์ที่พัฒนามาเป็นเวลากว่า 2 ล้านปีแล้ว ในช่วงเวลานี้สมองของมนุษย์มีขนาดใหญ่ขึ้น 3 เท่า ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ามีส่วนของสมองเกิดขึ้นมาใหม่ และสมองเกิดใหม่นี้มีชื่อว่า Prefrontal cortex โดยสมองส่วนนี้มีหน้าที่ในการจำลองเหตุการณ์ หรือ ประสบการณ์ในหัวเพื่อช่วยในการตัดสินใจเมื่อเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น คล้ายกับเครื่องจำลองการบินที่นักบินต้องใช้ในการฝึกบินก่อนทดสอบการบินจริงๆ
การใช้สมองส่วนนี้มีความสำคัญมาก และบางครั้งเราก็ใช้มันโดยไม่รู้ตัว เช่น ที่ร้านไอศกรีม Ben & Jerry’s ไม่ออกไอศกรีมรสหัวหอม ก็เพราะผู้บริหารได้ใช้สมองส่วน prefrontal cortex ในการทำการทดลองการขายไอศกรีมชนิดนี้ในหัวอย่างรวดเร็วแล้วได้ข้อสรุปว่าผลมันคงไม่เวิร์ค เลยไม่ขายดีกว่า"
และนี่คือ 5 steps เบื้องต้นง่ายๆ ที่จะทำให้การพูดของคุณเป็นมิตรกับผู้ฟัง และทำให้คนอยากฟังในสิ่งที่คุณจะพูดต่อไปมากขึ้น
เป็นอย่างไรบ้างครับ นี่แค่เบื้องต้นเท่านั้น ยังมีเทคนิคอีกมากมายในหนังสือเล่มนี้ที่ผมอยากจะนำมาแบ่งปัน
ในตอนหน้าผมจะเล่าถึงประเด็นอื่นๆที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับการพูดเช่น ควรใช้สไลด์ประกอบการพูดหรือไม่? พูดแบบมีสคริปต์หรือไม่มีสคริปต์ดี? เพื่อทุกท่านจะได้นำไปพัฒนาการพูดของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นครับ
つづく
ถ้าไม่อยากพลาดการติดตามเนื้อหาสาระดี ๆ และเรียนรู้สิ่งใหม่ไปด้วยกัน
ฝากกด Like และกดติดตามเพจ 10 AM story ด้วยนะครับ
แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้10 โมงครับ
โฆษณา