12 ก.ค. 2021 เวลา 08:32 • หุ้น & เศรษฐกิจ
รู้จัก หุ้น "KISS" เจ้าของผลิตภัณฑ์กลุ่มบิวตี้
2
KISS หรือชื่อเต็มๆคือ บริษัทฯ โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด (มหาชน)
ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนา รับจ้างผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ได้แก่ Rojukiss, Phderma, Wonder Herb, Best Korea และ Sis2Sis ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ(โดยจะเป็นตลาดใน ASEAN เป็นหลัก ได้แก่ ลาว, กัมพูชา, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น)
ปัจจุบันมี AURORA ASIA HOLDINGS PTE., LTD. เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวน 173,891,598 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 28.98% รองลงมา น.ส. ปิยวดี สอนสิงห์ ถือหุ้นอยู่ 127,699,960 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 21.28% (อ้างอิง ข้อมูล ณ วันที่ 11/07/64)
1
บริษัทฯแบ่งลักษณะการประกอบธุรกิจออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1.ธุรกิจพัฒนา จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ได้แก่
1.1 ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (แบรนด์ Rojukiss, PhDerma และ Best Korea)
1.2 ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (แบรนด์ Sis2Sis)
1.3 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (แบรนด์ Rojukiss 3X Supplement)
3
2.ธุรกิจให้บริการคำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์บริษัทฯ
จากรายงานประจำปี 2563 บริษัทฯมีรายได้รวมในประเทศไทยมาจาก ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเป็นหลัก คิดเป็น 83% ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 13% และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อีก 4% ตามลำดับ
1
แต่ที่น่าสนใจคือ รายได้หลักจากต่างประเทศที่มาจากการให้บริการ ที่คิดเป็นสัดส่วนกว่า 61% ของรายได้รวม โดยบริษัทฯใช้กลยุทธ์ แบบ “Asset Light” ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีต่อการรักษาสภาพคล่องทางการเงินของตัวบริษัทฯเอง ในกรณีไปลงทุนในต่างประเทศอีกด้วย
1
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ คือ บริษัทฯเน้นหาพันธมิตรหรือผู้จัดจำหน่ายในประเทศนั้นๆ แทนที่จะไปรับความเสี่ยงในการสร้างโรงงานหรือลงทุนธุรกิจทั้งหมดเอง โดยจะเป็นในรูปแบบการให้คำปรึกษา ร่วมกันพัฒนาและปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้กับบริษัทฯคู่ค้า เพื่อให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศนั้นๆนั้นเอง
2
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี เป็นอย่างไรบ้าง ?
 
ปี 61 มีรายได้รวม 863 ล้านบาท กำไรสุทธิ 106 ล้านบาท
ปี 62 รายได้รวม 1,141 ล้านบาท กำไรสุทธิ 190 ล้านบาท
ปี 63 รายได้รวม 966 ล้านบาท กำไรสุทธิ 167 ล้านบาท
ในส่วนของ ปี 2563 นั้น ที่ทั่วโลกต้องเจอกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 นั้น ก็มีส่วนทำให้รายได้ของ KISS ลดลงด้วยเช่นกัน แต่ทางบริษัทฯเองก็มีการปรับตัวในเรื่องการบริหารจัดการให้เหมาะสมกับเหตุการณ์เช่นกัน โดยสามารถทำอัตรากำไรสุทธิได้สูงขึ้น ราว 2% เมื่อเทียบจากปี 62
1
แล้วการแข่งขันในตลาดตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
ในปัจจุบัน KISS มีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าของผู้หญิงอยู่ที่ 5% เปรียบเทียบจากที่ในปี 2560 ที่มีอยู่เพียง 1.7 % ซึ่งก็ถือได้ว่าบริษัทฯได้มีการครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง
1
โดยติดเป็น Top 5 ของประเทศไทยในตอนนี้ และ KISS เองได้มีการประเมินกันเอาไว้ว่าในอีก 4-5 ปีข้างหน้า ตลาดสุขภาพและความสวยความงามนั้นก็ยังจะสามารถเติบโตต่อไปได้อีกอย่างแน่นอน
2
แต่ก็คงปฎิเสธไม่ได้เลยว่า การแข่งกันในตลาดอุตสาหกรรมนี้ค่อนข้างจะสูงมากและมีแนวโน้มจะสูงขึ้นไปอีก ซึ่งก็อาจจะทำให้มีความเสี่ยงต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคตก็เป็นได้
1
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯก็ได้ตั้งเป้าในการขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ที่คาดว่าจะเตรียมการสำเร็จ ภายในปี 2567 รวมไปถึงการวางเป้าหมายในการเป็นผู้นำตลาดของประเทศไทยและทำรายได้ทะลุ 3,000 ล้านบาทอีกด้วย
2
อีกทั้งในช่วงไตรมาส 1/64 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้จับมือกับทาง DOD และ GMM O Shopping ในการลุยตลาดกัญชง โดยคาดว่าจะสามารถออกกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและอาหารเสริมมาให้แก่ผู้บริโภคอย่างเรา ได้เห็นกันภายในปีนี้อีกด้วย
2
โดยสรุปแล้ว เรียกได้ว่า KISS เป็นอีกหนึ่งบริษัทฯที่สามารถบริหารจัดการตัวธุรกิจได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงความสามารถในการแข่งขันและครองส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นในทุกๆปี
อีกทั้งแนวโน้มของบริษัทฯในอนาคตนั้น ก็น่าจะยังคงสามารถเติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อมโยงกับการที่คนรุ่นใหม่หันมาสนใจในเรื่องสุขภาพ ความสวยความงามกันมากขึ้นนั้นเอง
ซึ่งเราก็คงต้องจับตาดูกันต่อไป ว่าปลายทางการดำเนินธุรกิจของ KISS นั้นจะเป็นได้อย่างที่หวังไว้หรือไม่
**หมายเหตุ** ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง อย่าลืมศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจ ก่อนลุงทุนทุกครั้งเสมอ
ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก rojukissinternational.com/th, set.or.th
-กดติดตาม รู้ก่อนลงทุน-
อัพเดทบทความน่ารู้เกี่ยวกับการลงทุนในทุกวัน
โฆษณา