13 ก.ค. 2021 เวลา 09:02 • ประวัติศาสตร์
เผย 5 ของแปลกสุดพิศวงที่นักสำรวจไปพบเจอในถ้ำลึก
1. Mountain Owen Claw
ในปี ค.ศ.1987 คณะสำรวจได้ค้นพบเครือข่ายถ้ำใต้ดินแห่งใหม่ที่อยู่ลึกลงใต้ยอดเขาโอเว่นในประเทศนิวซีแลนด์ โดยคณะสำรวจได้ค้นพบกับซากนกโมอาขนาดยักษ์ (Moa) ความสูงราว 1.3 เมตร
1
เจ้านกโมอานี้กล่าวกันว่ามันได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี ค.ศ.1500 แต่จากการค้นพบของนักสำรวจ พบว่า โครงกระดูกของนกโมอาที่พบยังมีผิวหนังและกรงเล็บที่ยังดูสดใหม่ติดอยู่ จากการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการและค้นหาอายุจากคาร์บอน พบว่าตัวอย่างโครงกระดูกนกโมอานั้นมีอายุเกือบ 3,000 ปี ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดเกี่ยวกับการค้นพบซากนกโมอาในครั้งนี้ รวมไปถึงยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมถึงการค้นพบเจ้านกโมอาในระแวกนั้นอีกด้วย
ไกลออกไปทางใต้ของเทือกเขาโอเวน ในปี ค.ศ.1993 แพดดี้ ฟรีนีย์ นักปีนเขาท้องถิ่น ได้มีการบันทึกภาพสิ่งมีชีวิตลึกลับความสูงเกือบ 2 เมตร ซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าสิ่งมีชีวิตดังกล่าวคือนกโมอาหรือตัวอะไรกันแน่
1
2. Royston Cave
ในปี ค.ศ.1742 คนงานในเมืองรอยสตัน ประเทศอังกฤษ ได้ค้นพบกับถ้ำขนาดใหญ่ใต้ผื้นผิวเมือง โดยภายในถ้ำแห่งนี้มีขนาดเป็นทรงกลมที่มีความกว้าง 8 เมตร และสูง 5 เมตร มีอายุราว 800 ปี
โดยภายในถ้ำเต็มไปด้วยงานแกะสลักที่เกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่เล่าเรื่องเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ เช่น การตรึงไม้กางเขนของพระเยซู นักประวัติศาสตร์ตั้งทฤษฎีว่าถ้ำแห่งนี้อาจเคยถูกใช้เป็นที่ทำการของเหล่าอัศวินเทมพลาร์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 13 เพื่อใช้เป็นสถานที่วางแผนในการทำสงครามครูเสดรวมไปถึงการค้นหาความลับของ ‘จอกศักดิ์สิทธิ์’ ในตำนาน
ภายในถ้ำบางส่วนยังแสดงให้เห็นถึงภาพการแกะสลักที่เสียหายบางส่วน ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่ามันอาจเป็นรหัสลับของพวกอัศวินเทมพลาร์ก็เป็นไปได้
3. Crone of the Catskills
ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม ค.ศ.2016 มีผู้ใช้ Reddit นามว่า ‘wiggedhikerthrway’ ได้โพสต์ภาพรูปปั้นปริศนาและกล่าวว่าเขาได้ค้นพบมันในเทือกเขาแคทสกิล โดยหลังจากที่เขาและเพื่อนนำมันติดตัวกลับมา ก็ได้ค้นพบกับเหตุการณ์ประหลาดที่ชวนขนลุกขนพอง
1
ไม่ว่าจะเป็นวัตถุเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้เอง เสียงเคาะแปลก ๆ กลางดึก และรอยเท้าเปื้อนโคลนรอบบ้าน จนมีผู้แสดงความเห็นภายในเว็บไซต์ที่ระบุว่า ‘พื้นที่บริเวณที่ค้นพบกับรูปปั้นปริศนาเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับพวกนับถือซาตานและพวกนักไสยศาสตร์มือสมัครเล่น’
สำหรับรูปปั้นแกะสลักที่ภายหลังถูกเรียกว่า ‘Crone of the Catskills’ ไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ แต่ก็ยังมีผู้แสดงความเห็นว่า เจ้ารูปปั้นแกะสลักที่พบนี่มีลักษณ์นะเหมือนกับประติมากรรมของพวกชนเผ่าโวดุนในแอฟริกาตะวันตกเพื่อใช้ติดต่อกับวิณญาณ บ้างก็ว่ามันอาจเป็นของวิเศษที่เจ้าของสามารถใช้เพื่อควบคุบจิตวิญญาณและความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นก็เป็นได้
4. Crystal Maiden
ในป่าอันห่างไกลของเขตอนุรักษ์ธรรมชาติของหุบเขาทาเปีย ประเทศเบลีซ (ประเทศเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในอเมริกากลาง) ได้มีการค้นพบครั้งสำคัญภายในถ้ำ อัคตุม ตูนิชิล มุคนัล ในปี ค.ศ.1989 โดยภายในถ้ำมีเครือข่ายเส้นทางที่สลับซับซ้อนความยาวถึง 4.8 กม. โดยห้องชั้นในสุดมีโครงกระดูกของชาวมายาหลายสิบโครง ที่มีทั้งโครงกระดูกของเด็กทารกและผู้ใหญ่ ที่เคยมีชีวิตอยู่ระหว่างปี ค.ศ.700 – 900
1
จากการสำรวจ พบว่าบริเวณหัวกะโหลกมีร่องรอยของการถูกกระแทก และหัวกระโหลกของเด็กก็มีลักษณะผิดปกติเหมือนมนุษย์ต่างดาว โดยเฉพาะโครงกระดูกของผู้หญิงวัย 18 ปี ภายในถ้ำชั้นในสุด โดยขาของเธอมีรูปร่างที่บิดเบี้ยวและกระดูกสันหลังหัก
จากการค้นพบครั้งนี้ ทำให้นักสำรวจตั้งชื่อโครงกระดูกนี้ว่า ‘The Crystal Maiden’ อ้างอิงตามความเชื่อของชาวมายา ถ้ำแห่งนี้เป็นทางเข้าสู่นรกเป็นที่อยู่ของปีศาจแห่งความเจ็บป่วย ความเจ็บปวด และโศกนาฏกรรม
คนในท้องถิ่นเชื่อกันว่าถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำต้องคำสาปและมีผีสิง จนทำให้มีทีมล่าท้าผีเข้ามาพิสูจน์ความเฮี้ยนกันมาแล้ว
5. Animal Hybrid
ในปี ค.ศ.2016 ทีมนักโบราณคดี นักบรรพชีวินวิทยา และนักพันธุศาสตร์ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาใน Nature Communications โดยอ้างว่าพวกเขาได้ค้นพบกับ ‘สัตว์ลูกผสมที่ไม่สามารถระบุเผ่าพันธุ์ได้’ ซึ่งแสดงให้เห็นภายในงานศิลปะของถ้ำเก่าแก่อายุนับพันปี
โดยการค้นพบครั้งนี้ช่วยไขความลับของต้นกำเนิดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบนบกที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปอย่าง วัวกระทิงยุโรป ที่ได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลันจากการค้นพบซากฟอสซิลที่มีอายุกว่า 11,700 ปี ก่อน ในช่วงปลายยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย
ภายหลังนักวิจัยได้ทำการวิเคราะห์จีโนมของวัวกระทิงทั้งหมด 64 ตัว โดยเชื่อมโยงไปถึงภาพวาดยุคโบราณที่ได้ค้นพบก่อนหน้า พร้อมกับใช้กระบวนการ Radiocarbon dating เพื่อค้นหาความเกี่ยวข้องกับภาพสัตว์ลูกผสมโบราณบนถ้ำ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ไม่ปรากฏว่ามีสิ่งมีชีวิตใดในยุคปัจจุบันที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาพสัตว์ลูกผสมในถ้ำเลยแต่อย่างใด
เป็นไปได้หรือไม่ว่ามนุษย์ยุคโบราณ อาจเคยใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์ที่มนุษย์ในปัจจุบันไม่เคยรู้จักหรืออาจไม่ถูกค้นพบมาก่อน
ข้อมูลจาก : YOUTUBE/DARK5
โฆษณา