Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Wealthy Thai
•
ติดตาม
14 ก.ค. 2021 เวลา 03:19 • หุ้น & เศรษฐกิจ
GPSC ทุ่มเงิน 1.4 หมื่นล้าน ซื้อโรงไฟฟ้าใหญ่ในอินเดีย
GPSC ประกาศการลงทุน ด้วยการใช้เงิน 14,825 ล้านบาท เข้าลงทุนถือหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในอินเดียขนาดกำลังการผลิต 3,744 MW ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ และในอนาคตมีแผนจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศอินเดีย
นาย วรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโกลบอลเพาเวอร์ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า บริษัทโกลบอล รีนิวเอเบิล ซินเนอร์ยี่ จำกัด (“GRSC”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ GPSC ถือหุ้นทั้งหมด 100% ได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าลงทุนในบริษัท Avaada Energy Private Limited (“Avaada”) สาธารณรัฐอินเดีย (“อินเดีย”)
โดยการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนในสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 41.6% ของทุนทั้งหมดของ Avaada คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 14,825 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ คร้ังที่6/2564 เมื่อวันที่21 พฤษภาคม 2564 ทั้งนี้บริษัท Avaada Energy Private Limited ประกอบธุรกิจพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ในอินเดีย
โดยมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับ Central and State Government และ ลูกค้าเอกชน(Commercial & Industrial) รวมกำลังการผลิตไฟฟ้า (Committed capacity) ท้ังสิ้น 3,744 เมกะวัตต์เป็นโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วประมาณ 1,392 เมกะวัตต์และอยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวนประมาณ 2,352 เมกะวัตต์ซึ่งจะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2564 -2565
สำหรับการลงทุนในโครงการดังกล่าวเป็นไปตามแผนกลยุทธ์การเติบโตของบริษัท ในการขยายกิจการด้านธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ และช่วยต่อยอดความเชี่ยวชาญในการประกอบกิจการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์รวมถึงความร่วมมือทางธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานหมุนเวียนของบริษัทในอนาคต
ทั้งนี้ Avaada มีเป้าหมายการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในอนาคต เช่นเดียวกับอินเดียที่มีการเติบโตของความต้องการไฟฟ้าสูง และภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนพลังงานสะอาด โดยมีเป้าหมายขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจาก 73 กิกะวัตต์ในปัจจุบัน ให้เป็น 450 กิกะวัตต์ภายในปี พ.ศ.2573 อินเดียจึงเป็นประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตอีกมากและเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายหลักในการขยายการลงทุนพลังงานหมุนเวียนของบริษัท
สำหรับการร่วมทุนดังกล่าว เป็นการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ ตามแผนกลยุทธ์ของบริษัท ในฐานะ Flagship ของกลุ่ม ปตท. โดยการเข้าลงทุนครั้งนี้จะทำให้ GPSC มีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเป็น 2,145 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 32% ของกำลังการผลิตทั้งหมด 6,613 เมกะวัตต์ และจะเพิ่มขึ้นตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของบริษัท Avaada ที่ตั้งเป้าหมายการขยายกำลังการผลิตเป็น 11,000 เมกะวัตต์ ในปี พ.ศ. 2568
นอกจากนี้ การเข้าร่วมทุนในโครงการดังกล่าว เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ในการขยายกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศและต่างประเทศของกลุ่ม GPSC ซึ่งได้เล็งเห็นถึงศักยภาพการลงทุนใน Avaada ซึ่งมีเป้าหมายการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในอนาคต สอดคล้องกับอัตราการเติบโตของการใช้ไฟฟ้าในประเทศอินเดียที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะมีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน
รวมถึงรัฐบาลอินเดียยังมีนโยบายส่งเสริมพลังงานสะอาด เพื่อใช้เป็นแนวทางส่งเสริมพลังงานสะอาดให้เป็นที่หนึ่งของโลก โดยอินเดียมีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจาก 73 กิกะวัตต์ ในปัจจุบัน ให้เป็น 450 กิกะวัตต์ ภายในปี พ.ศ. 2573 ดังนั้น อินเดียจึงนับเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ และส่งผลดีต่อการขยายโอกาสด้านการลงทุนของบริษัทฯ อีกทั้งอินเดียยังเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านงานวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำของโลกอีกประเทศหนึ่ง
โดย GPSC เล็งเห็นถึงความสำคัญของทิศทางการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของการพัฒนาพลังงานโลก ที่ให้ความสำคัญในด้านการผลิตพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ประเทศทั่วโลกมีการขยายโครงการพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายของประเทศไทยที่จะเดินหน้าสู่เป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะเป็นส่วนสนับสนุนในการขับเคลื่อนความมั่นคงด้านพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของประเทศ และยังสามารถรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันที่จะนำไปสู่การพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืนร่วมกันต่อไป
ด้านนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT กล่าวว่า การเข้าร่วมทุนในครั้งนี้ ถือเป็นความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ กลุ่ม ปตท. ผ่านทิศทางการลงทุนในอนาคตที่รองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เพื่อมุ่งสู่ Net Zero Carbon Emissions และช่วยสนับสนุนให้เกิดการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามข้อตกลงปารีสร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม
การขยายการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียน รวม 3,744 เมกะวัตต์ในโครงการนี้ เมื่อโครงการดำเนินการเต็มกำลังการผลิตในปี 2565 คาดการณ์ว่าจะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ราว 4.3 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี เมื่อเทียบกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้าของประเทศอินเดีย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้กลุ่ม ปตท. บรรลุเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนของกลุ่ม ปตท. ให้ถึง 8,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 นำไปสู่การพัฒนาพลังงานอนาคตอย่างยั่งยืนร่วมกันต่อไป
ติดตามอัพเดตความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
.
Facebook : Wealthy Thai
Website :
www.wealthythai.com
Twitter :
www.twitter.com/WealthyThai
YouTube :
https://bit.ly/2GoS9Z4
LINE :
http://nav.cx/hm9uy1i
Blockdit :
https://www.blockdit.com/wealthythai
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย