14 ก.ค. 2021 เวลา 04:29 • หุ้น & เศรษฐกิจ
รู้จัก M ผู้นำธุรกิจร้านสุกี้ ในประเทศไทย
ปัจจุบันถ้าให้พูดถึงเรื่อง สุกี้ เชื่อว่าหลายๆท่านก็คงจะนึกถึงร้าน สุกี้ เอ็มเค(MK) กับสโลแกนที่ติดหูอย่าง “กินอะไร กินอะไร กินอะไร ไปกินเอ็มเค” ที่ถือว่าประสบความสำเร็จและครองใจผู้บริโภคอย่างเรามาเป็นเวลานาน
1
โดยวันนี้เราจะไปดูธุรกิจของ หุ้น M ไปพร้อมๆกัน
M หรือ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจร้านอาหาร โดยมีร้านอาหารประเภทสุกี้ยากี้เป็นธุรกิจหลัก และในปี 2529 บริษัทฯได้ทำการเปิดร้าน เอ็มเค สุกี้ เป็นสาขาแรกที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งได้รับความนิยมและการตอบรับเป็นอย่างดี จากนั้นก็ได้มีการขยายสาขาและแตกไลน์ธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องเรื่อยมา
ปัจจุบัน บริษัทฯมีธุรกิจร้านอาหารอะไรอยู่ในมือบ้าง?
จากข้อมูล รายงานผลการดำเนินงาน ณ ไตรมาส 1/64 บริษัทฯมีธุรกิจแบรนด์ร้านอาหารในประเทศไทย รวมกว่า 713 ร้านด้วยกัน ได้แก่
1
1.ร้านอาหารประเภทสุกี้
เอ็มเค สุกี้ ทั้งหมด 447 สาขา
เอ็มเค โกลด์ 5 สาขา
เอ็มเค ไลฟ์ 4 สาขา
2.ร้านอาหารญี่ปุ่น
ยาโยอิ 193 สาขา
มิยาซากิ 19 สาขา
ฮากาตะ 5 สาขา
3.ร้านอาหารซีฟู้ด/ไทย
ร้านแหลมเจริญ ซีฟู้ด 29 สาขา (M ถือหุ้นอยู่ 65% จากการเข้าซื้อหุ้นในปี 62)
ร้านอาหารไทย ณ สยาม 1 สาขา
ร้านอาหารไทย เลอ สยาม 3 สาขา
4. Grab&GO/ขนมหวาน
ร้านข้าวกล่อง บิซซี่บ๊อกซ์ 3 สาขา
ร้านกาแฟ/เบเกอรี่ เลอ เพอทิท 3 สาขา
ร้านขนมหวาน เอ็มเค ฮาร์เวสต์ 1 สาขา
โดยสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทฯมาจาก สุกี้ เอ็มเค คิดเป็น 75% ยาโยอิ 18% แหลมเจริญ 5% และอื่นๆอีก 2% ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ปัจจุบัน บริษัทฯต้องเพิ่งพารายได้จากธุรกิจร้านอาหารอย่าง เอ็มเค สุกี้ เป็นอย่างมาก
1
แล้วผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี เป็นอย่างไรบ้าง?
ปี 2561
รายได้รวม 17,234 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,574 ล้านบาท
ปี 2562
รายได้รวม 17,870 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,604 ล้านบาท
ปี 2563
รายได้รวม 13,655 ล้านบาท กำไรสุทธิ 907 ล้านบาท
จากผลการดำเนินงานในปี 63 ที่ประเทศไทยต้องพบเจอกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ก็ได้ส่งผลต่อธุรกิจ M ไปเต็มๆ เนื่องจากว่าร้านอาหารส่วนใหญ่ของบริษัทฯอยู่ในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก เมื่อเกิดการ Lockdown และต้องทำการปิดร้านชั่วคราว ทำให้บริษัทฯสูญเสียรายได้ในส่วนนี้ไปเต็มๆ เพราะมีรายได้หลักมาจากร้านสุกี้ เอ็มเค ที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าครอบครัวเป็นหลัก
1
แต่ทาง M เองก็ได้มีการปรับกลยุทธ์โดยหันมาเน้นทำเดลิเวอรี่สุกี้ เอ็มเค มากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์เองก็ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยตอบโจทย์กับทางลูกค้าสักเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่ทุกร้านอาหารจะสามารถปรับมาทำเดลิเวอรรี่ได้ แต่ก็พอจะเป็นส่วนที่ทดแทนรายได้หลักที่หายไปได้ในระดับหนึ่งเช่นกัน
1
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนเดลิเวอรี่ของร้านอาหารญี่ปุ่น อย่าง Yayoi กลับเพิ่มขึ้นได้ราว 14% ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี กับการที่บริษัทฯมีธุรกิจร้านอาหารที่หลากหลาย ทำให้ช่วยลดภาระในตัวธุรกิจได้
1
แต่จากผลการดำเนินงานใน ไตรมาส 1/64 ที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้รวม 3,156 ล้านบาท กำไรสุทธิ 89 ล้านบาท ลดลงถึง 74% YoY ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น
1
อีกทั้งล่าสุด ทางภาครัฐได้มีคำสั่งให้ล็อกดาวน์ในบางเขตพื้นที่ อีก 14 วัน บวกกับมีคำสั่งให้ปิดพื้นที่รับประทานในร้านอาหารอีกครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีก 1 ปีที่ไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่สำหรับหุ้น M อีกครั้ง
1
โดยสรุป M ถือว่าเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่คาดว่าจะสามารถฟื้นตัวจากสถานการณ์ปัจจุบันได้นั้น ก็คงต้องรอให้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้นคลี่คลายไปในทิศทางบวกมากกว่านี้ให้ได้ซะก่อน
หรือจะเรียกได้ว่าถึงจะลำบากหน่อยแต่สุดท้ายแล้วก็ยังคงมีแสงสว่างรออยู่ที่ปลายทางนั้นเอง เพราะตัวธุรกิจนั้นมีแบรนด์ร้านอาหารที่แข็งแกร่งและมีความผูกพันกับผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน
1
และพวกเราเองก็คงจะต้องติดตามกันต่อไป ว่า M จะสามารถกลับมายืนได้อีกครั้งเมื่อไหร่กัน ?
**หมายเหตุ** ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง อย่าลืมศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจ ก่อนลุงทุนทุกครั้งเสมอ
ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก investor.mkrestaurant.com, set.or.th
-กดติดตาม รู้ก่อนลงทุน-
อัพเดทบทความน่ารู้เกี่ยวกับการลงทุนในทุกวัน
1
โฆษณา