4 เทคนิคการปฏิเสธ ที่ไม่ทำให้เราดูแย่
ผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง แนวพัฒนาตนเอง ในนั้นมีหัวข้องหนึ่งว่าด้วย “4 เทคนิคการปฏิเสธ” ผมอ่านแล้วไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า การปฏิเสธก็ต้องมีเทคนิคด้วย ไม่แปลกใจที่ทำไมหลาย ๆ ครั้งตัวผมเอง ปฏิเสธใครไม่สำเร็จเลย แล้วก็ทำให้เวลาที่ตัวเองต้องทำอะไรต่อมิอะไรที่สำคัญกับตัวเอง หายไป
เลยอยากแชร์ให้เพื่อนๆ ที่กำลังอ่านได้ รู้เทคนิคนี้บ้างครับ เผื่อว่าเพื่อนๆ เป็นคนที่เวลาน้อยอยู่แล้ว จะได้มีเวลาเพิ่มขึ้น มีอะไรบ้างไปดูกันครับ
1.เรียงลำดับความสำคัญ
อันนี้สำคัญมากเลยครับ เราต้องชัดเจนในตัวเอง ว่าในชีวิตนี้เราจะให้อะไรมาเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสอง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำหนดว่าครอบครัวต้องมาเป็นอันดับหนึ่งในวันหยุด แต่ในวันหยุดมีใครมาขอให้คุณไปช่วยงานที่ที่ทำงาน เราก็สามารถปฏิเสธได้เลยครับ และขอย้ำก่อนนะครับว่าเราต้องชัดเจนในตัวเองเสียก่อนครับ มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่าเราเองที่ใจอ่อนเวลามีคนมาคนมาออดอ้อนให้ทำอะไรครับ
2.อย่าลังเล
ใช่ครับไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ตรง ๆ เวลาไม่สะดวกใจจริง ๆ ก็ปฏิเสธไปเลยครับ และก็อย่าลีลา ถ้าเราลีลามาก คนขอร้องก็จะงัดเอาลูกอ้อนลูกของร้อง แม่น้ำทั้ง 5 มาทำให้เราใจอ่อนจนได้ครับ เพราะฉะนั้น ถ้าริจะปฏิเสธแล้วต้องหนักแน่นเข้าไว้ครับ แล้วต้องปฏิเสธทันทีไปเลยครับ
3.ปฏิเสธอย่างเท่าเทียม
หลาย ๆ คนพลาดกันตรงนี้เลยครับ ปฏิเสธคนหนึ่งแล้ว พออีกคนหนึ่งมาขอร้องดันช่วยซะงั้น มันเลยเกิดคำว่า 2 มาตรฐานขึ้นครับ และก็เป็นสาเหตุให้ความสัมพันธ์ของเราพังด้วยครับ ถ้าเลือกแล้วว่าจะปฏิเสธ ก็อย่าให้อภิสิทธิ์กับใครระครับ เพราะถ้ามารู้ทีหลังว่า คุณไม่ช่วยเขาแต่กลับช่วยคนอื่นล่ะก็ มีงอนกันแน่นอนครับ
4.มีรูปแบบการปฏิเสธ
เวลาปฏิเสธก็ไม่ได้หมายความว่า ให้พูดคำว่า “ไม่” ออกไปตรง ๆ เลยนะครับ ลองเรียบเรียงคำพูดซะหน่อยครับจะได้ไม่ทำให้หัวใจคนขอร้องขุ่นมัว บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุน จนเกินไป ลองใช้รูปแบบตามนี้นะครับ ไม่ต้องเป๊ะมากก็ได้ แต่รับรองว่านุ่มนวลแล้วใช้ได้ทุกสถานะการณ์ครับ
เอ่ยขอโทษหรือขอบคุณ + บอกเหตุผล + ปฏิเสธ + ข้อเสนอทางเลือกอื่น
ยกตัวอย่างเช่น เวลามีคนมาขอให้คุณขึ้นเวรแทนแต่คุณต้องพาครอบครัวไปเที่ยวในวันหยุด คุณอาจจะบอกไปว่า
“ขอโทษด้วยจริง ๆ นะครับ พอดีว่าผมต้องพาครอบครัวไปเที่ยวในวันหยุดเพราะสัญญาแล้วว่าจะเป็นวันครอบครัว คงไม่ขึ้นเวรให้ไม่ได้ในวันนั้น ไว้เป็นครั้งหน้าที่ไม่ตรงกับวันครอบครัวนะครับผมอาจจะช่วยคุณได้”
ถ้าใช้รูปแบบประมาณนี้ก็จะสามารถปฏิเสธได้อย่างนุ่มนวลครับ
หวังว่า ทั้ง 4 ข้อนี้จะช่วยเพื่อน ๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้ได้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ อย่างไรก็ดีขอขอบคุณเทคนิคดี ๆ แบบนี้จากหนังสือ the power of output ของคุณชิออน คาบาซาวา ที่แปลโดยคุณ อาคิรา รัตนาภิรัต ที่มอบผลงานดี ๆ แบบนี้ไว้ในโลกครับ ครั้งหน้าจะมีอะไรมาฝาก เพื่อนๆ อีก รอติดตามนะครับ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
- 39
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
