14 ก.ค. 2021 เวลา 23:39 • การเมือง
เมื่อ "3ป." ต้องแบ่งกำลังรบ !
งวดเข้ามาทุกเรื่อง ถูกตีร่นเข้ามาแทบทุกทาง แต่ต้องบอกว่ายามนี้ยังไม่ใช่เวลา "โยนผ้า" ประกาศ "ยอมแพ้" ให้กับ "สงครามโควิด" หรือ "ศึกการเมือง" ที่ล้อมหน้า รุมหลัง พัลวันอย่างที่เห็น !
แม้ในห้วงหลายวันที่ผ่านมา "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ "ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019" หรือ ศบค.จะอยู่ในช่วงของการกักตัวเป็นเวลา 14 วันหลังจากที่ได้ถ่ายภาพใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด -19 เมื่อวันไปเปิดงานคิกออฟ ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ เมื่อ1ก.ค.ที่ผ่านมา ใช้เพียงการประชุมกับคณะใหญ่ๆ ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเร้นท์ จากบ้านพักที่ร.1 รอ.
แต่ใช่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะหลบเร้นหรือหายไปจากสังเวียนแต่อย่างใด ล่าสุดในการประชุมครม.เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา นายกฯมีข้อสั่งการหลายเรื่อง ทั้งกรณีที่ดร.สมยา สวามินาธาน (Soumya Swaminathan) หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุถึงการผสมสูตรวัคซีน ในลักษณฉีดไขว้ยี่ห้อเพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด -19 เนื่องจากล่าสุด มติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ แถลงข่าวเมื่อวันที่ 12 ก.ค. จะให้มีการฉีดสลับยี่ห้อ จากซิโนแวคเข็ม 1 แล้ว เข็มที่ 2 ให้เป็นแอสตราเซเนกา, ซิโนแวคเข็ม 1 และ 2 แล้ว ให้บูสเตอร์เข็ม 3 เป็นแอสตราเซเนกา ซึ่งแน่นอนว่าประเด็นนี้คือเรื่องใหม่ และเป็นเรื่องสำคัญทั้งต่อด้านการแพทย์ จนอาจกลายเป็น "ช่องโหว่" ให้ถูกนำไปใช้ขยายผล ย้อนกลับมาโจมตีรัฐบาลได้อีก หากเกิดปัญหากับผู้ป่วย
ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จึงมอบหมายให้เป็นการตัดสินใจของแพทย์ ส่วนข้อคิดเห็นของ WHO ครม.นำมาประกอบการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
นอกจากนี้ที่ประชุมครม. ยังให้ความเห็นชอบ มาตรการช่วยเหลือในระยะเร่งด่วน กับ กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดฉบับที่ 27 เพื่อลดผลกระทบในระยะสั้น สำหรับกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการทั้งในและนอกระบบประกันสังคม ภายใต้เงินงบประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาทในพื้นที่ 10 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่มีคำสั่งให้ล็อคดาวน์ที่ผ่านมา
แน่นอนว่าในฐานะ "ผู้นำฝ่ายบริหาร" แล้ว ภารกิจหนักหนาย่อมตกอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหลัก ว่าจากนี้ไปจะมีเวลาให้รัฐบาลต้องเร่งคลี่คลายวิกฤตโควิด ใน14 วันเมื่อมีคำสั่งให้ล็อคดาวน์ ใช้มาตรการคุมเข้ม แต่ขณะเดียวกัน เมื่อขาของฝ่ายบริหารเดินไปข้างหน้า ใช่ว่า "งานการเมือง" จะหยุดชะงัก !
ยิ่งเมื่อเวลานี้หากมองให้ดีจะพบว่า "พี่น้อง 3 ป." ทั้ง "บิ๊กตู่" , "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ "บิ๊กป๊อก"พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ต่างกำลังขับเคลื่อนเดินหน้า "ภาระ" ในมือของตนเองด้วยกันทั้งสิ้น
การจัดทัพภายในพรรคพลังประชารัฐ ของพล.อ.ประวิตร ที่ส่ง "มือทำงาน" อย่าง "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมช.เกษตรและสหกรณ์ ขึ้นไปนั่ง "เลขาธิการพรรค" โดยยอมหักกับ "กลุ่มสามมิตร" ของ "สมศักดิ์ เทพสุทิน" รมว.ยุติธรรม นั้นเพื่อเหตุผลประการหลัก นั่นคือพรรคพลังประชารัฐ จะต้องได้กลับเข้าสภาฯ คว้าตำแหน่ง พรรคการเมืองอันดับหนึ่ง แซง "พรรคเพื่อไทย" ให้ได้ ไม่ใช่จะใช้รูปแบบการเล่นเช่นใดก็ตาม ทั้งการตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ เพื่อ "ตัดกำลัง" ฝ่ายตรงข้าม หรือแม้แต่การเตรียมแผนการเล่นใน "ทุกรูปแบบ" ก็ตาม
การจัดวางกำลัง ทั้ง "ตัวผู้เล่น" ไปจนถึง "เสบียง" อาจจะไม่สามารถ การันตีถึงชัยชนะสำหรับ "3ป." ได้จนวางใจได้ ดังนั้นอย่าลืมว่า "ขาหลัก" อย่าง "กระทรวงมหาดไทย" กระทรวงหลักที่เชื่อมโยงกับทุกกลไก ทางการเมือง และการเลือกตั้ง ชนิดที่เรียกว่า "ทุกระดับ" คือ "เครื่องมือ" ที่ไม่อาจมองข้าม
เมื่อกระทรวงมหาดไทยในมือพล.อ.อนุพงษ์ มีความหมาย แต่ขณะเดียวกันพล.อ.ประวิตร เองต้องการวางมือทำงานอย่างร.อ.ธรรมนัส เข้าไปนั่งในจุดที่เหมาะสม จึงกลายเป็นที่มาของ ข่าวลือที่สะพัดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ร.อ.ธรรมนัส กำลังคั่วเก้าอี้มท.1 จนเจ้าตัวของออกมาปฏิเสธ ทันควันว่า "ไม่เคยคิด"
อย่างไรก็ตาม สูตรการเล่น ปรับทั้งแผนและตัวผู้เล่นนั้นยังมีเวลาให้ได้ขบคิดและ "ต่อรอง" กันอีกพักใหญ่ จนกว่าวิกฤตโควิด -19 จะเริ่มเบาบางลง จนรัฐบาลเริ่มชิงแต้มกลับมา แต่ที่แน่ๆ หากประเมินด้วยสถานการณ์จากนี้ไปจนถึงวันข้างหน้าแล้ว พบว่า การใช้แผนการเล่นชนิดที่ "3ป." ต้องแบ่งกำลังกันเล่น เพื่อคุมกำลังหลักๆ แล้วได้ผลลัพธ์ ที่น่าพอใจ
1
ไม่แน่ว่าอาจจะได้เห็น เซอร์ไพรซ์ ปรับครม.หลังเสร็จศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยอาศัยการ "ยืมมือ" จาก "ฝ่ายค้าน" เพื่อล้างไพ่กันใหม่ อย่างเนียนๆ !!
โดย:ทีมข่าวการเมือง
โฆษณา