15 ก.ค. 2021 เวลา 00:35 • ท่องเที่ยว
ทำไม Paris จึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลป ?
หลายศัตวรรษมาแล้วที่ Paris เป็นที่น่าสนใจของเหล่าศิลปินทั่วโลก เป็นที่เรียนรู้ เป็นแหล่งแสวงหาแรงบรรดาลใจ และ การจัดแสดงงานศิลป จนทำให้ Paris ได้รับการขนานนามว่า " City of Art" หรือเมืองแห่งศิลป นอกจากนั้น Paris ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธ๓ัณฑ์ศิลปที่มีชื่อของโลกอย่างเช่น The Louvre , The Musee D Orsay เป็นต้น
นอกจากความงดงามทางศิลปแล้ว Paris ยังเป็นเมืองที่มี landmarks และ masterpices ของสถาปัตยกรรมอันวิจิตร งดงามอีกด้วย เช่น มหาวิหาร Notre Dame Cathedral , the Eiffel Tower เป็นต้น เมืองนี้จึงเป็นเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว และผู้คนจำนวนมาก จากทั่วโลก
Image credit: pixabay.com
ครั้งหนึ่งเคยอยู่ที่เมือง Rotterdam ประเทศ Netherlandsได้มีโอกาศแบกเป้ท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ แถวๆนั้นหลายประเทศ ก็เพราะประเทศ Netherlands เป็นประเทศเล็กๆ มีพรมแดนติดต่อกับหลายประเทศ การเดินทางจาก Rotterdam ไปยังประเทศต่างๆรอบจึงใช้เวลาไม่มากนัก ไปกลับวันสุดสัปดาห์ก็ได้แล้ว อีกทั้งระบบคมนาคมโดยรถไฟในยุโรปยังสะดวก สบาย และปรอดภัยอีกด้วย
แอดมินสมัยที่เรียนที่ประเทศ Netherlands
Tour Eiffel
หอไอเฟล หนึ่งในสัญลักษณ์ และเป็นแลนด์มาร์ค ที่สำคัญที่สุด ของประเทศฝรั่งเศสที่ทุกคนใช้เป็นสัญลักษณ์ ในการสื่อถึงความเป็น Paris ที่แห่งนี้นับว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับ ความนิยมมากที่สุดในกรุงปารีส และมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากในแต่ละวันอย่างไม่ขาด เป็นหอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนช็องเดอมาร์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส
image credit : pixabay.com
หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งชื่อตามกุสตาฟ ไอเฟล สถาปนิกและวิศวกรชั้นนำของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ออกแบบหอคอยนี้ หอไอเฟลสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของงานแสดงสินค้าโลก ในปี ค.ศ. 1889 เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และความสวยทางศิลปะสถาปัตยกรรม
image credit : http://traveleuropeth.com
เมือง Paris นั้นเป็นแหล่งรวมของสถาปัตยกรรมชั้นเลิศ อาหารการกินชั้นเยี่ยม ตลอดจนวัฒนธรรมของสไตล์การแต่งตัวก็ยังถูกให้การยอมรับจากทั่วโลกได้อย่างมากมายจึงนับว่าชาว Paris นั้น ได้รับพรสวรรค์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้ อย่างน่าเหลือเชื่อเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับชนชาติอื่นๆทั่วทั้งโลกใบนี้
image credit : http://traveleuropeth.com
ความสวยงามของหอไอเฟล และ บรรยากาศรอบๆเมืองปารีสนั้น เป็นสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นนิยามแห่งความคลาสสิค และ ความสวยลงตัวสมบูรณ์แบบ ในบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก สไตล์ยุโรป และถ้าใครที่ชอบในสไตล์แบบนี้ ก็ควรที่จะหาโอกาสไปเยือนสักครั้ง
Notre Dame Cathedral
มหาวิหารนอร์เทอดาม แห่งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศษ เป็นอาสนวิหารประจำอัครมุขมณฑลปารีส ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส คำว่า Notre Dame แปลว่า แม่พระ (Our Lady) ซึ่งเป็นคำที่ชาวคาทอลิกใช้เรียกพระนางมารีย์พรหมจารี เริ่มก่อสร้างครั้งแรกในปี 1163 (856 ปีมาแล้ว) ปัจจุบันอาสนวิหารก็ยังใช้เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกและเป็นที่ตั้งคาเทดราของอาร์ชบิชอปแห่งปารีส [Ref : Wikipedia]
แอดมินที่มหาวิหารนอร์เทอดาม แห่งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศษ มหาวิหารหอคอยคู่ ประตูทางเข้าสามประตู ระเบียงด้านบนมีรูปปั้นปูนนักบุญเรียงรายอยู่ตลอดแนวระเบียงหันหน้ามองออกมาหน้าวิหาร
อีกมุมหนึ่งที่เห็นมหาวิหารนอร์เทอดาม ในระยะไกลจากสะพานข้ามแม่น้ำแซน ความงดงามของวิหารโดยรอบจากมุมมองที่สามารถเดินดูได้รอบๆ นอกจากนั้นยังได้ชื่นชมกับความงามของสะพานทีออกแบบสถาปัตยกรรมที่งดงามหลายสะพานอีกด้วย
ควางดงามของสถาปัตยกรรมภายในมหาวิหารนอร์เทอดาม แห่งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศษ
สถาปัตยกรรมกอทิก
การก่อสร้างเป็นแบบกอทิก นับเป็นอาสนวิหารแรกที่สร้างในลักษณะดังกล่าว ความยิ่งใหญ่ของอาสนวิหารแห่งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของฝรั่งเศสในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ซึ่งที่ตั้งของน็อทร์-ดามในทุกวันนี้ เคยเป็นเมืองเก่าของอาณาจักรโรมันโบราณมาก่อน (ลูเทเชีย)
อีกด้านของมหาวิหารมองจากด้านข้าง
อาสนวิหารน็อทร์-ดาม ว่ากันว่าเป็นโบสถ์ที่สวยงามที่สุดในลักษณะกอทิกแบบฝรั่งเศส เห็นได้ชัดจากหน้าต่างประดับกระจกสี (Stained Glass) ที่อยู่รอบตัวโบสถ์ (เป็นสัญลักษณ์ของสไตล์กอทิก) ซึ่งมีอิทธิพลจากศิลปะแบบแนทเชอราลลิสม์ ทำให้แตกต่างจากศิลปะโรมาเนสก์ที่สร้างก่อนหน้านั้น
ภายในมหาวิหาร
เมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 2019 เกิดเหตุเพลิงไหม้อาสนวิหาร สร้างความเสียหายอย่างหนัก โดยไฟได้โหมไหม้ตรงด้านบนของอาสนวิหาร (สาเหตุเพลิงไหม้ คาดว่าเกิดมาจากการบูรณะวิหารตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 จนถึงปัจจุบัน) บริเวณยอดแหลมของอาสนวิหารได้พังลง กระจกสีเกี่ยวกับเรื่องราวของพระเยซูและคริสต์ประวัติได้รับความเสียหาย งานแกะสลักไม้และภาพวาดเก่าแก่ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน เหลือทิ้งไว้เพียงโครงเหล็ก และคาดการณ์ว่าไฟอาจจะลามมายังอาสนวิหารทางฝั่งตะวันตกได้ โดยทางโฆษกของอาสนวิหารน็อทร์-ดามระบุว่า โครงสร้างทั้งหมดกำลังไหม้ และ “จะไม่มีอะไรเหลือ”
เพิลงใหม้ส่วนบนของมหาวิหารเสียหายสิ้นเชิง
เหตุปัจจัยทั้งหลายล้วน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เหมือนกันหมด ไม่มีอะไรยืนยง มั่นคงตลอดไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา