VET STORIES: บทเรียนแรกสุดจาก “วันสอบสัมภาษณ์”
ผ่านมาเกือบ 2 ปีกับการเรียนออนไลน์
แม้จะพูดไม่ได้เต็มปากว่าเราชินกับการเรียนลักษณะนี้ไปแล้ว แต่หลายๆ คนก็เริ่มรู้จักสิ่งที่เรียกว่า “การปรับตัวและจังหวะของตัวเอง”
1 เดือนที่ผ่านมา เป็นช่วงของการเตรียมตัวสอบ midterm ซึ่งก็ทำให้ชีวิตเด็กสัตวแพทย์เต็มไปด้วยความกดดันและความเครียดสะสมไม่ใช่น้อย
เพราะการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน และการเรียนเนื้อหาที่เข้มข้นย่อมทำให้สมองเหนื่อยล้าเป็นธรรมดา การพักผ่อนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญแต่ก็ต้องจัดสรรให้ดี
“เรามั่นใจจริงๆ ใช่ไหมว่าเรียนไหว…”
ว่าแต่ ทำไมประโยคนี้ถึงผุดขึ้นมาได้จังหวะพักพอดีเลยนะ
อาจารย์: เชิญนั่งได้เลยครับ
“ขอบคุณค่ะ” น้องหมอตอบเบาๆ พร้อมรอยยิ้ม
ก่อนนั่งลงเก้าอี้ที่จัดไว้อยู่ข้างซ้าย และยื่น portfolio ไปให้อาจารย์ด้วยความตื่นเต้น
ณ ห้องสัมภาษณ์ซึ่งแอร์เย็นมาก ซึ่งรู้ว่าไม่ใช่ความตื่นเต้นเลยคิดไปเอง แต่เพราะหลักฐานคือ
มืออาจารย์ที่อยู่ตรงหน้าก็สั่นพั่บๆ ไม่ใช่น้อย
3 วันก่อนการสัมภาษณ์เรียกได้ว่ามีแต่ความกังวลในหัว แต่โชคดีสุดๆ ที่อาจารย์ท่านนี้เป็นกันเองมากๆ
ถึงตอนแรกจะรู้สึกเกร็งๆ หน่อย แต่ตอนหลังนี่ชักจะคุยสนุก
เพราะอาจารย์ท่านนี้… มีทักษะด้านพาออกนอกทะเลเป็นเลิศ
พอบอกเรื่องที่คุณแม่เป็นนักเขียนนิยายจีน แป๊บเดียวอาจารย์ก็พาหลุดไปโลกกำลังภายใน แนะนำนิยายสายวรยุทธ์กันสนุกปากเลยทันที
เอิ่ม เริ่มชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าเรากำลังสอบสัมภาษณ์กันอยู่รึเปล่า
แต่หลังจากถาม-ตอบคำถามทั่วไปได้ไม่นาน เช่น ข้อมูลส่วนตัวและเหตุผลที่อยากเข้าคณะสัตวแพทยศาสตร์ ในที่สุดคำถามนี้ก็มาถึง
อาจารย์: รู้ใช่ไหมว่าคณะนี้เรียนหนัก
เรามีงานอดิเรกหรือเล่นกีฬาบ้างไหม?
ตอนนั้นน้องหมอตอบไปว่า เวลาว่างชอบเล่นเปียโน มีเข้าคลาสโยคะบ้างและชอบวาดรูปค่ะ จากนั้นอาจารย์ก็พานอกเรื่องไปเหมือนเช่นเคย
อืม คราวนี้เป็นเรื่องที่อาจารย์เล่นกีฬากับเพื่อนๆ สมัยเรียนล่ะ
แต่ไม่นานนักพออาจารย์นึกได้ก็วกกลับมาอธิบายถึงเหตุผลที่ถามคำถามนี้
“…ที่ผมต้องถาม เพราะนิสิตสัตวแพทย์เราเรียนหนักเรียนเยอะ
ความขยันเป็นสิ่งจำเป็นอยู่แล้ว แต่การจัดการความเครียดก็เป็นสิ่ง
สำคัญที่ละเลยไม่ได้เช่นกัน หากทำได้ดังนั้น เราก็จะประสบความสำเร็จในการเรียนได้…”
กล่าวไว้ให้คิดโดยอาจารย์ประจำคณะสัตวแพทยศาสตร์ท่านหนึ่ง
อาจารย์ยังให้เหตุผลเพิ่มเติมอีกว่า
คณะนี้มีนิสิตซิ่วเยอะอยู่พอสมควร คว้าอันดับต้นๆ ทุกปี ซึ่งสาเหตุสำคัญก็อยู่ไม่ไกลเป็นเรื่องพื้นฐานอย่าง “ความเครียด” นั่นเอง
ดังนั้น ทางคณะจึงต้องมั่นใจว่า นอกจากความขยันและความตั้งใจแล้ว ว่าที่นิสิตสัตวแพทย์ในอนาคตอย่างเราจะต้องรู้จักวิธีจัดการความเครียดของตัวเองและควบคุมให้ได้
ช่วงสุดท้ายอาจารย์ก็ยื่น portfolio กลับมาให้
แถมตบท้ายด้วยคำถามเบาๆ “เรามั่นใจจริงๆ ใช่ไหมว่าเรียนไหว”
ตบเข่าฉาด! เจอแบบนี้มันเป็น common sense อยู่แล้ว ณ เวลานั้นเราก็ต้องตอบว่าแน่นอนเพื่อให้อาจารย์มั่นใจ บอกเลยว่าไฟแห่งความมุ่งมั่นนี่ลุกพรึบๆ
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ IRASHAIMASE! ยินดีต้อนรับสู่คณะในฝัน นรกที่คุณ…ได้เลือกเอง
🟡 SPECIAL: สำหรับคนที่สนใจคำถามสัมภาษณ์รอบ portfolio (2 มหาวิทยาลัย) แบบจัดเต็มสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยนะคะ
📌https://www.dek-d.com/board/tcas/3961163/
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
