Blockdit Logo (Mobile)
เรื่องราวจากของเก็บ
•
15 ก.ค. 2021 เวลา 09:39 • ประวัติศาสตร์
15 กรกฎาคม หยางกุ้ยเฟย หญิงงามพระสนมเอกของถังเสวียนจงฮ่องเต้ เสียชีวิต
ในบรรดายอดหญิงงามในประวัติศาสตร์จีนทั้ง 4 คนประกอบไปด้วย ไซซี หวางเจาจฺวิน หยางกุ้ยเฟย และเตียวเสียน หากเลือกให้เจอใครได้สักคน ผมจะเลือก “หยางกุ้ยเฟย” (Yang Guifei: 楊貴妃)
1
สาวงามผู้มีกลิ่นตัวหอมหวนรัญจวนใจและใบหน้าหวานหยดย้อยถึงขนาดผู้เป็นพ่อยอมฉกมาจากลูกชาย
1
หยางกุ้ยเฟย (Yang Guifei: 楊貴妃)
ตามประวัติบันทึกไว้ว่าหยางกุ้ยเฟยเกิดเมื่อ 26 มิถุนายน ค.ศ. 719 ในมณฑลเสฉวน ชื่อเดิมคือ ‘หยางอี้หวน’ (Yang Yuhuan: 楊玉環) ความงามของนางถูกเปรียบไว้ว่า ‘มวลผกาละอายนาง’ เพราะครั้งหนึ่ง นางไปชมทุ่งดอกไม้ ร่างกายของนางมีกลิ่นหอม และมีความงามขนาดที่ทำให้มวลหมู่ดอกไม้ที่มีความงามอยู่แล้วต้องละอาย หุบกลีบดอกลงโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยลโฉมนาง
1
เมื่อย่างเข้าสู่วัยสาวความงามของอี้หวนก็ยิ่งลือเลื่อง จนพออายุได้ 16 ปีนางก็ถูกคัดเลือกเข้าไปในวังเพื่อเป็นชายาของ ‘หลี่เม่า’ โอรสจักรพรรดิถังเสวียนจง ความรักของทั้งสองนั้นดูเหมือนจะราบรื่นไม่ต่างจากสามีภรรยาทั่วไป
เส้นทางแห่งตัณหาราคะของอี้หวนได้เริ่มต้นขึ้นในวันเฉลิมพระชนม์พรรษาถังเสวียนจง หลี่เม่าพาชายาสาวสวยเข้าถวายพระพรพระราชบิดา แต่ความสวยของนางดันไปเข้าตาผู้เป็นพ่อวัย 55 เข้าอย่างจังเบ้อ หลังพิธีเสร็จทหลี่เม่าจึงถูกสั่งให้กลับเมืองตามลำพังโดยทิ้งชายาคนสวยไว้ในวัง
หยางกุ้ยเฟย
จากนางผู้เป็นที่รักบัดนี้กลายเป็นแม่เลี้ยงไปเสียแล้ว อี้หวนในวัย 21 กลายเป็นคนโปรดของถังเสวียนจง นางใช้เสน่ห์ที่มีติดตัวปรนนิบัติพระสวามีให้ลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้นและโปรดให้นางมีฐานะ ‘กุ้ยเฟย’ หรือก็คือสนมเอกที่ใหญ่ที่สุดเนื่องจากขณะนั้นไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งฮองเฮา
ความงามล่มแผ่นดินทำให้ฮ่องเต้ที่เคยใส่ใจบริหารบ้านเมืองยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อมาร่วมรักกับนาง โดยเฉพาะเรื่องเล่าที่ว่าถังเสวียนจงชอบมาแอบดูเวลานางว่ายน้ำที่สระในหัวชิงฉือและเมื่อจ้องมองจนเพียงพอก็จะกระโจนลงไปร่วมรักกันในสระ
บุรุษอีกรายที่เข้ามาในชีวิตของหยางกุ้ยเฟยคือ แม่ทัพผู้อาจหาญนาม ‘อันลู่ซาน’ ที่หยางกุ้ยเฟยรับเป็นบุตรบุญธรรมแม้จะมีอายุมากกว่านางหลายปี แล้วความสัมพันธ์สวาทเกินกว่าแม่ลูกก็ได้เริ่มขึ้นและเป็นอยู่นานจนกระทั่งถังเสวียนจงทราบเรื่องจึงตะเพิดอันลู่ซานออกไป
1
แม้จะโกรธนางมากที่แอบคบชู้ แต่ความหลงใหลนั้นกลับมีมากกว่า ถังเสวียนจงยังคงมัวเมาอยู่กับหยางกุ้ยเฟยจนบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะยากแค้น อันลู่ซานที่ยังคงติดใจในบทรักกับหยางกุ้ยเฟยได้ก่อกบฏนำทัพเข้าคุกคามราชสำนัก
หยางกุ้ยเฟยถูกจับได้ระหว่างหลบหนี แม้จะรักหยางกุ้ยเฟยมากสุดหัวใจแต่ถังเสวียนจงก็ถูกบีบให้สำเร็จโทษนางผู้เป็นที่รักเสีย พระองค์ไม่มีทางเลือกจึงพระราชทานผ้าแพรแดงให้นางจบชีวิตตัวเองวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 756 วัยเพียง 37 ปี
1
นั่นคือประวัติคร่าวๆ ของสนมเอกผู้เลอโฉมนางนี้ แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากไม่แพ้ความงามของนางก็คือความจริงที่ว่านางได้ตายไปจริงๆ หรือไม่ แม้จะมีสุสานของนางตั้งอยู่ในเมืองซีอานแต่กลับไม่มีร่างของนางอยู่ภายใน
1
กระแสแรกที่มีการกล่าวถึง คือ ขันทีและทหารเกิดใจอ่อนและปล่อยให้นางหนีรอดไปโดยสังหารหญิงอื่นที่มีรูปร่างคล้ายนาง ส่วนตัวหยางกุ้ยเฟยได้ระเหเร่ร่อนไปไกลถึงญี่ปุ่นและใช้ชีวิตบั้นปลายเยี่ยงสามัญชนธรรมดาซึ่งมีการระบุว่าพบสุสานของนางอยู่ที่นั่น
2
กระแสต่อมาเล่าว่านางได้ตายในคืนวันนั้นด้วยผ้าแพรที่ถังเสวียนจงประทานให้ แต่สภาพที่เพิ่งตายไม่นานบวกกับร่างกายที่ยังคงความสวยเอาไว้ทำให้ทหารที่ทำหน้าที่เฝ้าศพเกิดสะกดอารมณ์ไว้ไม่ไหวและร่วมรักกับร่างไร้วิญญาณของนางจนเป็นเหตุให้ทหารลงมือฆ่าฟันกันเพื่อแย่งศพของนาง
1
ความงามของหยางกุ้ยเฟยนั้นจะออกไปในแนวของการใช้ความงามเพื่อสนองตัณหา รวมทั้งนางยังใช้อำนาจที่ได้มาจากความงามผลักดันให้พี่ชายผู้ไร้สามารถก้าวขึ้นมาเป็นใหญ่จนแผ่นดินต้องพินาศ ความงามของหยางกุ้ยเฟยนั้นจึงสามารถเรียกได้ว่าเป็นความงามที่ทำลายบ้านเมืองตัวเองโดยแท้
1
Yang Guifei Beijing Opera Stamp
ไซซี หวาง เจาจฺวิน หยางกุ้ยเฟย และเตียวเสียน ตามลำดับ
แล้วหญิงงามอีก 3 คน มีใครบ้าง ไปต่อกันเลยครับ
ไซซี (Xi Shi, 沉鱼, 西施)
มีชีวิตอยู่ช่วง ศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล ในสมัยชุนชิว ได้ฉายาว่า "มัจฉาจมวารี" (沉鱼) มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่งไซซีไปฟอกด้ายริมลำธาร เหล่าปลาในลำธาร เมื่อได้เห็นรูปโฉมของนางก็ถึงกับตะลึง ความงามของนางนั้น ทำให้ฝูงปลาถึงกับจมลงไปในน้ำโดยไม่รู้ตัว บางตัวก็ถึงกับหมดเรี่ยวแรง ปล่อยให้สายน้ำพัดจนไปชนกับโขดหิน
หวาง เจาจฺวิน (Wang Zhaojun)
มีชีวิตอยู่ในช่วงราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ได้ฉายาว่า "ปักษีตกนภา" (落雁) เพราะวันหนึ่ง หวาง เจาจวิน นั่งอยู่บนหลังม้า เหล่านกที่บินบนอากาศ เมื่อได้เห็นรูปโฉมของนางก็ถึงกับตะลึง ความงามของนางนั้น ทำให้ฝูงนกถึงกับร่วงลงพื้นดินโดยไม่รู้ตัว
2
เตียวเสียน (Diao Chan) มีชีวิตอยู่ในยุคสามก๊ก ได้ฉายาว่า "จันทร์หลบโฉมสุดา" (闭月) เพราะคืนหนึ่งนางได้ไหว้พระจันทร์ ดวงจันทร์ได้เห็นรูปโฉมของนางถึงกับตะลึง ความงามของนางนั้น ทำให้ดวงจันทร์ถึงกับซ่อนในม่านเมฆโดยไม่รู้ตัว
3
โฆษณา