Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
พึมพำให้ฟัง😊
•
ติดตาม
15 ก.ค. 2021 เวลา 23:49 • ความคิดเห็น
เชื่อว่าทุกคน…..ต้องเคยเจอ❤️
คำว่า “รักแรก “ เป็นได้ทั้งคำกริยา และคำนาม หากเป็นคำกริยา คืออาการที่ผู้คน พบรักครั้งแรกในชีวิต ไม่จำกัดว่าการได้พบรักในครั้งนั้น จะเกิดขึ้นในช่วงวัยใด บางคนเจอรักแรก มาตั้งแต่ 2 ขวบ หรือบางคนเพิ่งจะมาเจอตอน อายุปาเข้าไป 50 แล้วก็อาจเป็นได้
แต่หากเป็นคำนามแล้วนั้น มันคือชื่อดอกไม้ตามรูปด้านบน ที่อดีต ดอกไม้ดังกล่าวเคยมีชื่อว่า รักเร่ แต่เนื่องจากดอกไม้ที่เอ่ยถึง มีดอกที่สวยงาม ครั้นหากสาวๆอยากจะเอามาปลูกในบ้านเรือน ชื่อดูจะไม่เป็นมงคล เพราะปลูกแล้ว ความรักอาจจะเร่หายไปตามชื่อก็อาจเป็นได้ ทางการจึงเปลี่ยนชื่อเสียใหม่ ให้ดูน่าคบหามากขึ้น เป็นดอกรักแรก ซึ่งทำผู้คน กล้าที่จะนำดอกไม้ชนิดนี้มาปลูก ประดับประดาได้อย่างสะดวกใจ
2
แต่ที่จะเอ่ยถึง ในวันนี้ คืออาการรักแรก อาการนี้ไม่สามารถเอ่ยได้ว่า 100% ของผู้คน จะเคยมีรักแรกกันทั้งหมด อาจจะเป็นไปได้ว่า น่าจะพอมีตกหล่นอยู่บ้างไม่น้อย ที่ยังไม่เคยมีความรู้สึกนั้นเลยในชีวิต แต่ส่วนใหญ่ น่าจะมีประสบการณ์นี้มากันบ้างแหละน่า
หากจะให้สารธยาย ความรู้สึก ก็คงไม่ง่ายนัก เพราะน่าจะเป็นอาการเฉพาะ ของแต่ละบุคคล แต่พื้นฐานทั่วๆไป คงจะมีอาการ คล้ายๆในหนังเกาหลี ที่เวลาที่พระเอก กับนางเอกเจอกัน และเกิดถูกใจกัน หัวใจก็จะเต้นโครมคราม แก้มก็จะแดง อะไรประมาณนั้น
แล้วว่ากันว่า ถึงคุณอาจจะถูกตราหน้า ว่าเป็นนักรักตัวฉกาจประมาณ คาสโนว่า หรือคาสโนวี่ ก็ตาม แน่นอนที่สุดเชื่อว่ารักครั้งแรก คือรักที่คุณไม่เคยลืมแน่นอน แม้ว่ามันอาจจะจบไม่สวยก็ตาม
จำได้ว่า รักครั้งแรกของผู้เขียน เกิดขึ้นตอน มัธยม 2 ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจหรอกว่ามันเป็นอย่างไร รู้เพียงว่า รุ่นพี่ ม.4 คนนั้นถูกใจเราเสียเหลือเกิน ยังจำภาพได้ เพราะนึกถึงทีไร ก็นั่งขำ ถึงอากัปกริยา ที่เราเคยเป็น
พี่รักแรกของเราคนนั้น ตัวสูงชะรูด ผิวขาวเหลือง ตาโต รอยยิ้มสวย ฟันสวย หล่อมากไหม ก็ไม่เท่าไร เพียงแต่มีความโดดเด่น จึงทำให้หล่อมากขึ้น เพราะเป็นประธานนักเรียน เป็นนักบาส เป็นดรัมเมเยอร์ เป็นนักดนตรีของโรงเรียน เป็นนักเรียนดีเด่น โอ้ยฮีโร่ชัดๆ
1
2
ตอนเช้า ต้องเข้าแถว เคารพธงชาติ ในทุกๆวัน คนอื่นๆจะเบื่อไม่สนใจ แต่เราตั้งใจมากๆ เพราะพี่ จะออกมานำสวดมนต์ และนำร้องเพลงชาติ ทุกวัน โอ้ย ตางี้จับจ้องไปที่หน้าเสาธง อย่างแช่มชื่นทุกวัน
เนื่องจากเราเพิ่งย้ายโรงเรียนมาใหม่ และเราจะเป็นมนุษย์ที่มี คอซอง หรือหูกระต่าย ที่ใส่กับเครื่องแบบนักเรียน ต่างจากคนอื่นอยู่คนเดียว ของคนอื่นจะเป็นแบบสำเร็จรูป จับจีบสวยงาม แต่ของเราเช้ามาต้องมาผูกเอง ดังนั้นมันจึงโย้เย้ และยาวไม่ได้สัดส่วน เหมือนหูของกระต่ายอย่างงัยอย่างงั้น จึงถูกเพื่อนๆ ล้อเลียน จนเป็นสมญานามว่า ยัยเปิ่นคอซองยาว
แล้ววันหนึ่ง เพื่อนๆ ก็แอบมารู้ว่า เราแอบชอบพี่ประธานนักเรียน เพราะเพื่อนแอบเห็นเราเกาะติดข่าวคราวพี่เขาเหลือเกินนั่นเอง ซึ่งพี่แกไม่รู้เรื่องด้วยหรอก เราแอบชอบเขาอยู่คนเดียว และพี่แกก็คงไม่มาสนใจ เด็กกระโดกกระเดก ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นอย่างเรา ที่สำคัญ ไม่ใช่แค่เราที่แอบกรี๊ดพี่ มีสาวๆอีกมากมาย ที่เป็น FC พี่เขา
1
จำภาพเก่าเหล่านั้นได้ติดตา เราชอบไปนั่งสะเหร่อ อยู่ติดขอบสนามบาส ในยามที่พี่ลงแข่ง แค่พี่มายืนส่งลูกบาสขอบสนามใกล้ๆ หัวใจก็เต้นระทึก หน้าร้อนผ่าวจนแก้มแดง ทำให้ผองเพื่อนจับอาการได้ หนักขึ้นๆ
หลังจากนั้น เพื่อนเจ้ากรรมก็เอาไปเม้าส์ ว่าเราแอบชอบพี่เขา ตานี้เองความซวยจึงบังเกิด นังพวกปากสว่าง มักล้อเลียน และชอบทำให้เราอับอาย หากเดินๆอยู่ แล้วกลุ่มของพี่เดินสวนมา นังเพื่อนตัวร้าย จะตะโกนเรียกชื่อเราเสียงดัง และพูดว่า แกๆ หวานใจแกมาแล้ว พร้อมหัวเราะกันเสียงดังครื้นเครงเชียว ส่วนเราหรือก็อายแทบจะแทรกแผ่นดิน
ชีวิตตอนนั้นลำบากมาก เวลาเดินเจอพี่ตรงไหน เราต้องรีบวิ่งหนี ไปคนละฟากถนน เพราะกลัวเพื่อนตะโกนเสียงดัง จนพี่เขาได้ยิน
แต่ในระหว่างที่ชีวิต คนมีรักแรกอย่างเรา เผชิญมรสุม กับเพื่อนที่ชอบล้อเลียนอยู่นั้น ก็แอบมีฉากประทับใจ ที่เรารู้อยู่คนเดียว ที่เพื่อนๆไม่มีโอกาสเห็นเช่นกัน คือมีวันหนึ่ง ขณะที่เรานั่งริมขอบสนามบาส เชียร์พี่อย่างสุดหัวใจ และแล้วลูกบาส ก็ลอยมาจากไหนไม่ทราบ หล่นมาที่กลางใบหน้าเราอย่างจัง ถึงขนาดเห็นดาวเลย จำได้ว่า พี่เขา มานั่งอยู่ตรงหน้า แล้วถามว่า น้องเป็นอะไรไหมครับ ตอนนั้นภาพตรงหน้าถึงจะเบลอ แต่มีความสุข เอามากๆ จนกระทั่ง มีพี่ผู้หญิงมาประคองเราออกไปห้องพยาบาล
เหตุการณ์ครั้งที่สอง อันนี้ลับสุดยอด เพื่อนๆตัวแสบ ไม่มีทางรู้อย่างแน่นอน มันยังคงประทับใจอยู่ไม่ลืม บ่ายวันหนึ่ง คาบเรียนวิชา ชีววิทยา เราต้องขึ้นไปที่ห้องแล็บ วันนั้นเราขึ้นไปช้า เพราะมัวไปห้องน้ำ ดังนั้นจึงต้องรีบวิ่งขึ้นบันได ให้เร็วที่สุด เพราะเดี๋ยวเช็คชื่อไม่ทัน ระหว่างนั้นเอง ตัวเราก็ไปปะทะกับใครคนหนึ่งอย่างจัง ตรงหัวมุมบันได หัวเราชนที่หน้าอก ดังพลั่ก แล้วล้มลง พอเงยหน้า ก็เห็นคนตรงหน้าคือพี่ประธานนักเรียน ยื่นมือมาดึงมือเราให้ลุกขึ้น แล้วถามว่า น้องเป็นอะไรไหม
น้องตอนนั้น หน้าแดงกล่ำ เพราะอายมาก แต่แอบยิ้มแก้มแทบแตกอยู่คนเดียว แม้ว่าจะเจ็บก้น ที่ล้มกระแทกพื้นก็ตาม แต่เอาเหอะ คุ้มแล้ว
หลังจากวันนั้น เราก็แอบติดตามพี่เขาเงียบๆเสมอ จนพี่อยู่ ม6 ส่วนเราเองอยู่ ม.4 พี่เขาสอบติดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ เราใจหายชะมัด เพราะเขาจะเรียนจบแล้ว ส่วนเราเองตั้งใจเรียนมาก เพื่อจะไปเรียนต่อที่เดียวกับพี่ให้ได้ แต่ความโง่ เราจึงสอบติดที่อื่นแทน เลยแยกห่างจากพี่มากขึ้น
ถึงแม้นว่าจะอยู่คนละมหาวิทยาลัยก็ตาม แต่เราก็ไม่ยอมลดละ เรามีผองเพื่อนที่เรียนอยู่เชียงใหม่หลายคน ดังนั้นในช่วงปิดเทอม เราจึงวางแผนไปเยี่ยมเยียนเพื่อนที่ มช. สาเหตุหลักๆเพื่อจะแอบไปสืบข่าวพี่เขา ว่าเป็นงัยบ้าง
จำได้ขึ้นใจว่า ในเช้าวันหนึ่ง ขณะเราและเพื่อน เดินไปทานอาหาร เราก็เห็นจักรยานเสือหมอบคันหนึ่ง ปั่นมาช้าๆ ด้านหน้าจักรยาน มีสาวน้อยหน้าแฉล้มนั่งมาโดยคนขี่ เอาแขนจับแฮนด์รถโอบคร่อม ตัวเธอมา เสียงคุยหยอกล้อ และหัวเราะเบาๆ จนต้องเหลือบตาไปมอง ว่าใคร ช่างสวีทหวานเสียเหลือเกิน
พอภาพตรงหน้าชัดเจนขึ้น โลกทั้งโลก ก็แทบถล่มทลายลงตรงหน้า เพราะหนุ่มคนนั้น คือพี่ประธานนักเรียนของเรานั่นเอง
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เราไม่เคยกลับไปเหยียบย่างมช. อีกเลย หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น เรากลับจากเชียงใหม่ จำได้ว่า เศร้าหมองไปเป็นเดือนสองเดือนเลยเชียว มาตอนนี้ยังนั่งขำตัวเองไม่หาย ว่าทำไมทำไปได้
ยัง เรื่องยังไม่จบแค่นั้น แม้ว่าเราจะตัดใจได้แล้ว แต่ก็ยังแอบคิดแบบนางร้ายอยู่ไม่เลิก ว่าพี่เขาอาจเลิกกับนังผู้หญิงคนนั้นก็อาจเป็นได้ จนกระทั่ง เรียนจบ เข้าทำงานแล้ว และไม่เคยทราบข่าวคราวพี่นานมากแล้ว บังเอิญมีอันจะต้องได้ทราบข่าวสารพี่เขาแบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะไปเจอเพื่อนสนิทของพี่ ที่เป็นลูกค้าเรา นั่งคุยซักไซร้ไล่เรียง กันถึงการเป็นศิษย์เก่าร่วมโรงเรียนเดียวกัน ดังนั้นเรานะหรือจะพลาดโอกาสนี้ไปได้
เราเลียบๆเคียงๆ ถามพี่เขาถึงพี่ประธานนักเรียน ว่าเจอกันบ้างไหม เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อนของพี่เล่าว่า พี่เขาทำงานอยู่ที่ระยอง แต่งงานแล้ว แต่เจ้าสาว ไม่น่าใช่สาวที่เจอที่ มช.คนนั้น พอได้ยินเรื่องราว เราก็จบความรักแรกของเราลงได้ อย่างง่ายดายกว่าทุกครั้ง เพราะเราคนเดียว ที่แอบชอบพี่เขา โดยที่เขาไม่เคยรู้เลย และตอนนี้พี่เขาก็มีความสุขกับชีวิตดีแล้ว ส่วนเราก็โตขึ้นแล้ว
แต่มาไม่นานนี้ ในคืนๆหนึ่ง ว่างมาก ลองเสริช์หาชื่อพี่ ใน Facebook ค้นไปค้นมา เจอโปร์ไฟล์พี่เขา ดีใจมาก แต่เจอในวันนี้ หมดรักไปแล้วไหม ไม่เรียกว่าหมด เรียกว่าจบดีกว่า ในโปร์ไฟล์ของพี่นั้น มีรูปพี่และครอบครัว ดูน่ารักอบอุ่นดี แต่พี่ดูเปลี่ยนไปเยอะมากมาย ตัวอ้วนขึ้น หน้ามีอายุ มีผมสีขาวประปรายแล้ว แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมอยู่เลย เราได้แค่อมยิ้ม ไม่ได้เขินอายหรือใจเต้นตูมตามแบบเดิมแล้ว มีเพียงรอยยิ้ม และระลึกถึงภาพเก่าๆ ของเด็กหญิงวัยแรกแย้มคนนั้น ที่มีรักแรก มาอย่างยาวนาน อย่างโง่เขลาและน่าขำ
วันนั้นผ่านมานานมากแล้ว เรายังไม่ลืมภาพเหตุการณ์ของรักแรก เพียงแต่ในวันนี้ เราลืมที่จะรักเขาไปแล้ว เพราะเวลา พาเหตุผลต่างๆนาๆ มาให้เราเข้าใจ และในเวลานี้ จะคงมีเวลาแค่เพียง รักตัวเองเหงาๆคนเดียวเท่านั้นก็น่าจะพอแล้ว❤️
บันทึก
8
27
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เรื่องเบาๆเล่า สบายๆ สไตล์คุณพึมพำ❤️
8
27
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย