16 ก.ค. 2021 เวลา 05:50 • สุขภาพ
รีวิวการฉีด Pfizer เข็ม 2 ป่วยหนักค่ะ และสถานการณ์ล็อคดาวน์ครั้งที่ 5 ของเมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย
3
https://unsplash.com/
คุณผู้อ่านที่รัก
ฉัน อาศัยอยู่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เพิ่งได้รับวัคซีน Pfizer เข็มที่ 2 เป็นระยะเวลา 24 ชม. ที่ผ่านมา จึงอยากจะมาอัพเดทอาการให้ฟังกันค่ะ
2
จากเข็มแรก เมื่อ 4 สัปดาห์ก่อน ตอนที่ฉีด ฉันไม่มีความรู้สึกใด ๆ ในขณะฉีด เจ้าหน้าที่มือเบา และรวดเร็วมาก ฉีดในตอนบ่าย พอตกค่ำมีอาการเจ็บที่ต้นแขนบริเวณที่ได้รับการฉีดประมาณ 1 วัน หลังจากนั้นก็เป็นปกติ
สำหรับเข็มที่ 2 ฉันได้ทำการนัดกับเจ้าหน้าที่ที่ลงทะเบียนก่อนการฉีดเข็มแรก เมื่อลงวันเวลาแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ส่งอีเมลยืนยันการจอง แต่อีเมลไปตกอยู่ในช่องโปรโมชั่น เกือบไม่ได้รับอีเมลเพราะไม่ได้เฉลียวใจดู
และเข้าใจว่าสถานที่ฉีดจะเป็นที่เดิม แต่เปล๊าาาา เปลี่ยนที่ค่ะ ไม่มีสิทธิ์รู้ ไม่มีสิทธิ์เลือกด้วย บังคับมาในอีเมลยืนยันเลย แต่เอางิ ยอมขับรถไกลอาจจะง่ายกว่าการไปขอเปลี่ยนสถานที่
1
ต้องขับรถไปเองค่ะ เพราะไม่มีใครว่างไปเป็นเพื่อน ก็กังวลใจอยู่นิด ๆ ว่า ถ้ามีอาการป่วยแบบที่ได้ยินคนอื่นเล่ามาอาจจะแย่ เพราะต้องขับรถไกลถึง 1 ชม. ครึ่ง
1
ใช้ GPS นำทางไปยังสถานที่นัดฉีด พอไปถึง โอ้โห ดีงาม ที่จอดใกล้ตัวอาคารจนแทบจะเป็น Drive though และมีเยอะสะดวกสบายกว่าที่แรกมาก มีป้ายชี้บอกจุดเห็นง่ายชัดเจนตลอดทาง
เข้าไปด้านใน เจ้าหน้าที่ขอดูอีเมลยืนยันการจอง แล้วก็ไปลงทะเบียน ระหว่างรอคิว มีคนที่มาแบบ Walk in ได้ยินเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ถ้า Walk in จะไม่สามารถเลือกวัคซีนได้ จะได้ฉีด Astrazeneca เท่านั้น ซึ่งคนส่วนใหญ่น่าจะรู้ข้อมูลกันอยู่แล้ว พวกเขาตอบตกลง
1
โต๊ะลงทะเบียน
ส่วนฉันเลือกฉีด Pfizer ตั้งแต่เข็มแรกแล้ว เข็ม 2 จึงเป็น Pfizer อัตโนมัติ
2
ภายในห้องกว้างขวาง เป็นคล้าย ๆ ห้องจัดเลี้ยงที่นำมาดัดแปลงเป็นศูนย์ฉีดวัคซีน มีเก้าอี้ให้นั่งรอเป็นแถว รอแค่ไม่ถึง 10 นาทีก็ได้รับการเรียก
ด้านในอาคาร
เจ้าหน้าที่ที่ฉันพบเป็นผู้หญิงผิวดำแอฟริกัน ตัวใหญ่ ใจดี เธอเช็คข้อมูลอีกครั้งอย่างละเอียด และพูดกับฉันว่า วันนี้ยุ่งมาก ข่าวโควิดไม่ดีเลย คนยิ่งเร่งต้องการวัคซีนกันมากขึ้น
1
ระหว่างรอคิว
เธอถามฉันว่ากลัวเข็มไหม ฉันตอบไปว่ากลัวนิดหน่อย เธอก็บอกให้ฉันผ่อนคลาย เมื่อเธอแทงเข็มเข้าที่ต้นแขน ฉันรู้สึกได้ทันทีเลยว่า "เจ็บ" ไม่ใช่เจ็บจากเข็ม แต่เป็นความเจ็บจากการที่ถูกดันวัคซีนเข้าสู่ร่างกาย ในเข็มแรกไม่รู้สึกแบบนี้เลย และรู้สึกว่าเข็มนี้จะใช้เวลานานกว่ามาก
ฉีดเสร็จต้องพักรอดูอาการ 15 นาที ก็เดินทางกลับได้
สติ๊กเกอร์เมื่อได้รับวัคซีนแล้ว
ในตอนแรกฉันไม่รู้สึกอะไร นอกจากเจ็บที่ต้นแขนเท่านั้น ฉันยังไปแวะที่ศูนย์สรรพสินค้า หาชาและขนมกินก่อนขับรถกลับบ้านซะด้วยซ้ำ
จนถึงตอนค่ำ ฉันรู้สึกว่าไม่ปกติ เริ่มมีอาการป่วย และเจ็บที่ต้นแขนมากขึ้น ฉันจึงเข้านอนโดยเร็ว
รุ่งขึ้น อาการยังไม่ทุเลา แถมยังจะรู้สึกว่าเป็นมากขึ้น เป็นอาการปวดเมื่อยและครั่นเนื้อครั่นตัว คล้ายจะมีไข้ แต่ก็ไม่มี โชคดีฉันไม่มีธุระต้องออกไปไหนทั้งวัน
ระหว่างนอนป่วยก็ได้รับข่าว เป็นข่าวที่ไม่ค่อยดีนัก คือเมืองเมลเบิร์นประกาศล็อคดาวแบบด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋าอีกครั้ง เนื่องจากพบผู้ติดเชื่อเพิ่ม 10 ราย แค่ 10 รายก็ล็อคกันแล้วจ๊ะแม่จ๋า ไม่ต้องรอให้ถึงหมื่น สาเหตุคือมีผู้เดินทางมาจากซิดนีย์ และไม่ยอมกักตัว ไปร่วมงานกีฬาที่มีคนเยอะ เชื้อจึงกระจายไปอย่างรวดเร็ว
4
นี่เป็นการล็อคดาวน์ครั้งที่ 5 แล้ว นับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ในออสเตรเลีย เมืองเมลเบิร์นเพิ่งปลดล็อคดาวน์โผล่พ้นน้ำขึ้นมาหายใจได้เมื่อไม่ถึงเดือนมานี่เอง เราโดนกันอีกแล้ว
2
เช้าวันนี้ อาการป่วยของฉันทุเลาลงจนอาจเรียกได้ว่าเป็นปกติ ไม่มีอาการเจ็บที่แขนแล้ว
1
แขนไม่เจ็บ แต่เจ็บใจ เราเฝ้าอดทนกันเป็นเวลานานกับการล็อคดาวน์ แต่พอสถานการณ์ดีขึ้น พอจะหายใจได้โล่งจมูกหน่อย ก็มีคนประมาทเอาเชื้อเข้ามาให้อีกแล้ว คิด ๆ แล้วมันก็เหนื่อยเหลือเกิน
3
แต่สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำได้ก็คือ อดทนกันต่อไป สู้ ๆ ไปด้วยกันนะคะทุกคน
2
หน้ากากอนามัยแบบผ้า 5 ชั้น https://raka.is/r/VlAo
หน้ากากอนามัย O & B https://raka.is/r/edKE
1
ชาเขียวญี่ปุ่นสูตรไม่มีน้ำตาล https://raka.is/r/7ld6
# ผู้เขียน
เกิดกรุงเทพ เติบโตริมคลองแสนแสบที่ฉะเชิงเทรา จบการศึกษาจากขอนแก่น แล้วกลับไปทำงานที่กรุงเทพ ปัจจุบันอยู่บ้านเล็ก ๆ ในป่ากัมที่ประเทศออสเตรเลีย
เรียนและรักษ์ภาษาไทย ชอบออกไปดู ไปดม ไปชมโลก ด้วยความหลงใหลแล้วนำกลับมาเล่า
ฝากผลงาน E-book เที่ยวเมลเบิร์นด้วยตัวเองไปกับรถรางสาย 35
และบล็อก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา