ดูแลสุขภาพแบบใจเกเร Ep.2 ลดหวานกันบ้าง....กูอิจฉา
- คนทั่วไปชอบกลัวข้าว กลัว Carbs แต่ไม่กลัวคาปูหวานปกติในอเมซอล หรือไม่ก็กดน้ำอัดลมวันละลิตร เพราะมันสดชื่น
น้ำซ่า + หมูกะทะ แซ่บอย่าบอกใคร
- ให้คิดไว้ก่อนเลย ว่าที่หวานๆ เข้าปากไป มันมีน้ำตาลหมด (เว้นเครื่องดื่มที่ใช้สารให้ความหวานแทน) เข้าใจน้ำตาลก่อน น้ำตาลมันก็มีหลายแบบ ไล่เป็นลำดับดังนี้
- กลูโคส คือน้ำตาลที่สกัดจากอ้อย คือ พอกินเข้าไป มันเปลี่ยนไปเป็นกลูโคส ซึ่งมันสามารถเข้าไป "เก็บ" ไว้ตามเซลส่วนต่างๆ ของร่างกาย และสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานเมื่อไปเข้ายิม หรือในกิจกรรมระหว่างวัน
- แต่ถ้าคุณกินมันเยอะเกินไป มันก็ "อ้วน" อยู่ดี
ผลไม้ที่ก็มี "น้ำตาล" แฝงอยู่เช่นกัน
- ฟรุกโตส (ฟรักโตส ฟรุคโตส ไม่รู้เรียกไร กูเด็กศิลป์ฝรั่งเศส) ส่วนใหญ่อยุ่ในผลไม้ ฟรุกโตสเมื่อรับเข้ามาแล้วไม่ได้จ่ายเข้าเซล แต่จะลงตับก่อน โดยจะเก็บในรูปของไกลโคเจน คือกินได้ แต่ก็ไม่ใช่กินทุเรียนเป็นลูก เพราะมันก็อ้วนอยู่ดี
HFCS ที่มักถูกนำไปใช้ผลิตเครื่องดื่มตามร้านสะดวกซื้อ
- น้ำตาลที่อยู่ในอาหาร โดยเฉพาะตามร้านสะดวกซื้อ แทบจะเกือบทั้งหมดทำจากน้ำตาลข้าวโพด หรือก็คือฟรุกโตสนั่นแหล่ะ
- ก็ดีสิ ในเมื่อมันทำจากผลไม้ ถ้าคุมแคลดีๆ ก็ไม่เห็นต้องตัดน้ำตาล
- ผิด!!!!!! ไอ้น้ำตาลข้าวโพดที่มาจากโรงงานมันไม่ใช่ฟรุกโตสเฉยๆ แต่มันคือ High fructose corn syrup (HFCS) ซึ่งโรงงานชอบใช้ เพราะมันหวานกว่า ปกติ 1.7 เท่า และเซฟคอสกว่า (ไม่ว่าน้ำตาลทรายขาว ทรายแดง ก็มีทั้งนั้น)
HFCS ที่ถูกใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เพราะต้นทุนมัน "ถูก"
- ไม่ดียังไง? เพราะร่างกายไม่รู้จัก HFCS คือน้ำตาลประเภทไหน (แต่รู้ว่ามันคือพลังงาน) เมื่อรับเข้าไปร่างกายจับยัดเข้าเซลไขมันไว้ก่อน (คือดิ่งเข้าไปเก็บเท่านั้น) ดังนั้นถ้ามันเก็บเป็นไขมัน มันจะเอาออกยากมากขึ้น (การจ่ายพลังงานออกของร่างกาย จะจ่ายไขมันออกเป็นลำดับสุดท้าย เพราะถือว่าเป็นพลังงานสำรองของร่างกาย ถ้าไม่นับไกลโครเจน)
- ความหวานทุกอย่าง (รวมถึงสารให้ความหวานด้วย) เมื่อกินเข้าไป มันทำให้ระดับอินซูลิน "สูง" ขึ้น ซึ่งส่งผลให้คุณหิว และจะเริ่มหาอะไร "ยัด" เข้าปาก
- สารทดแทนความหวาน กินได้โดยที่ไม่ทำให้หุ่นเสีย ถ้าคุม "ความอยากรับประทาน" ได้ ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น แต่คนที่เริ่มคุมอาหารใหม่ๆ + เสพติดน้ำตาล มักจะคุมจุดนี้ไม่ได้ เช่น ไปร้านขายของชำซึ่งไม่ค่อยจะมีน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาล คุณก็จะเลือกกินน้ำตาลแทนแบบชูก้าฟรี
- มีน้ำตาลอีกตัว เรียกว่าซูโครส ซึ่งเป็นการผสมน้ำตาลกลูโคส และซูโคสในอัตรา 50:50 แต่ทางปฏิบัติเราก็แทบจะไม่รู้อยู่ดี เพราะฉลากโภชนาการมักจะเขียนว่ามี "น้ำตาล" กี่เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ได้บอกว่าใช้น้ำตาลอะไร
ผมเมื่อ 1.6 ปีที่แล้ว
- ดังนั้น ไม่แปลกที่จะเห็นผมดื่มโค้กเป็นลิตร แต่ไม่อ้วน เพราะผมดื่มแบบไม่มีน้ำตาลมันไม่มีแคล และผมคุมมันได้
- ในวงการเฮลตี้ น้ำตาลคือสารเสพติดที่ถูกกฎหมาย เมื่อก่อนเราคิดว่าที่ติดน้ำอัดลม เพราะมันมี "คาเฟอีน" แต่จริงๆ ไม่ใช่ คุณแค่ติด "หวาน"
- ไม่พูดเรื่องสุขภาพนะ ทั้งความดัน เบาหวาน โรคอ้วน เนื่องจากผมไม่ใช่หมอ
- โบราณว่า "กินคาวไม่กินหวาน....สันดานไพร่" ก็ลองเก็บไปคิดดูว่าอยากเจอปัญหาสุขภาพที่มากขึ้นตามอายุ หรือจะยอมเป็น "ไพร่" เสียตั้งแต่ตอนนี้
ปล.ขอบคุณภาพประกอบ บุรุษเจ้าน้ำตาล เมื่อ 1.6 ปีที่แล้ว และผมที่ตัดน้ำตาลในปัจจุบัน และเข้าสู่การเป็น "ไพร่" เรียบร้อย
ยังไม่ลีนเท่าไหร่อ่านะ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ฝากซีรี่ Critical Thinking : ดูแลสุขภาพแบบใจเกเร ด้วยครับ
ฝากกดติดตามด้วยครับ (เดี๋ยวผมมีไรจะเล่าให้ฟัง🤔🤫)🙏🙏
- สุดท้ายเครื่องดื่มที่ทำจากผลไม้สกัดเย็น เป็นตัวเลือกที่ดี
- ฝากสนับสนุนร้านน้ำผลไม้ของรุ่นน้องผมด้วยครับ (ผมไม่ได้มีส่วนได้เสียในผลกำไรครับ แค่ได้ "ใจ" เฉยๆ😅)
น้ำผลไม้สกัดเย็น ไม่ใส่น้ำตาลนะ
(ฝาก Order ครับ ฮ่าๆๆๆๆ 🤫🤔)
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
