17 ก.ค. 2021 เวลา 04:33 • หนังสือ
This life is mine alone.
So, I have stopped asking people for directions to places they’ve never been.
ประโยคเด็ด ที่อ่านแล้วจุกอกนิดๆจากหนังสือ Untamed อย่ายอม ของเกลนน็อน ดอยล์ นักเขียนและนักเคลื่อนไหวชื่อดังในสหรัฐอเมริกา
ก่อนที่จะไปเริ่มอ่าน เรามาทำความรู้จักนักเขียนกันสักเล็กน้อยนะคะ
เกลนน็อน ดอยล์ ปัจจุบันเป็นนักเขียนที่มีผลงานเขียนติดอันดับ New York Time bestseller
อีกทั้งยังเป็นนักพูด นักเคลื่อนไหว เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและสตรี
เกลนน็อนเป็นผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงานกับผู้ชายมาแล้ว มีลูกทั้งหมด 3 คน
แต่ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาและลูกๆ
การตัดสินใจหย่าร้างกับสามีแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กับภรรยา เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตเธอ
การออกจากกรงขัง ที่เป็นความเชื่อ ความรู้สึก หรือตัวตนเดิมของเธอ เพื่อมาเป็นคนที่เธอเป็นอยู่ในปัจจุบันคือความกล้าหาญที่ควรนำมาเป็นแบบอย่างให้กับผู้หญิงทุกคน
“อย่ายอม” สำหรับเกลนน็อน หมายความแบบนั้นจริงๆ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จะมาควบคุมชีวิตคุณ ทั้งขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ศาสนา คนที่คุณรัก หรือคนที่เขารักคุณ พวกเขาไม่ใช่คุณ จงอย่ายอมให้เขาได้ใช้ชีวิตของคุณ
เนื้อหาในหนังสือเปิดมุมมองให้เราเห็นว่า ที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้ เราได้รับอิทธิพลและผลกระทบจากอะไรบ้าง นี่ใช่ตัวตนที่จริงแท้ของเราหรือไม่ หรือเป็นตัวตนที่ผ่านการหล่อหลอม ผสมปนเป สิ่งต่างๆมากมายที่เราไม่ได้ต้องการมันอย่างแท้จริง
ตัวอย่าง เช่น ความเชื่อของการเป็นผู้หญิงที่ดี ผู้หญิงที่ดีนี่คือกรงขังที่แน่นหนาของผู้หญิงทุกคน ตั้งแต่ความเชื่อเรื่องร่างกายที่สวยงามของผู้หญิง การปฏิบัติตนของผู้หญิง และหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่นั่นคือการเป็น “แม่”
ผู้หญิงเป็นเพศที่ตัวตนที่แท้จริงถูกกลืนหายได้ง่ายมากๆ และเธอก็เชื่อว่านั่นคือสิ่งที่ดี ที่ ควร ทำ
เหมือนเราเกิดมาพร้อมใบสั่ง
ถ้าเป็นผู้หญิงโลกก็จะสั่งให้เราต้องอ่อนแอ อ่อนไหว ต้องดึงดูด ต้องรักเพศตรงข้าม เสียสละเพื่อลูก ดูแลสามีและครอบครัวให้ดี ควรจะทำอาหารให้ได้ ทำงานบ้านให้เป็น นี่เป็นตัวอย่างของใบสั่งที่เราไม่รู้ว่าใครสั่งแต่เราก็ทำตาม
งานเขียนชิ้นนี้ทำให้เราอ่านแล้วสงสัยในตัวเอง สงสัยในโลก และสิ่งที่เราทำอยู่
ว่าสุดท้ายที่เราทำ มันเกิดจากความรู้สึกที่จริงแท้ของเราหรือไม่ หรือเกิดจากการทำตามใบสั่งของใครก็ไม่รู้
การเป็นผู้หญิง หรือแม่นั้น เราสามารถเป็นในแบบของเราได้
เราสามารถจินตนาการถึงสิ่งที่จริงแท้และสวยงามที่สุดได้ด้วยตัวของเราเอง
เกลนน็อน เป็นโรคบูลิเมีย (โรคที่กินอาหารเข้าไปมากๆแล้วพยายามทำให้ตัวเองอาเจียนออกมา) ติดเหล้าจนสภาพร่างกายย่ำแย่ แต่วันนึงเธอพบว่าตัวเองตั้งครรภ์
มันเป็นสภาพที่หลายคนจินตนาการไม่ออกว่าเธอจะเป็นแม่ที่ดีได้ยังไง
แต่เธออยากให้เด็กคนนี้มีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอรักเด็กคนนี้ไปแล้ว
เธอจึงจินตนาการว่าเธอเป็นแม่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองและดูแลลูกของเธอได้
แม้หลักฐานทุกอย่างชี้ไปในทิศทางตรงกันข้าม แต่เธอยังจินตนาการเห็นภาพตัวเองเป็นแม่ที่ไม่เมาและประสบความสำเร็จ
ต่อมาเธอกลายเป็นแม่ เป็นภรรยา และเป็นนักเขียน
ลึกๆแล้ว เราต่างเชื่อว่าชีวิตที่เป็นอยู่มันต้องสวยงามกว่านี้ เช่น ผู้คนในชุมชนควรจะมีน้ำใจและเอื้อเฟื้อต่อกันมากกว่านี้ ธรรมชาติควรได้รับการดูแลมากกว่านี้ เด็กในสงครามควรได้รับการคุมครองให้อยู่รอดปลอดภัยมากกว่าที่เป็นอยู่
จริงๆแล้วในจินตนาการของเราทุกคนเก็บซ่อนสิ่งสวยงามของโลกใบนี้ไว้เต็มไปหมด
ถ้าเราเลือกทำตามจินตนาการที่เรียกร้องจากภายใน แทนการทำตามใบสั่งหรือการอบรมสั่งสอนของคนอื่น โลกที่เราเคยจินตนาการก็จะกลายเป็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรา และสามารถสัมผัสมันได้
ไม่ว่าคุณจะไปถามนักปราชญ์ที่ไหน ก็คงไม่มีใครบอกคุณได้ชัดเจน 100% ว่าชีวิตคุณจะต้องทำอย่างไร และจะเป็นอย่างไรต่อไป
เพราะชีวิตเป็นของคุณคนเดียว พวกเขาไม่เคยได้สัมผัสมันอย่างแท้จริง
ดังนั้นจงหยุดถามทางจากคนที่ไม่เคยไปยังที่แห่งนั้นเสียที
คุณคนเดียวเท่านั้นที่จะไปถึงและคุณคนเดียวเท่านั้นที่เดินบนเส้นทางสายสำคัญนี้
This life is mine alone.
So, I have stopped asking people for directions to places they’ve never been.
โฆษณา