17 ก.ค. 2021 เวลา 20:17 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ถ้าเจ้าทำแต่สิ่งที่ทำได้ เจ้าจะไม่มีวันดีกว่าตัวเจ้าตอนนี้
If you only do what you can do
You will never be more than you are now
กังฟูแพนด้าภาค 3 

การ์ตูนการต่อสู้ของเจ้าแพนด้าตัวอ้วน
และเพื่อน ๆ ทั้งห้า
ที่แฝงปรัชญาลึกซึ้งเสมอ
ภาค 3 นี้ยิ่งลึกซึ้งมากกว่าเดิม
📍ถ้าเจ้าทำแต่สิ่งที่ทำได้
📍เจ้าจะไม่มีวันดีกว่าตัวเจ้าตอนนี้

ในภาค 3 นี้โปเจ้าแพนด้า-นักรบมังกร ได้รับมอบหมายจากท่านอาจารย์ชีฟุให้เข้ารับหน้าที่เป็นอาจารย์สอนกังฟูกับทุกคน
ซึ่งเมื่อถึงเวลาจริงเขาก็พบว่ามันเป็นเรื่องยากเกินความสามารถ แม้เพื่อน ๆ และทุกคนจะยอมรับในฝีมือการต่อสู้และศักยภาพในการเป็นนักรบมังกรของเขา แต่สำหรับการเป็นอาจารย์ผู้ประสิทธิประสาทวิชาการต่อสู้ เขาสอบตกอย่างสิ้นเชิง
เมื่อเขาถามอาจารย์ชีฟุว่า ทำไมให้เขารับหน้าที่นี้ อาจารย์จึงมอบปรัชญาให้กับเขา 
“ถ้าเจ้าทำแต่สิ่งที่ทำได้
เจ้าจะไม่มีวันดีกว่าตัวเจ้าตอนนี้”
หลังจากผ่านมา 2 ภาคที่เจ้าโปแพนด้าตัวอ้วนได้สำเร็จวิชาต่าง ๆ เอาชนะตัวร้ายที่เก่งฉกาจฉกรรจ์ จนเหมือนกับว่าเจ้าโปจะเก่งจนชนเพดานแล้ว แต่ในภาค 3 นี้ยังสามารถดันเพดานให้สูงขึ้นไปได้อีก ด้วยการดึงโปออกมาจาก Safe Zone เดิมของการเป็นนักรบมังกร แต่ภาคนี้เขาจะต้องก้าวขึ้นไปสู่การเป็นจอมยุทธ์ (Matering Chi)
📍Who am I?

อาจารย์ชีฟุบอกกับโปว่า เขาต้องการมอบหมายหน้าที่ “อาจารย์” ให้กับโป เพื่อที่เขาจะได้ไปฝึกวิชาเพื่อค้นหาว่า “Who am I” ซึ่งท่านปรมาจารย์เต่าอูเกวใช้เวลากว่า 500 ปีเพื่อตอบคำถามนี้กับตัวเอง
โปร้องโอดครวญว่า เขาไม่สามารถเป็นอย่างอาจารย์ชีฟุได้หรอก อาจารย์จึงมอบปรัชญาให้กับเขาอีกดอก “ข้าไม่ได้พยายามให้เปลี่ยนเจ้าเป็นข้า
แต่ข้าพยายามเปลี่ยนให้เจ้าเป็นเจ้า” 

ซึ่งนี่คือใจความของปรัชญาหลักในภาค 3 นี้ การค้นหาว่า Who am I? ของโป
📍ข้อดีของ Kungfu Panda ทั้ง 3 ภาคก็คือ การไม่ได้ชูความเป็นซุปเปอร์ฮีโร่แบบข้าเก่งสุด ข้าค้นพบวิชาเคล็ดลับจักรวาลได้ด้วยตัวเอง แต่ตลอดทั้ง 3 ภาคเน้นย้ำเสมอถึงสายสัมพันธ์ที่เกี่ยวโยงกัน ไม่ว่าจะระหว่าง ลูกศิษย์กับอาจารย์ เพื่อนกับเพื่อน หรือพ่อกับลูก
ความสำเร็จของโปในท้ายที่สุด มักจะได้รับพลังจากทุกคนเกื้อหนุนเสมอ
📍ข้อดีอีกข้อก็คือการตอกย้ำว่า ฮีโร่ไม่จำเป็นต้องอยู่ใน Stereotype แบบที่เราได้รับการยัดเยียดจากภาพยนต์หรือการ์ตูน Super Hero ที่มีอยู่ดาษดื่น โปก็คือตัวแทนของคนธรรมดาอย่างพวกเรา ๆ นี่แหละ ดูเหมือนจะเป็นพวก Loser ด้วยซ้ำแทบจะไม่มีมาดของพระเอกอยู่ในตัวเลย
ภาค 3 นี้เน้นย้ำตรงนี้เข้าไปอีกว่า “ฝึกฝนในสิ่งที่เราทำได้ดี เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวเราเอง” ก็จะทำให้ทุก ๆ คนเป็นฮีโร่ได้
ในภาค 3 นี้เราจะยังได้รับความสนุกสนานปนเสียงหัวเราะของมุขตลกที่มีอยู่ตลอดเรื่อง และยังได้ขบคิดตั้งคำถามต่อตนเองกับปรัชญาที่แฝงไว้รายทางเช่นกัน
ต้องชื่นชมคนเขียนบทการ์ตูนเรื่องนี้ มาถึงภาค 3 ยังไม่มีแผ่วเลย สามารถนำวิชากังฟูและแนวคิดลึกซึ้งเชิงปรัชญาผสานออกมาเป็นการ์ตูนที่กลมกล่อม ได้ครบทั้งสนุก สุข ตื่นเต้น และลึกซึ้ง ให้เด็กดูเป็นการ์ตูนก็ได้ ให้ผู้ใหญ่ดูเพื่อยกระดับความคิดต่อยอดก็ได้เช่นกัน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา