Walk-in Closet Design Part 2 | ว่าด้วยเรื่องประตูของตู้เสื้อผ้า
หลายคนคงเคยมีประสบการณ์การใช้งานตู้เสื้อผ้าจากหลายๆ ที่มาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือคอนโดของตนเอง หรือสถานที่ค้างแรมต่างๆ เช่น อพาร์ทเมนท์ โรงแรม รีสอร์ท
แต่ทุกท่านเคยสงสัยกันไหมครับ ว่าทำไมบางที่จึงเป็นบานเปิด บางที่จึงเป็นบานเลื่อน หรือบางที่ก็มีแต่ชั้นสำหรับวางของกับลิ้นชัก ไม่มีตัวหน้าบานตู้เลย บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจ ถึงวิธีการเลือกออกแบบชนิดหน้าบานของตู้เสื้อผ้า ที่เหมาะสมกับแต่ละสถานที่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านอย่างแน่นอนครับ
Design by Vish Architect Co.,ltd
1. ลักษณะการใช้งาน
แน่นอนว่าห้อง Walk-in closet คือพื้นที่จัดเก็บเครื่องแต่งกายต่างๆ ได้แก่ เสื้อ กางเกง ชุดชั้นใน เนคไท ถุงเท้า ชุดราตรี ชุดสูท หรือบางบ้านอาจมีพื้นที่สำหรับจัดเก็บนาฬิกา รองเท้า เครื่องประดับ กระเป๋าแฟชั่น และกระเป๋าเดินทาง ซึ่งต้องการพื้นที่ในการจัดเก็บที่แตกต่างกัน ความถี่ในการใช้งานที่แตกต่างกัน จึงมีผลต่อการเลือกชนิดของหน้าบานที่แตกต่างกัน
เช่น กระเป๋าแฟชั่น อาจใช้เป็นบานเปิดกระจกใส เพื่อป้องกันฝุ่น สามารถมองเห็นเข้าไปเลือกก่อนเปิดหยิบใช้ และอาจจะเป็นการโชว์ไปในตัว หรือชุดราตรี ที่เราอาจใช้เป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่และสูง เพราะต้องการการแขวนในการเก็บรักษา และตัวหน้าบานยังสามารถติดกระจกเงา ไว้ส่องดูเวลาเลือกชุดได้อีกด้วย
2. ระยะพื้นที่ของห้อง
โดยทั่วไปแล้วห้อง Walk-in closet จะมีพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มาก มักจะถูกจัดสรรเท่าที่จำเป็นต่อการใช้สอย การออกแบบหน้าบานประตูตู้เสื้อผ้า จึงต้องคำนึงถึงระยะการใช้งานต่างๆ เช่น ระยะคนยืน ระยะของคนเข้าใช้งาน ระยะการเปิดปิดตู้ เป็นต้น
ยกตัวอย่างเช่น หน้าบานเปิด จะต้องเผื่อระยะหน้าตู้มากกว่าบานเลื่อน ในขณะที่บานเลื่อนเอง เวลาใช้งานก็ไม่สามารถหยิบของได้พร้อมกัน เพราะต้องเปิดบานสลับกัน เราจึงเห็นในหลายที่ที่พื้นที่ห้องเล็กมากๆ อาจจะเลือกใช้วิธีไม่มีหน้าบาน คือเปลือยตู้โชว์ของภายในตู้ไปเลย
3. ความแข็งแรงและความปลอดภัย
ตามมาตรฐานความแข็งแรงของหน้าบานตู้โดยทั่วไป มักจะอยู่ที่ความกว้างประมาณ 60-70 ซม. และสูงไม่เกิน 2 เมตร ขึ้นอยู่กับลักษณะโครงสร้างวัสดุภายในตัวหน้าบาน และมาตรฐานการรับน้ำหนักของ Fitting (อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์) ไม่เช่นนั้นตัวบานอาจจะมีปัญหาในการใช้งานได้
เช่น หากเป็นหน้าบานเปิด อาจเกิดการตกของบาน ทำให้การเปิดปิดไม่สนิท หรือบานเลื่อนอาจจะเลื่อนไม่ได้ เนื่องจากน้ำหนักบานที่มากเกินไป ทำให้เกิดการตกราง หรือรางฝืดได้
4. งบประมาณ
เรื่องค่าใช้จ่ายก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอีกปัจจัยหนึ่งในการเลือกประเภทของหน้าบานตู้ เนื่องจากแต่ละประเภท มีรายละเอียดวัสดุ โครงสร้าง Fitting และองค์ประกอบอื่นๆ ที่แตกต่างกัน
บานเปิดอาจะเป็นตัวเลือกที่ถูกที่สุด เนื่องจากเป็นงานที่ช่างทำงานไม่ยาก รายละเอียดไม่ซับซ้อน Fitting ก็มีเพียงตัวบานพับถ้วยและมือจับ ในขณะที่บานเฟี้ยมหรือบานเลื่อน จะมีรายละเอียดที่มากกว่า ทำให้ในพื้นที่ที่เท่ากัน บานเฟี้ยมหรือบานเลื่อนจึงมีราคาสูงกว่าบานเปิด
Design by Vish Architect Co.,ltd
5. ความสวยงามของห้องโดยภาพรวม
ข้อสุดท้าย หลังจากพิจารณาหัวข้อ 4 ข้อข้างต้นแล้ว ความสวยงามก็เป็นอีกประเด็นที่สำคัญ เพราะเป็นห้องที่เจ้าของบ้านลงทุนตกแต่งแล้ว จะต้องใช้งานมันในระยะยาว จึงเป็นขั้นตอนที่ต้องพิจารณาในหลายๆ ปัจจัย เช่น
สัดส่วนความเหมาะสมกับร่างกายมนุษย์ ที่มีผลต่อความสะดวกในการใช้งาน หรือองค์ประกอบทางศิลปะ และ mood&tood ที่เกิดจากการเลือกใช้วัสดุ ที่จะมีผลต่อความรู้สึกจากการใช้งาน เช่น อาจเลือกใช้กระจกสีชาในการตกแต่งหน้าบาน หรืออาจจะเป็นลามิเนตลายไม้ธรรมชาติ ซึ่งก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป
เรื่อง-เรียบเรียง | ธิติ เขมการโกศล : สถาปนิก
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
