เกิดอะไรขึ้นกับอังกฤษ เมื่อมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 40,000 คน แต่ยังจะเปิดประเทศตามกำหนดการเดิม พร้อมวางแผนใช้ชีวิตกับโควิดเช่นเดียวกับสิงคโปร์
ยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นสูงคราวนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นของเวฟใหม่เท่านั้น Neil Ferguson นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัย Imperial College London ให้สัมภาษณ์ว่าการระบาดครั้งนี้อาจมีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงถึงวันละ 200,000 คน โดยจะเพิ่มเป็นสองเท่าทุก 2-3 อาทิตย์
รวมถึง รมต. สาธารณสุขของอังกฤษ Sajid Javid ก็ติดโควิดเช่นกัน ทั้งที่ฉีด AstraZeneca ครบสองเข็มแล้ว ซึ่งขณะนี้อังกฤษกำลังเผชิญกับการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลต้า โดยมีงานวิจัยออกมาก่อนหน้านี้ว่าการฉีด AstraZeneca และ Pfizer เพียงเข็มเดียว ป้องกันเดลต้าได้น้อย แต่จากกรณีของ Sajid Javid แสดงให้เห็นว่าถึงแม้ฉีด AstraZeneca สองเข็มแล้วก็ยังติดเชื้อได้ แต่ที่ต่างออกไปคือ เขามีอาการป่วยน้อยมาก ถึงแม้เชื้อกลายพันธุ์เดลต้าจะหลบภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าสายพันธุ์เบต้าเสียอีก ทำให้สามารถกักตัวดูอาการและ work from home อยู่ที่บ้านได้
ซึ่ง Savid Javid ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า เขารู้สึกดีใจที่ได้ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว ทำให้แทบไม่มีอาการป่วยเลย และบอกเพิ่มเติมสำหรับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนว่า ‘รีบออกจากบ้านไปฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้’
worldometers.info
⏩ เมื่อดู จำนวนผู้ติดเชื้อ เปรียบเทียบกับ จำนวนผู้เสียชีวิต และ จำนวนผู้ที่เข้าโรงพยาบาล ของวันที่ 17 กรกฎาคม 2021 พบว่าในขณะที่ผู้ติดเชื้อรายวันสูงถึง 54,674 คน แต่มีจำนวนผู้ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล 740 คน และผู้เสียชีวิตรายวัน 41 คน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก (น้อยกว่าประเทศไทยขณะนี้ด้วยซ้ำ ทั้งที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่าถึง 5 เท่า)
coronavirus.data.gov.uk
สาเหตุหลักน่าจะมาจากอัตราส่วนการฉีดวัคซีนให้กับประชากรภายในประเทศ นับถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2021 อังกฤษสามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกไปได้ 87.8% ของประชากรทั้งหมด และ ฉีดครบสองเข็มไปได้ 67.8% ของประชากรทั้งหมด โดยวัคซีนหลักที่ใช้คือ AstraZeneca และ Pfizer
กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษรายงานว่า เมื่อฉีด AstraZeneca ครบสองเข็มสามารถป้องกันการติดเชื้อเดลต้าแบบแสดงอาการได้ 60% และ เมื่อฉีด Pfizer ครบสองเข็มสามารถป้องกันการติดเชื้อเดลต้าแบบแสดงอาการได้ 88%
coronavirus.data.gov.uk
เนื่องด้วยสัดส่วนการฉีดวัคซีนของประชากรในประเทศค่อนข้างสูง อังกฤษจึงยังคงแผนเปิดประเทศเต็มรูปแบบในวันที่ 19 กรกฎาคม 2021 ตามเดิม Boris Johnson นายกรัฐมนตรีของอังกฤษยืนยันว่าจะยกเลิกมาตรการรักษาระยะห่างทุกอย่าง กลับมาใช้ชีวิตปกติ เปิดร้านอาหาร ผับ บาร์ เพราะมองว่าโควิดยังจะอยู่อีกนาน จึงเตรียมแผนรับมือให้สามารถใช้ชีวิตกับโควิดได้ โดยใช้การฉีดวัคซีนและเพิ่มปริมาณการตรวจเชื้อให้มากขึ้นไปอีก ซึ่งจะสามารถแยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้ไม่ติดเชื้อได้โดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเสียงคัดค้านการยกเลิกมาตรารักษาระยะห่างทุกรูปแบบ เนื่องจากกลัวว่าระบบสาธารณสุขของอังกฤษอาจจะรับมือไม่ไหวถ้าผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น จนอาจจะถึงหลักแสนในฤดูร้อนนี้ นักวิชาการหลายคนออกมาให้ความเห็นว่าถึงแม้จะเปิดประเทศแล้วก็ควรรักษาระยะห่างตามเดิม และควรใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งหากไปสถานที่แออัด
นายกรัฐมนตรี Boris Johnson กล่าวว่าอังกฤษประสบความสำเร็จในการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชากร จึงสามารถช่วยให้อังกฤษรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดได้ดีขึ้นมากเปรียบเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่ยังไม่มีวัคซีน แต่ก็ไม่ได้ประมาท เพราะหากเปิดประเทศแล้วไม่สามารถควบคุมการติดเชื้อได้ อาจจะต้องกลับไปล็อคดาวน์อีกครั้ง
ตามรูปด้านล่าง เปรียบปัจจุบัน (Autumn 2021) กับช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว (Autumn 2020) จะพบว่าถึงแม้จำนวนผู้ติดเชื้อปัจจุบันจะมากกว่า (กราฟสีฟ้า) แต่จำนวนผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด (กราฟสีเขียว)
จำนวนผู้ติดเชื้อ [bbc.com]
จำนวนผู้ที่เข้ารักษาในโรงพยาบาล [bbc.com]
References >>
- 411
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
