18 ก.ค. 2021 เวลา 14:36 • สุขภาพ
ไวรัสเดลต้า (Delta) แพร่รวดเร็วกว่าที่คิดไว้มาก ขณะนี้ครองกรุงเทพฯไปแล้ว 57.1% และครองการติดเชื้อเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศคือ 46.1%
9
มีคำถามที่หลายท่านสงสัย ว่าทำไมสถานการณ์โควิดระบาดระลอกที่สามของประเทศไทย จึงมีความรุนแรงมาก
โดยเฉพาะในประเด็นของผู้ติดเชื้อ ที่รวดเร็วและกว้างขวางขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก
1
ถ้าเทียบกับระลอกที่สอง มากกว่าถึง 13 เท่าตัว ( 24,863 ราย : 334,166 ราย)
คำตอบสำหรับคำถามนี้ก็คือ
2
ไวรัสที่กำลังระบาดในระลอกที่สามนี้เป็นคนละสายพันธุ์กับที่เคยระบาดในระลอกที่หนึ่งและระลอกที่สอง
2
ไวรัสที่ระบาดในระลอกที่หนึ่งกับสองได้แก่ไวรัสสายพันธุ์หลักเดิมหรือสายพันธุ์อู่ฮั่นประเทศจีน
แต่ในระลอกที่สาม ช่วงแรกเป็นไวรัสสายพันธุ์อัลฟ่าของอังกฤษ และตามมาด้วยไวรัสสายพันธุ์เดลต้าของอินเดีย
4
ลำพังสายพันธุ์อัลฟ่าก็มีความสามารถในการแพร่เชื้อเพิ่มมากกว่าสายพันธุ์เดิมอยู่แล้วถึง 70%
1
ส่วนไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ก็มีความสามารถในการแพร่เชื้อมากกว่าสายพันธุ์อัลฟ่าเพิ่มขึ้นไปอีก 60% หรือมากกว่าสายพันธุ์หลักเดิมกว่า 100%
1
ถ้าเทียบความสามารถของการแพร่ระบาด จะพบว่าสายพันธุ์เดลต้ามีความสามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วรุนแรงกว่าสายพันธุ์อัลฟ่ามากทีเดียว
2
ดูจากสถิติที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวบรวมไว้จากการตรวจยีนส์หรือจีโนมของไวรัสที่พบในผู้ติดเชื้อรายใหม่ของแต่ละสัปดาห์
จะพบการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมากมาย ของไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ดังนี้
1
1 เมย-20 มิย 2564
พบอัลฟ่า 89.0%
เดลต้า 10.4%
21 มิย-27 มิย 2564
พบอัลฟ่า 80.2%
เดลต้า 16.6%
28 มิย-2กค 2564
พบอัลฟ่า 65.1%
เดลต้า 32.2%
1
3-9 กค 2564
พบอัลฟ่า 51.8%
เดลต้า 46.1%
1
จะเห็นได้ว่าในช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดือน ไวรัสเดลต้าได้เพิ่มจาก 10.4% เป็นมากถึง 46.1% ซึ่งถือว่ารวดเร็วมาก
ถ้าดูเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร พบสายพันธุ์เดลต้าถึง 57.1% ในการเก็บตัวอย่างช่วงวันที่ 3-9 กรกฎาคมและอัลฟ่าตกลงไปเหลือเพียง 42.9%
ในส่วนภูมิภาค
พบเดลต้า 22.9%
และอัลฟ่า 70.5%
สถิติดังกล่าวนี้ จึงเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลต้ามีความสามารถในการแพร่ระบาดรวดเร็วและกว้างขวาง มากกว่าอัลฟ่ามาก และสามารถเบียดขึ้นครองตำแหน่งเป็นสายพันธุ์หลักในกรุงเทพได้แล้ว โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งเดือน
1
คาดว่าจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของประเทศไทยภายในอีกไม่เกินหนึ่งเดือนข้างหน้านี้
1
มาตรการต่างๆที่ใช้ในการรับมือในการควบคุมการแพร่ระบาด จึงไม่สามารถใช้ฐานคิดหรือประสบการณ์เดิม ที่เคยใช้ได้ผลในระลอกที่หนึ่งและระลอกที่สองได้อีกต่อไป
ทั้งมาตรการขอความร่วมมือให้ทำงานที่บ้าน
มาตรการเคอร์ฟิวบางเวลาบางพื้นที่มาตรการเปิดร้านค้าตลาดหรือกิจการบางอย่าง
มาตรการขอความร่วมมือให้ลดการเดินทาง
มาตรการลดการรวมกลุ่มกัน
ล้วนแต่ไม่สามารถรับมือกับไวรัสสายพันธุ์เดลต้าได้
เพราะเมื่อศัตรูหรือไวรัส เป็นคนละตัวกันและเก่งขึ้นมาก มาตรการต่างๆจึงต้องเข้มข้นมากขึ้นเป็นเงาตามตัวด้วย
2
จึงจะสามารถรับมือได้ทัน
1
การประกาศล็อกดาวน์เข้มงวด ( Strict Lockdown ) ที่รัฐบาลกำลังเตรียมการประกาศ จึงเป็นความหวังที่มีความจำเป็นอย่างมาก จะต้องเร่งประกาศออกมาโดยเร็ว
และที่ต้องพูดต้องย้ำกันทุกครั้งก็คือ ต้องวางแผนวางระบบในการออกมาตรการเยียวยารองรับผลกระทบของการล็อกดาวน์เข้มงวด
เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เหลือน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งก็คงจะยังเหลือผลกระทบมากพอสมควรทีเดียว
ส่วนเรื่องกรณีของวัคซีน ก็จะต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้เป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ไปรออยู่ที่ปลายปีนี้
5
และเร่งควบคุมการระบาดด้วยมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงนี้ไปพลางก่อน จนกว่าจะมีภูมิคุ้มกันหมู่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ยังไม่นับถึงกรณี มีไวรัสกลายพันธุ์ไปจากสายพันธุ์เดลต้า และมีความสามารถในการแพร่ระบาดได้มากหรือดื้อต่อวัคซีนทุกชนิดของรุ่นที่หนึ่ง
ก็จะเกิดปัญหาต้องใช้วัคซีนรุ่นที่สอง ที่สามารถรับมือกับไวรัสที่กลายพันธุ์ใหม่นั้นได้
มาตรการล็อกดาวน์ของประเทศต่างๆทั่วโลก จึงอยู่ที่ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์จะเป็นผู้กำหนดว่ามนุษย์จะต้องทำอย่างไร ไม่ใช่มนุษย์เป็นผู้กำหนดอีกต่อไปครับ
1
Reference
1
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
กระทรวงสาธารณสุข
โฆษณา