19 ก.ค. 2021 เวลา 08:39 • สุขภาพ
วัคซีนโควิดเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเป็นลำดับที่ 4 Novavax ของสหรัฐฯ ป้องกันได้ 89.7% Abdala ของคิวบาป้องกันได้ 92.28%
4
จากที่โลกเรา ได้มีการวิจัยพัฒนา วัคซีนหลากหลายเทคโนโลยี ต่อเนื่องกันมาเป็นลำดับ
1
โดยเทคโนโลยีที่สามารถผลิตวัคซีนได้มีมากกว่า 10 ชนิดด้วยกัน แต่จนถึงปัจจุบัน มีวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติให้ฉีดในสถานการณ์ฉุกเฉิน( EUA) แล้ว 3 เทคโนโลยีได้แก่
1) เทคโนโลยีเชื้อตาย (Inactivated vaccine) ตัวอย่างเช่น Sinovac และ Sinopharm ของประเทศจีน
2) เทคโนโลยีไวรัสเป็นพาหะ (Viral Vector) ตัวอย่างเช่น AstraZeneca ของอังกฤษ , Johnson & Johnson ของสหรัฐอเมริกา และ Sputnik V ของรัสเซีย
2
3) เทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ตัวอย่างเช่น Pfizer และ Moderna ของสหรัฐอเมริกา
แต่ยังมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโควิดที่สำคัญ และมีความก้าวหน้ามาก จะติดตามมาเป็นเทคโนโลยีที่ 4 ที่สามารถฉีดให้กับคนได้จริงคือ เทคโนโลยีโปรตีนเป็นฐาน (Protein Based vaccine)
3
ซึ่งขณะนี้ ประเทศไทยได้ให้ความสนใจ โดยผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้ประสานเบื้องต้นเพื่อขอจองวัคซีนแล้วสองบริษัทด้วยกัน คือ
2
Novavax ของสหรัฐอเมริกา
Abdala ของคิวบา
วันนี้จึงมีความเหมาะสม ที่จะมาทำความรู้จักกับวัคซีนที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีโปรตีนเป็นฐานกัน
เทคโนโลยีนี้คือ การนำบางชิ้นส่วนของไวรัสที่เป็นโปรตีน ( Protein Subunit) ฉีดเข้าไปในร่างกายมนุษย์ เพื่อให้กระตุ้นภูมิต้านทาน โดยใส่ตัวกระตุ้นเสริม (Adjuvant) เข้าไปด้วย
3
วัคซีนตัวที่หนึ่ง Novavax
ผลิตโดยบริษัทของสหรัฐอเมริกา
มีประสิทธิผลป้องกันได้ 89.7%
ฉีดสองเข็มห่างกัน 3 สัปดาห์
เก็บที่อุณหภูมิตู้เย็น (2-8 องศาเซลเซียส)
สิงหาคม 2563
มีการทดลองเฟส 2 อาสาสมัคร 2,900 คน
ในประเทศแอฟริกาใต้
1
กันยายน 2563
ทดลองเฟส 3 อาสาสมัคร 15,000 คน
ในประเทศอังกฤษ
และเดือนเดียวกัน ได้ทำความตกลงกับสถาบัน
ซีรั่มของอินเดีย ที่จะผลิตให้ 2,000 ล้านโดสต่อปี
1
ธันวาคม 2563 วิจัยทดลองเฟส 3
ในสหรัฐอเมริกา
11 มีนาคม 2564
ผลการวิจัยเฟส 3 ที่อังกฤษ
ออกมาดีมาก มีประสิทธิผลต่อ
ไวรัสสายพันธุ์หลัก 96.4%
ไวรัสสายพันธุ์อัลฟ่าได้ 86.3%
แต่ป้องกันสายพันธุ์เบต้าในประเทศแอฟริกาใต้ ไม่ค่อยดีได้เพียง 49%
1
สามารถป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงต้องนอนโรงพยาบาลหรือเข้าไอซียูได้ 100%
1
จะเริ่มผลิตอย่างเป็นทางการ ในเดือนกรกฎาคม 2564 และกำลังการผลิตจะเต็มที่ในเดือนธันวาคม 2564
1
วัคซีนตัวที่สอง Abdala
วัคซีนของคิวบา
จากการทดลองเฟส 3 ให้ประสิทธิผลป้องกันโรคสูงถึง 92.28%
18 มีนาคม 2564 วิจัยพัฒนาเฟส 3
ในอาสาสมัคร 48,000 คน
21 มิถุนายน 2564 รัฐบาลคิวบา
แถลงถึงประสิทธิผล 92.28%
9 กรกฎาคม 2564 จดทะเบียนใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (EUA) ในคิวบา
ยังมีวัคซีนที่อยู่ในเฟส 3 ด้วยเทคโนโลยีโปรตีนเป็นฐานอีกหลายบริษัท ที่น่าสนใจได้แก่
BEKTOP ของรัสเซีย
ZFSW ของจีน
1
ส่วนวัคซีนของไทย ที่ใช้เทคโนโลยีโปรตีนเป็นฐาน ได้แก่ บริษัทใบยาไฟโตฟาร์ม ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพอยู่ภายใต้การสนับสนุนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
4
จะเริ่มทดลองเฟส 1 ในมนุษย์ กันยายน 2564
โดยพบว่าการทดลองเข็มสามในลิงสามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลต้าได้ดี
1
คาดว่าจะสามารถฉีดให้กับคนทั่วไปในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ ในต้นปีหน้า
1
มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 12-60 ล้านโดสต่อปี
วัคซีนที่ใช้โปรตีนเป็นฐาน จึงเป็นเทคโนโลยีที่ 4 ของโลก และมีประสิทธิผลค่อนข้างสูงจากงานวิจัยเฟส 3
การที่ประเทศไทย ได้เริ่มติดต่อกับทั้งของสหรัฐและคิวบาแล้ว ต้องถือว่าเป็นแนวคิดและการปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสม
1
รวมทั้งการที่รัฐบาลให้ความสนับสนุนบริษัท
ใบยาไฟโตฟาร์ม ก็จะทำให้ไทยมีโอกาสได้ใช้วัคซีนเทคโนโลยีที่ 4 ในเร็ววันนี้ครับ
1
Reference
1
โฆษณา