Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Story Top Up
•
ติดตาม
19 ก.ค. 2021 เวลา 14:12 • ธุรกิจ
คิดถึงกันไหม 13 เหรียญ ร้านอาหารในความทรงจำที่ยังมีลมหายใจ
เอ่ยชื่อร้าน 13 เหรียญ ใครที่มีอายุหน่อยน่าจะรู้จักเป็นอย่างดีและคงเคยอุดหนุนกันมาบ้างแล้ว
ภาพลักษณ์ของร้านอาหารเก่าแก่อายุกว่า 45 ปี ที่ขายอาหารแนวตะวันตก ตกแต่งสไตล์คันทรี มีเมนูอาหารมากมายในราคาคุ้มค่า ซึ่งสมัยก่อนเรามักเห็นตามสถานที่ต่างๆ และในห้างสรรพสินค้า
ซึ่งในช่วงหลังมานี้ 13 เหรียญ อาจไม่ได้โด่งดังเหมือนสมัยก่อน จำนวนสาขาหดหายไปหมด จนทำให้หลายคนคิดว่าร้าน 13 เหรียญ น่าจะปิดกิจการไปเรียบร้อย
อันที่จริงแล้ว 13 เหรียญ ไม่ได้หายไปไหน ปัจจุบันยังเปิดให้บริการอยู่จำนวน 3 สาขา
แต่เรื่องราวของ 13 เหรียญ เป็นมาอย่างไร มาดูกัน
ร้านอาหาร 13 เหรียญ ก่อตั้งโดย คุณสมชาย นิติวนะกุล หรือ เฮียก๊ก เปิดสาขาแรกเมื่อปี พ.ศ. 2519
คุณสมชายเกิดในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง คุณพ่อเป็นหัวหน้าเชฟที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ส่วนคุณแม่เป็นช่างเย็บเสื้อผ้า
ด้วยความที่มีสายเลือดพ่อครัว คุณสมชายจึงสนใจเรื่องของอาหารและซึมซับจากคุณพ่อมาตั้งแต่เด็ก
เมื่อปี พ.ศ. 2510 เขากับเพื่อนก็มีโอกาสได้ไปทำงานที่ร้านสเต็กที่เมืองวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ด้วยวัยเพียง 18 ปี
จากการที่เป็นคนที่เอาจริงเอาจัง ทำงานทุกอย่างภายในร้าน ตั้งแต่ล้างจาน เก็บจาน ไปจนถึงช่วยงานเชฟ ใช้เวลาไม่นานก็ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้าน
หลังจากที่ทำงานมาหลายปี เขาได้สังเกตเห็นว่าประเทศไทยยังไม่ค่อยมีร้านอาหารแนวตะวันตก โดยเฉพาะเมนูอย่างสเต็กที่มักจะมีตามร้านหรูในโรงแรม
ด้วยความที่อยากให้คนบ้านเราได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อยของสเต็กแบบอเมริกันในราคาที่เอื้อมถึง
เขาจึงตัดสินใจกลับเมืองไทยและเปิดร้านแห่งแรกบริเวณปากซอยรามคำแหง 29 ตั้งชื่อว่าร้าน "13 เหรียญ"
เปิดร้านได้ไม่นานปรากฏว่าได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากร้านสเต็กถือเป็นสิ่งใหม่สำหรับผู้บริโภคชาวไทยในยุคนั้น
เอกลักษณ์ของ 13 เหรียญ ก็คือการตกแต่งร้านแนวคาวบอย จุดเด่นอยู่ที่มีเมนูให้เลือกจำนวนมาก รสชาติถูกปากคนไทย และที่สำคัญเป็นอาหารจานใหญ่ในราคาคุ้มค่า
การตกแต่งภายในร้าน 13 เหรียญ (ภาพจาก bizpromptinfo)
ด้วยกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด คุณสมชายจึงเดินหน้าขยายสาขาทั้งรูปแบบสแตนด์อะโลนและอยู่ในห้างสรรพสินค้าจนเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว มีจำนวนกว่า 40 สาขา ทั่วประเทศ
ถือได้ว่า 13 เหรียญ เป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารชื่อดังในสมัยนั้น
แล้วอะไรเป็นสาเหตุให้สาขาของ 13 เหรียญ ได้ทยอยปิดตัวลงไป
เมื่อประสบความสำเร็จในธุรกิจร้านอาหารแล้ว คุณสมชายเริ่มขยายไปสู่ธุรกิจโรงแรมและที่พักภายใต้แบรนด์ 13 เหรียญรีสอร์ท
ยุคนั้นร้านอาหาร 13 เหรียญ บางแห่งก็เปิดให้บริการห้องพักบริเวณชั้นบนด้วย
นอกจากนี้ยังได้เปิดค่ายมวยชื่อ “13 เหรียญ พระรามเก้า” จากความชื่นชอบกีฬามวยของตัวเขาเอง
จากจุดนี้เองอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่คุณสมชายให้ความสำคัญกับร้านอาหารน้อยลง เนื่องจากต้องดูแลธุรกิจใหม่หลายอย่าง
คุณภาพของร้าน 13 เหรียญ จึงไม่เหมือนในช่วงที่เปิดสาขาแรกๆ
ประกอบกับเริ่มมีแบรนด์ร้านอาหารสมัยใหม่เข้ามาเป็นคู่แข่งในตลาด ผู้คนก็มีทางเลือกมากขึ้น ความนิยมร้านอาหารที่ดูทันสมัยก็เพิ่มขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ทั้งหมดนี้ทำให้โมเดลธุรกิจของ 13 เหรียญ ที่ใช้มายาวนาน เริ่มไม่เหมาะกับสภาวะธุรกิจร้านอาหารที่มีการแข่งขันกันรุนแรง
และในที่สุดก็มิอาจฝืนต่อไปได้ ต้องทยอยปิดตัวลงไปเรื่อยๆ จนเหลืออยู่เพียงแค่ 3 สาขา
ในวันนี้ 13 เหรียญ มีคุณพรวฤณ นิติวนะกุล ทายาทของคุณสมชายเข้ามาดูแลกิจการต่อเป็นรุ่นที่ 2
ด้วยความผูกพันกับร้าน 13 เหรียญ มาตั้งแต่เด็ก ก็ไม่อยากให้กิจการมีอันต้องล้มไป
คุณพรวฤณเลยตัดสินใจลุกขึ้นสู้อีกครั้ง โดยเลือกโฟกัสเฉพาะธุรกิจร้านอาหารและลงมือรีแบรนด์ใหม่
เริ่มต้นจากการรีโนเวทสาขาสุขุมวิท 49 ซึ่งเป็น 1 ใน 3 สาขา ที่ยังเปิดให้บริการอยู่ เปลี่ยนภาพลักษณ์จากร้านแนวคันทรีเป็นตกแต่งในสไตล์เรียบง่ายดูทันสมัย แต่ก็ยังคงกลิ่นอายความเป็น 13 เหรียญ แบบดั้งเดิม
ร้าน 13 เหรียญ สาขาสุขุมวิท 49 (ภาพจาก today.line.me และ wongnai)
ส่วนเรื่องแนวทางการทำงานก็ปรับเปลี่ยนใหม่จากเดิมที่มีเมนูอาหารจำนวนมากเกือบ 100 อย่าง ซึ่งบางเมนูนานๆ ที ถึงจะมีลูกค้าสั่งสักครั้งหนึ่ง ทำให้ต้องสิ้นเปลืองการสต็อกวัตถุดิบ จึงปรับลดเมนูเดิมและพัฒนาเมนูสมัยใหม่เสริมเข้าไป จนมีอาหารอยู่ประมาณ 40 อย่าง เพื่อให้การจัดการวัตถุดิบมีประสิทธิภาพมากขึ้น
และที่สำคัญยังคงเมนูซิกเนเจอร์ดั้งเดิมของ 13 เหรียญ เอาไว้ทั้งหมด อย่างเช่น ไก่อลาสก้า หอยลายอบเนยกระเทียม สลัดทาโก้
ไก่อลาสก้า หอยลายอบเนยกระเทียม สลัดทาโก้ (ภาพจาก today.line.me)
ด้วยความที่ 13 เหรียญ เริ่มต้นมาจากธุรกิจครอบครัวจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับการตลาดมากนัก
คุณพรวฤณก็ปรับธุรกิจให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน โดยเริ่มทำการตลาดออนไลน์และขายผ่านแอพพลิเคชั่นส่งอาหารต่างๆ
ในวันนี้เราคงยังไม่รู้ว่าบทสรุปของ 13 เหรียญ บนสมรภูมิธุรกิจร้านอาหารจะเป็นอย่างไร
แต่เชื่อว่าบรรยากาศของตำนานร้านสเต็กสไตล์คาวบอยที่มาพร้อมกับเมนูจานใหญ่สุดคุ้มค่าจะยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน
เขียนมาถึงตรงนี้ ชักรู้สึกอยากกินเมนูในวันวานอย่างไก่อลาสก้าซะแล้ว
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
หนังสือ “จากศูนย์เป็น 1,000 ล้าน สมชาย นิติวนะกุล”
https://www.dailynews.co.th/article/838134/
https://www.facebook.com/13coinsbangkok/
https://www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/1338
https://www.wongnai.com/delivery/businesses/763351ao/order?af_channel=f97fe5c432e1eda662377bf898ccc14c&af_force_deeplink=true&c=share_link&pid=lineman_app
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย