เจาะ RBF กับเทรนด์อาหารแห่งอนาคต
ภายใต้การนำทัพของ “พ.ต.พญ.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ”
เมื่อพูดถึง “ของอร่อย” แล้วล่ะก็ หลายๆคนอาจจะคิดว่ายังเป็นแค่เรื่องของรสชาติที่ทำให้อาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มเหล่านั้นมีความอร่อย
โดยถ้าเราลองใส่ใจรายละเอียดกันดูสักนิดก็จะพบว่ารสชาตินั้นเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งที่ถูกใช้เป็นตัวชี้วัดจากคนส่วนใหญ่ แต่อย่าลืมนะครับว่าอาหารที่สมบูรณ์แบบจะต้องมีทั้ง
รูป คือหน้าตาที่น่ากิน, รส คือรสชาติที่อร่อย, กลิ่น คือกลิ่นที่หอม, สัมผัส คือความนุ่ม ความกรอบ ความยืดที่พอดี และประโยชน์ คือคุณค่าทางอาหารของอาหารชนิดนั้นๆ
ซึ่ง Keyword ทั้ง 5 อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นก็คือแนวทางที่บริษัทอย่าง RBF ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และในวันนี้เราไปลองเจาะหุ้นตัวนี้เลยดีกว่าครับว่า
RBF เริ่มต้นมายังไง ? ทำอะไร ? และมีกลยุทธ์ไหนบ้างที่จะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในอนาคต ?? เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับ
RBF หรือบมจ. อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2534 ด้วยการเป็นผู้ผลิตสินค้าประเภทกลิ่น & รสชาติให้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหาร รวมไปถึงการเป็นผู้ผลิตเกล็ดขนมปังชั้นนำในประเทศไทย
ด้วยการก่อตั้งขึ้นโดย “ดร. สมชาย รัตนภูมิภิญโญ” ซึ่งจบการศึกษาวิทยาศาสตร์ด้านเคมีจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานที่ต่างประเทศ
จนมาเจอจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ RBF เติบโตขึ้นมาแบบก้าวกระโดดก็คือการคว้าดีลลูกค้าเครื่องดื่มบำรุงกำลังรายใหญ่ได้ และในที่สุดก็ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดไปเมื่อเดือนตุลาคม 62 ด้วยจุดมุ่งหมายคือการระดมทุน & สร้างความน่าเชื่อถือให้ RBF สามารถเติบโตไปอีกขั้น
โดยปัจจุบัน RBF จะถือว่าเป็นเบอร์หนี่งของผู้ดำเนินธุรกิจผลิต & จำหน่ายส่วนประกอบอาหาร (Food Ingredients) ในประเทศไทย ผ่านการนำทัพของทายาทรุ่นที่สองอย่าง “พ.ต.พญ.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ”
มีกลุ่มสินค้าทั้งหมด 6 กลุ่มได้แก่กลุ่มวัตถุแต่งกลิ่น รส & สีผสมอาหาร, กลุ่มแป้ง & ซอส, กลุ่มผลิตภัณฑ์อบแห้ง, กลุ่มอาหารแช่แข็ง, กลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกรวมไปจนถึงธุรกิจเทรดดิ้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้แก่ สารกันบูด สารกันรา กรดมะนาว นมผง และปลอกไส้กรอก เป็นต้น
กับฐานการผลิตทั้งหมด 7 แห่งภายในประเทศไทย และบริษัทย่อยที่อยู่ในประเทศอีกจำนวน 3 บริษัท ในประเทศเวียดนาม 1 บริษัท ประเทศอินโดนีเซีย 2 บริษัท และสาธารณรัฐประชาชนจีน 1 บริษัท
💰งบการเงินของ RBF
ปี 2561 รายได้ 2,749.59 ล้านบาท
กำไร 323.75 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 2,881.99 ล้านบาท
กำไร 352.78 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 3,187.27 ล้านบาท
กำไร 519.02 ล้านบาท
(ล่าสุด)ไตรมาส 1 ปี 2564
รายได้ 849.85 ล้านบาท
กำไร 75.02 ล้านบาท
ซึ่งเทรนด์ของอาหารในอนาคตอย่างแรกที่ “พ.ต.พญ.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ” ได้กล่าวว่า RBF ก็คือสิ่งที่เรียกว่า Functional Flavor หรือวัตถุแต่งกลิ่น & รสอาหาร ที่มี Function หลากหลายมากกว่าแบบเดิม ยกตัวอย่างเช่นเมื่อผสมลงไปแล้วทำให้อาหารมีความคงทนหรืออายุที่ยาวนานขึ้น หรืออาจจะเป็นการผสมเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารที่มีต่อร่างกายมนุษย์ให้มากขึ้น ด้วยสารตั้งต้นจากธรรมชาติทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีเทรนด์รักสุขภาพที่กำลังขยายตัวไปทั่วทั้งโลกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะเทรนด์รับประทานมังสวิรัติ “วีแกน” (Vegan) ที่หลักๆแล้วจะไม่บริโภคอาหารที่มาจากสัตว์ ส่งผลให้กลุ่มอาหารที่ทำมาจากพืชซึ่งให้โปรตีนสูง เช่น ถั่ว เห็ด สาหร่าย อัลมอนด์ ฯลฯ หรือเรียกง่ายๆว่า Plant-based Food กลายมาเป็นเทรนด์ธุรกิจที่น่าสนใจด้วยเช่นกัน
ส่วนทางพ.ต.พญ.จัณจิดา ก็ได้กล่าวว่าปัจจุบันการที่ Plant-based Food จะเข้ามาแทนที่เนื้อสัตว์ในระยะสั้นยังถือว่าเป็นไปได้ยากเพราะเรื่องต้นทุนและราคาขายที่ยังสูงกว่าเนื้อสัตว์จริงอยู่พอสมควร แต่เมื่อไหร่ที่ตลาดของ Plant-based Food เริ่มมีสเถียรภาพขึ้นและสามารถทำราคาขายให้ถูกลงได้ตอนนั้นก็อาจจะไม่แน่ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการกลางน้ำอย่าง RBF
เทรนด์สุดท้ายก็คือเรื่องของ "กัญชง กัญชา และกระท่อม" ที่ล่าสุด RBF ได้ใบอนุญาตเพาะปลูก & ใบอนุญาตสกัดน้ำมันจากเมล็ดกัญชงเพิ่มเติมจากที่ก่อนหน้านี้ที่ได้รับใบอนุญาตโรงงานสกัดสาร CBD & THC จากกัญชงรายแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จาก อย. ไปเรียบร้อยแล้ว
ส่งผลให้ RBF มีบทบาทครบวงจรในธุรกิจกัญชงตั้งแต่ต้นน้ำคือการปลูกกัญชง เพื่อส่งต่อมากลางน้ำคือโรงงานสกัดของ RBF ที่จะผลิตสาร CBD เพื่อส่งต่อไปให้กลุ่มปลายน้ำคือผู้ผลิตสินค้าต่างๆ โดยพ.ต.พญ.จัณจิดา มองว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาทั้งเกษตรกร โรงงานสกัด และผู้ผลิตสินค้า เพื่อคุณภาพที่ดีและพิสูจน์ตัวเองให้เวทีโลกเห็น
ถึงแม้ว่าเทรนด์ของอาหารในปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเร็ว แต่พ.ต.พญ.จัณจิดา ก็มองว่าอุตสาหกรรมอาหารนั้นยังคงเป็นอะไรที่มนุษย์ต้องกินเข้าไปในร่างกายอยู่ตลอดทุกวันดังนั้นอุตสาหกรรมนี้จึงค่อนข้างมีความมั่นคง ซึ่งทางบริษัทก็ยังมี Research and Development (R&D) ที่แข็งแกร่งและทำให้ RBF จับกระแสอาหารได้อย่างรวดเร็วอยู่นั่นเอง
และทั้งหมดที่พวกเรา หุ้นพอร์ทระเบิด ได้เล่าให้ฟังไปนั้นก็น่าจะพอช่วยให้เพื่อนๆได้ทราบว่า RBF เริ่มต้นมายังไง ? ทำอะไร ? และมีกลยุทธ์ไหนบ้างที่จะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในอนาคต ?? ไปเรียบร้อยแล้ว ถือว่าเป็นบริษัทอาหารยุคใหม่อีกบริษัทนึงที่มีความน่าสนใจเลยทีเดียว
ขอขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกทุกท่านที่เข้ามาอยู่ด้วยกันในวันนี้ด้วยนะครับ ช่วงนี้อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพของตัวเอง ครอบครัว และคนที่ท่านรักให้ปลอดภัยห่างไกลเชื้อไวรัส Covid-19
สำหรับในวันนี้ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ...
สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้การปั้นพอร์ทให้โตระเบิดไปกับเรา
- 20
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
