ชีวิตเราไม่ใช่ "อะไรก็ได้"
จงอย่าปล่อยให้ "อะไรก็ได้" เข้ามาในชีวิต
คุณแม่ที่ยังสับสนกับตนเอง ปรับตัวยังไม่ได้
ยังมึนๆ กับอะไรหลายๆ อย่างที่ปะเดปะดังเข้ามา
ณ ตอนนี้ วินาทีนี้ สิ่งที่จะช่วยแม่ๆ ได้คือ
"การตั้งสติ" ไม่ว่าก่อนหน้านี้คุณแม่จะเคยใช้ชีวิต
แบบสบายๆ ชิวๆ ปล่อยให้ชีวิตหมุนเวียนไปตาม
กระแสสังคม ปล่อยให้อะไรก็ได้เข้ามาในชีวิต
เราก็ยินดีรับมันเอาไว้ทั้งหมด
โดยที่ไม่ได้เลือก ไม่ได้คัดกรอง โดยที่ไม่เคย
เคลียร์ข้อมูลเหล่านั้นออกจากคลังข้อมูลหรือที่เรียกว่า "สมอง" ของเราเลย
เพราะคิดว่ามันคงไม่เป็นไร "ด้วยความไม่รู้"
และคาดไม่ถึงว่าทุกข้อมูล ทุกคำพูดที่เรารับ
มานั้นมันมีอิทธิพลและส่งผลกับเราได้มากขนาดไหน
ข้อมูลและผู้คนที่วนเวียนอยู่ในวิถีชีวิต อยู่ในวงจรชีวิตประจำวันของเรา มันกำลังหล่อหลอมตัวเรา นิสัยเรา
ให้เรากลายเป็นคนที่ "อะไรก็ได้" ที่สังคมเห็นว่าดี
ที่สังคมคิดว่าดี ที่สังคมหรือคนส่วนใหญ่
ตัดสินว่านั่นคือสิ่งดี มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
เพราะได้รับการยอมรับจากคนหมู่มาก หรือ
เรียกว่าเป็นที่ยอมรับของสังคมนั้นๆ
โดยเราแยกแยะไม่ออกเลยว่าสิ่งที่คิดว่าดี
สิ่งที่ทำหรือปฏิบัติอยู่นั้นมันดี สิ่งที่ชอบพูดกัน
นั้นมันดี หรือสิ่งที่ตามๆ กันไปนั้นมันถูกต้อง
และดีจริงเหรอ?
จนเราปล่อยให้ตัวเองเป็นอะไรก็ได้ มีอะไรก็ได้
พูดอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ คิดอะไรก็ได้ จนชีวิต
ไม่มีแก่นสาร ไม่รู้จักแยกแยะ คัดกรองหรือ
ไตร่ตรองก่อนจะรับเอาสิ่งต่างๆ เข้ามาในชีวิต
ในสมองของเรา ว่าสิ่งนั้นมันตรงกับความเป็นเรา
หรือเปล่า สนับสนุนเป้าหมายเราหรือเปล่า
จะนำเราไปสู่รูปแบบชีวิตที่เราต้องการหรือเปล่า
ตามๆ กันไป พากันไปตามร่องความคิด
ตามกระแสพลังงานหมู่มากที่ช่วยกัน ร่วมกัน
สร้างมันขึ้นมา และสรุปกันไปเองว่า "มันดี"
จนไม่หลงเหลือ "ตัวตนจริงๆ" หรือ "ตัวตนที่แท้จริง"
ของการเป็นตัวของตัวเองอยู่เลย เพราะเราปล่อย
ให้ตัวเอง "อะไรก็ได้" โดยไม่มีจุดยืนของตัวเอง
ใช้ชีวิตแบบไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน
เลยไม่รู้ทิศทางของตนเอง จึงไม่มีโฟกัส
อะไรที่เขาว่าดี อะไรที่ป็นกระแสก็แห่กันไป
ก็รับเอามาบำรุงบำเรอตัวเองเพราะกลัว
จะตกเทรนด์ กลัวไม่เข้าพวก กลัวแตกต่าง
จริงๆ แล้ว สิ่งที่ดีหรือไม่ดี มันไม่มีอยู่จริง
มันเป็นสิ่งที่แต่ละสังคมนิยามหรือกำหนด
กันขึ้นมาเอง
สิ่งหนึ่งอยู่ในสังคมนี้สรุปกันว่าดี แต่หากเปลี่ยน
หรือย้ายไปอยู่อีกสังคมหนึ่งอาจจะไม่ใช่สิ่งดี
สิ่งที่ถูกต้องก็เป็นไปได้
เพราะฉะนั้น การใช้ชีวิตหรือปล่อยให้ชีวิตเรา
วิ่งไปตามกระแสมันก็จะเหนื่อยและต้องปรับตัวเอง
อย่างไม่มีวันจบสิ้น
นี่คือหนึ่งเหตุผลสำหรับคนที่ติด Comfort zone
ที่หาข้ออ้างนี้เพื่อที่จะอยู่ในโซนที่ตนเองคุ้นชิน
ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงและที่แย่กว่านั้นคือ
ไม่พัฒนาตัวเอง เพราะเหนื่อยในการต้องปรับตัว
เรามาเปลี่ยนแปลงตัวเองกันเถอะ!
โอกาสนี้ สถานการณ์แบบนี้ เหมาะสมมากๆ
ในการมีวิถีชีวิตใหม่ที่เราได้เลือกเอง
เป็นวิถีชีวิตแบบ New Normal ในแบบของเราจริงๆ
ในแบบที่เราต้องการมันจริงๆ ในแบบที่เราทำแล้ว
เรามีความสุขกับมันจริงๆ
หยุดคำว่า "อะไรก็ได้ในชีวิต" แล้วมาตั้งธง
กับชีวิตใหม่ที่เรากำหนดเอง และลงมือสร้างมัน
ตั้งแต่วันนี้ นาทีนี้ เดี๋ยวนี้
ด้วยการเขียนมันลงไปในกระดาษ
เพราะเป้าหมายหรือรูปแแบวิถีชีวิตที่เราต้องการ
ที่จะสร้างมันออกมา หากไม่เขียนหรือวาดภาพ
มันลงบนกระดาษปล่อยให้มันลอยอยู่ในอากาศ
สักพักลมก็จะพัดมันไปจากเรา แล้วก็ต้องมาเริ่ม
ต้นกันใหม่ วนลูปอยู่แบบนี้กี่คั้งแล้ว
"จงตอบตัวเอง"
เพราะฉะนั้น หยิบกระดาษและปากกาขึ้นมา
และลงมือเขียนมันเดี๋ยวนี้
เพราะนี้คือสัญญาณของการลงมือทำ "ทันที"
แล้วสิ่งต่างๆ มันจะตามมาเองหลังจากที่เราได้
เริ่มก้าวแรกเรียบร้อยแล้ว
คุณแม่โฟกัสที่ตัวเองก่อน ฝึกตนเองก่อน
แล้วจึงถ่ายทอดให้ลูก สอนลูก ฝึกลูก
มันจะง่ายมากๆ หากทำให้เขาเห็นมากกว่า
พูดให้เขาฟัง
เริ่มกันเลยคะ ลุย!
เป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคน เรามาช่วยกัน
เพิ่มพลังบวกให้กับสังคมด้วยการเริ่มฝึกตนเอง
ให้เป็นต้นแบบของลูกเรากันคะ
Mindfulness for Mom
-เอ ปวีร์ลดา Mother Mind
#MotherMind #MotherSmart #MotherWisdom #Growth #Mindset #Emotion #Thinking #Behavior #Mindsetความสำเร็จสำหรับคุณแม่
#SuccessMindsetForMom #เอปวีร์ลดาธนะพัฒน์มงคล #เอปวีร์ลดาMotherMind #MindfulnessForMom #Mindfulness
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
