20 ก.ค. 2021 เวลา 03:44 • ไลฟ์สไตล์
นอกจากเซลล์ก็ลูกเรือนี่แหละที่นอนโรงแรมบ่อยกว่าบ้าน😆
โรงแรมแต่ละแห่งมีดีไซน์แตกต่างกันไปตามไอเดียอันบรรเจิดของสถาปนิกและอินทีเรียร์ ส่วนของห้องนอนจะไม่ต่างกันมาก มีเตียง ชั้นวางกระเป๋า โต๊ะทำงาน โซฟาเล็กใหญ่ สตูล ฯลฯ บางแห่งเอาทีวีไปแขวนไว้บนเพดาน คือนั่งดูไม่ได้ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งแถวหน้าสุดในโรงหนัง
สีสันอยู่ที่ห้องน้ำ โรงแรมยุคเก่ามักเป็นห้องน้ำปิดมิดชิด หลังๆ บางแห่งเปลี่ยนผนังทึบเป็นกระจกใส แยกส่วนชักโครกออกจากห้องอาบน้ำ มีประตูเข้าออกคนละบาน ส่วนชักโครกจะเล็กๆ เหมือนเข้าไปนั่งอยู่ในซอกอับทึบ ดมกลิ่นขี้ตัวเองกันไปสิ รู้สึกลำบากชิบหายชีวิต 555
บางแห่งเอากระจกเงาบานใหญ่มาติดไว้ในที่ๆ ไม่ควรติด ตื่นมาเข้าห้องน้ำยามดึก เห็นเงาสลัวของตัวเองในความมืดมีสะดุ้งสุดตัว บางแห่งใช้ประตูโคตรเปลือง เข้าส้วมประตูนึง ล้างหน้าประตูนึง อาบน้ำประตูนึง ตู้เสื้อผ้าก็ประตูนึง ก่อนนอนต้องไล่ปิดทุกประตู กลัวจะมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดขึ้นมากลางดึกแล้วพาลให้ฟุ้งซ่าน นอนคนเดียวมีประตูเปิดอ้าทิ้งไว้เยอะๆ มันก็หลอนเหมือนกันนะ ถึงฉันจะไม่ใช่คนกลัวผีก็เหอะ
ภาพแรกเป็นโรงแรมเก๋ๆ ที่โจเบิร์ก ห้องน้ำ อ่างล้างหน้า และห้องขี้เปิดโล่งกว่าที่คิด มีเพียงม่านขนาดใหญ่ไว้รูดเปิดปิดแยกส่วน นอนคนเดียวไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่แอดก็รู้สึกแปลกๆ อยู่ดี
อีกภาพเป็นโรงแรมที่ภูเก็ต นำซุ้มอ่างล้างหน้ามาไว้ด้านนอกแทบจะกึ่งกลางห้อง ล้างหน้าแปรงฟันทีน้ำกระเด็นกระจัดกระจาย แอดไม่ชอบกลิ่นยาสีฟัน แอบด่าอินทีเรียร์ในใจ เอาไปไว้ในห้องน้ำน่ะดีแล้ว จะดีไซน์ให้มันยุ่งยากแบบนี้เพื่อ
ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้บ่นอะไร เค้าจัดให้นอนที่ไหนก็นอน แค่นำมาเล่าสู่กันฟังเฉยๆ เข้าใจตรงกันนะ
โฆษณา