‘หมอบุญ’ ยังคงยืนยันอีก 2 วันมีข่าวดี รอหน่วยงานรัฐที่เป็นตัวกลางเจรจาแถลง ย้ำพูดอะไรไม่ได้หวั่นถูก ก.ล.ต. เล่นงาน
เช้าวันนี้ (20 กรกฎาคม) บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จํากัด และ ไบออนเทค ได้ลงนามสัญญาร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิดจำนวน 20 ล้านโดส สำหรับปี 2564 ให้กับประเทศไทย โดยมีแผนกำหนดการส่งมอบในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่งดีลการจัดซื้อดังกล่าวทำให้โลกโซเชียลต่างถามหาความคืบหน้าถึงดีลของ นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ (THG) ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ทีมข่าว THE STANDARD WEALTH ได้สอบถามเรื่องนี้ไปยัง นพ.บุญ ซึ่งยังคงยืนยันว่าได้ตรวจสอบเอกสารสัญญาระหว่างกันและลงนามเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะมีข่าวดีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการในอีก 2 วันข้างหน้า พร้อมกับระบุว่ายังไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้ เพื่อเป็นไปตามหลักปฏิบัติของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
“ตอนนี้ยังให้ข้อมูลอะไรเพิ่มไม่ได้ เพราะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนงาน คาดว่าในอีก 2 วันก็น่าจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการโดยหน่วยงานรัฐที่เป็นตัวแทนเจรจากับตัวแทนผู้นำเข้า” นพ.บุญ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เพจ เยอรมันอินไซต์-Germany Insights โพสต์ข้อความ ระบุว่า “ไบออนเทคยืนยันกับกระทรวงสาธารณสุขไทย ไม่มีอำนาจเจรจาส่งวัคซีนให้ไทย เพราะไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ
“อันนี้เป็นข่าวที่ลูกเพจส่งมาให้จากในไทย ซึ่งได้เห็นว่ามีจดหมายของ Michael Bradshaw ที่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายซัพพลายเชนและการผลิตของบริษัท BioNTech SE แนบมาด้วย ซึ่งก็เขียนชัดเจนให้กับกระทรวงสาธารณสุขไทย เนื้อหาก็ตรงกับที่ Pfizer ชี้แจงผมมา ซึ่งสำนักข่าวอิศราเขียนดังนี้”
“สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดสำนักข่าวได้รับข้อมูลเอกสารอีเมลที่สก็อต แบรดชอว์ ผู้อำนวยการด้านกฎหมายห่วงโซ่อุปทานและการผลิตของบริษัทไบโอเอ็นเทค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ส่งให้กับบุคลากรระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข โดยมีรายละเอียดของอีเมลดังนี้
“เราได้รับการยืนยันจากรายงานของสื่อที่ระบุว่า นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวอ้างว่าตัวเขานั้นสามารถที่จะนำเข้าโดสวัคซีนป้องกันโควิดยี่ห้อ Comirnaty จากบริษัทไบโอเอ็นเทค หรือจากบริษัทคู่ค้าของเราที่ชื่อว่า ฝอซันฟาร์มา
“เราจึงขอนำเรียนว่า บริษัทไบโอเอ็นเทคนั้นไม่ได้เป็นผู้ที่ทำหน้าที่เจรจาการจัดส่งวัคซีนโควิดให้กับประเทศไทย สิทธิ์การจัดส่งวัคซีนให้กับประเทศไทยนั้นตกเป็นของบริษัทไฟเซอร์และไม่ใช่บริษัทไบโอเอ็นเทคหรือว่าบริษัทฝอซันฟาร์มาที่จะมีอำนวยในการจัดส่งวัคซีนแก่ประเทศไทยแต่อย่างใด
“คุณภาพและประสิทธิภาพของโดสวัคซีน Comirnaty ที่ถูกนำเสนอโดยกลุ่มบุคคลที่ 3 ในประเทศไทย ที่ผ่านช่องทางอันไม่มีอำนาจอนุมัติดังกล่าวนั้นไม่อาจจะเป็นสิ่งที่สามารถรับประกันได้ และจะทำให้ชีวิตของหลายคนตกอยู่ในความเสี่ยง”
อย่างที่เคยชี้แจงไปในความเห็นแรกแต่เดิมเลยว่ามีการแบ่งสิทธิ์การพาณิชย์ในเรื่องวัคซีนนี้อย่างชัดเจน กล่าวคือ
Biontech – เยอรมนี ตุรกี
Fosun Pharma – จีน (ซึ่งสำหรับจีน รวมฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวันเข้าไปด้วย)
Pfizer – ทุกประเทศนอกเหนือจาก 3 ประเทศบนที่ว่ามา
ซึ่งท้ายที่สุดจนถึงจุดนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคำตอบทางอีเมลจาก BioNTech ที่ให้ผม Statement ทางการของ Pfizer เยอรมนีที่ส่งให้ผม จนมาถึง Statement ทางการของ BioNTech ให้กับกระทรวงสาธารณสุขไทยนั้น ทั้งหมดทั้งปวงก็ตรงกันหมด ผมเสนอให้ครบทุกทางแล้วนะครับ ไม่ตกหล่นประการใดแล้ว ปิดจ๊อบโดยสมบูรณ์ ฝอซันไม่มีสิทธิ์ขายในเขตประเทศไทย ชัดเจนและจบนะครับ
ส่วนใครที่ถามเข้ามาว่า แล้วสิงคโปร์สั่งได้อย่างไรนั้น ก็สั่งผ่าน Pfizer ไงครับ ส่วนไต้หวันก็ผ่านฝอซัน ไม่มีใครสั่งตรงจาก BioNTech ทั้งสิ้น…ย้ำอีกครั้งว่าวัคซีน BioNTech วัคซีน Pfizer มีชื่อเรียก 2 ชื่อคือ ชื่อการตลาด ‘Comirnaty’ และอีกชื่อคือ ชื่อที่ใช้มาตั้งแต่ทดลองระยะคลินิกเลย ซึ่งก็คือ BNT162b2 ทั้งหมดที่ว่ามานี้วัคซีนตัวเดียวกันหมดครับ
ด้วยสถานการณ์การจัดการที่เรียกว่าล้มเหลวของรัฐบาลไทย ส่งผลให้วัคซีนมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย แต่นอกจากประชาชนไทยควรได้ต้องเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงแล้ว ไม่ว่าใครที่เป็นผู้จัดหา จะต้องมีความโปร่งใส และชัดเจนในการจัดหา ที่มาที่ไปต้องแน่ชัด การสื่อสารต้องมั่นคง และมั่นใจในคำพูดและข้อมูลของตน ไม่ใช่เปลี่ยนไปมาเช้า สาย บ่าย เย็น ตอบลูกเพจไปหลายครั้งแล้ว ในกรณีที่บางคนมองว่า ถ้าวัคซีนมาจริง ก็ไม่เห็นจะต้องแคร์ว่าจะสำคัญยังไงว่าของมาอย่างไร มาจากไหน ผมมองต่างโดยสิ้นเชิง ในสถานการณ์ที่วัคซีนเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด มันมักจะมีคนพยายามฉวยโอกาสเสมอครับ
ช่วงที่ EU ขาดแคลนวัคซีน ก็มีกลุ่มคนหลายๆ กลุ่มพยายามมาขายวัคซีน โดยที่ก็ไม่รู้ว่าวัคซีนจริงไม่จริงยังไง ซึ่ง EU ก็ปฏิเสธไปหมด เพราะก็พอจะเดาได้ว่ามันวัคซีนปลอม และออกมาเตือนออกสื่อด้วยว่าให้ระวัง เล่นกับความหวังของคนที่เขารอ… เพราะฉะนั้นในฐานะประชาชน ประชาชนควรจะต้องรู้ว่าวัคซีนมายังไง มาจากที่ไหน ผลิตที่ใด มาถึงสัปดาห์ไหน ประมาณเท่าไร ตัวอย่างการวางแผนได้รับวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนในเดือน 6 ของเยอรมนี ดูได้ตามลิงก์นี้ ซึ่งจะบอกหมดว่า ในแต่ละรัฐคาดว่าจะได้วัคซีนตัวไหน ประมาณเท่าไร สัปดาห์ใด รวมออกมาแล้วประมาณเท่าไร เป็นต้น นี่คือตัวอย่างของความโปร่งใสที่ผมหมายถึง ประชาชนเขาจะได้รู้ว่าช่วงไหนวัคซีนเยอะ วัคซีนขาดแคลน ทำไมนัดไม่ได้ และอื่นๆ
- 220
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
