20 ก.ค. 2021 เวลา 14:06 • สุขภาพ
ชัดเจนแล้ว ไวรัสโคโรนาแพร่กระจายจากการพูดคุยและการร้องเพลง มากกว่าการหายใจธรรมดา 7.5-10.4 เท่า
8
นับจากมีการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งเชื้อก่อโรคได้แก่ ไวรัสโคโรนาลำดับที่เจ็ด
ซึ่งมีขนาดเล็กมาก เล็กกว่า PM 2.5 ถึง 20 เท่า จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ไวรัสชนิดนี้ จะติดต่อกันผ่านทางละอองฝอยจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง
2
ในช่วงมีการระบาดต้นปี 2563 เราพบมีกลุ่มระบาดขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า Superspreader ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ
ร้องเพลงประสานเสียงในโบสถ์
ล้วนมีกิจกรรมลักษณะพิเศษ ทำให้เกิดละอองฝอยจำนวนมาก
1
ในเมืองไทย เช่น ในสนามมวย ผับ-บาร์ และบ่อนการพนัน จะมีการติดเชื้อจำนวนมาก
ซึ่งคาดว่ามาจาก การตะโกน พูดเสียงดัง ร้องเชียร์ ร้องเพลงเสียงดัง ในที่อับทึบ และระบายอากาศไม่ดี มีละอองฝอยมาก ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
1
มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ได้ทำวิจัยเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า ไวรัสแพร่ระบาด เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างการหายใจธรรมดา การพูดคุย และการร้องเพลง จะแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
2
โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ที่ติดเชื้อโควิดจำนวน 22 ราย เก็บละอองฝอย(Droplet) และละอองลอย (Aerosol)
1
จากการหายใจ 30 นาที
จากการพูด 15 นาที
จากการร้องเพลง 15 นาที
2
อุปกรณ์เก็บฝอยละออง
โดยใช้อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อเก็บละอองฝอยและละอองลอย แล้วนำไปตรวจวิเคราะห์หาชิ้นส่วนของไวรัสหรือสารพันธุกรรมของไวรัส
ได้ข้อมูลที่น่าสนใจคือ
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณไวรัสจากการหายใจกับการพูดคุย จะพบว่าไวรัสจากการพูดคุยจะมากกว่า 7.5 เท่า
1
ถ้าเปรียบเทียบการหายใจกับการร้องเพลง จะพบไวรัสจากการร้องเพลงมากกว่า 10.4 เท่า
1
โดยฝอยละอองที่ตรวจพบนั้น จะพบไวรัสในละอองฝอย (ขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอน) 14.6% และในละอองลอย (ขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน) 85.4%
4
โดยในผู้ติดเชื้อ 22 ราย นั้นตรวจพบไวรัสในฝอยละออง 59% หรือ 13 ราย
ในผู้ติดเชื้อที่มีอาการในวันแรกแรก จะพบไวรัสได้มากกว่าวันท้ายท้าย
1
เป็นข้อมูลทางวิชาการที่มีการวิจัยอย่างได้มาตรฐาน สรุปเป็นความจริงที่ชัดเจนว่า
การร้องเพลง การตะโกนพูดเสียงดังในสถานที่อับทึบระบายอากาศไม่ดี จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้มาก และง่ายกว่าการหายใจปกติและอยู่ในที่โล่งแจ้งมากทีเดียว
Reference
1
โฆษณา