21 ก.ค. 2021 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #เมื่อถูกปฏิเสธอีกครั้ง ]
จากนักเตะที่เป็นตัวความหวังของบาร์เซโลน่า คราวย้ายมาเมื่อ 2 ปีก่อน แต่เวลานี้สถานะของ อองตวน กรีซมันน์ เปลี่ยนไปแบบสุดขั้ว
เขากลายเป็นเหมือนส่วนเกินของทีม บอร์ดบริหารของบาร์ซ่าพยายามทุกวิถีทางที่จะเขี่ยทิ้งให้พ้น
1
ด้วยสถานการณ์การเงินปัจจุบันของสโมสรกำลังสั่นคลอนอย่างหนัก โจน ลาปอร์ต้า ประธานคนใหม่หน้าเก่าที่เพิ่งกลับมานั่งเก้าอี้บริหารอีกครั้ง จำต้องล้างไพ่ทำความสะอาดกันใหม่
1
บาร์ซ่าต้องพยายามจัดสรรการใช้เงินให้เป็นไปตามกรอบของลาลีกา ไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบต่อสัญญาฉบับใหม่ของ ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งพร้อมอยู่ต่อแล้ว แต่ต้องเคลียร์เอกสารให้เรียบร้อย
นอกจากนี้ผู้เล่นใหม่ที่ย้ายเข้ามาก็ต้องรอการลงทะเบียนเพื่อส่งรายชื่อก่อนฤดูกาลจะเปิดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เมมฟิส เดอปาย ที่มาซ้อมครั้งแรกแล้ว เอริก การ์เซีย และ เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่
เพื่อให้เกิดความสมดุลของงบประมาณทั้งรายรับและรายจ่าย ลาปอร์ต้า จึงต้องหาทางออกด้วยการยอมเฉือนเนื้อบางส่วนที่คิดว่าจำเป็นน้อยที่สุดทิ้งไป
นอกเหนือจากความพยายามเจรจาลดค่าจ้างพวกที่รับอยู่ในเรตสูงๆ ไม่ว่าจะเป็น เซร์คิโอ บุสเก็ตต์ , จอร์ดี้ อัลบา , เคราร์ ปีเก้ หรือ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ตอนแรกอยากให้หั่นถึง 40 เปอร์เซนต์คงเป็นไปได้ยาก
1
ในณะเดียวกันพวกผู้เล่นที่ไม่อยู่ในแผนการสร้างทีมของ โรนัลด์ คูมัน ก็เตรียมผ่องถ่ายออกไป รอข้อเสนอที่น่าพอใจอยู่ทั้ง ซามูแอล อุมติตี้ , มิราเล็ม ปานิช หรือ มาร์ติน เบรธเวท
รวมถึงเคสของ กรีซมันน์ อย่างที่เกริ่นไว้นั่นแหล่ะ เพราะนี่คือผู้เล่นที่มีค่าจ้างสูงสุด หากไม่นับ เมสซี่ ซึ่งเป็นข้อยกเว้น ห้ามแตะต้องเป็นอันขาด
ตัวเลขตามที่เปิดเผยมาตก 800,000 ยูโรต่อสัปดาห์ด้วยกัน เห็นแล้วหลายคนตกใจ ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้
นี่จึงเป็นเหตุผลทำให้บาร์ซ่าต้องหาวิธีผลัก กรีซมันน์ ออกจากทีมให้ได้ในตลาดซัมเมอร์
1
เมื่อรวมกับผลงานที่ไร้มาตรฐานหาความแน่นอนไม่ได้ ตอนดึงมามาจากแอตเลติโก้ มาดริดเมื่อปี 2019 หวังไว้ว่าจะมาช่วยแบ่งเบาภาระ เมสซี่ แต่ผ่านมา 2 ปีน่าจะมากพอเชื่อว่าไม่อาจก้าวขึ้นมาสุดอย่างที่คาด
ฟอร์มการเล่นที่ขาดมาตรฐาน แตกต่างจากเมื่อครั้งรับใช้ทัพตราหมี คืออีกหนึ่งตัวเร่งที่ต้องหาทางปล่อยออก
ดังนั้น กรีซมันน์ จึงยึดพื้นที่สื่อกีฬาไว้ไม่น้อย เกี่ยวกับเรื่องการย้ายออกจากทีมในฤดูร้อนนี้เลย
เริ่มจากเขาโยงกับแมนฯซิตี้ ซึ่งกำลังต้องการหากองหน้าไปเสริมศักยภาพการเข้าทำให้ดุดันยิ่งขึ้น รวมทั้งแทนการขาดหายไปของ เซร์คิโอ อเกวโร่
แต่แล้วก็เงียบลงอย่างรวดเร็ว เพราะรู้กันอยู่ว่ากองหน้าประเภทนี้ ไม่ได้เป็นที่ต้องการของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สักเท่าไร
แล้วเปลี่ยนมาเป็นเชลซี ซึ่งกำลังควานหาหัวหอกเช่นเดียวกัน โดยที่กำลังมีข่าวพัวพันกับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์
อย่างไรก็ดีไม่มีอัพเดตคืบหน้าไปจากเดิมเลย มันน่าจะพอบอกได้ในระดับหนึ่งว่า โธมัส ทูเคิ่ล ก็ไม่ได้สนใจเช่นกัน
ไม่นานนักจึงฮือฮามากยิ่งขึ้น เมื่อสื่อหลายเจ้ายืนยัน กรีซมันน์ อาจสลับขั้วกับ ซาอูล ญีเกซ ของแอตเลติโก้ มาดริดแบบยื่นหมูยื่นแมวเลย
ว่ากันตามตรงตัวเขาเองก็น่าจะต้องการหวนคืนสู่อู่เข้าอู่น้ำ รวมทั้งอยากร่วมงาน ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ซึ่งเปรียบเสมือนเจ้านายคู่บุญอีกครั้ง
ดีลมีปัญหาตรงที่มูลค่าทางการตลาดของ กรีซมันน์ สูงกว่า แม้ฟอร์มจะดร็อปลงไปพอสมควรก็ตาม
ส่วนต่างอาจอยู่ที่ 20 ล้านยูโร สมมุติ ซาอูล ถูกประเมินที่ 50 ล้าน กรีซมันน์ ก็ต้อง 70 ล้าน ฉะนั้นจะมาแลกกันตรงๆไม่ได้
1
หากตราหมีไม่ส่งผู้เล่นที่มีมูลค่าใกล้เคียง 20 ล้านแนบไปอีกราย ก็ต้องเป็นเงินที่สมน้ำสมเนื้อกันนั่นเอง
2
ดีลแลกเปลี่ยนนี้ต้องสมเหตุสมผลด้วย เพราะทางลาลีกาพร้อมตรวจสอบอย่างเข้มข้น รวมทั้งต้องส่งเอกสารให้ครบ มันมีผลต่อเรื่องของภาษี ซึ่งจะตามในภายหลัง
การเจรจาจึงไม่ง่ายอย่างที่เราหลับตาแล้วนึกภาพกันขึ้น จนอาจทำให้ต้องพับโครงการเอาไว้ก่อน
เพียงแต่ เอ็นริเก้ เซเรโซ่ ประธานของแอตเลติโก้ มาดริด ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า การพูดคุยยังดำเนินต่อไป การเดินหน้ายังมีต่อเนื่อง อาจจะสะดุดจนทำให้ล่าช้าลงบ้าง
นั่นหมายความว่าบาร์ซ่าก็อยากขายมากๆ ตราหมีก็มีความปรารถนาแรงกล้าดึงกลับมาเช่นเดียวกัน
2
ในขณะที่สื่อก็ไปหยิบเอาแมนฯยูไนเต็ดมาเอี่ยวด้วย ทั้งที่ดูไม่ออกเลยว่ามีความจำเป็นอะไรต้องการ กรีซมันน์ หากถอยหลังไป 3-4 ปีก่อนก็ว่าไปอย่าง
1
ยังไม่จบแค่นั้นล่าสุดเลกิ๊ปสื่อใหญ่ของฝรั่งเศส อ้างว่ายูเวนตุสเตรียมยื่น เปาโล ดีบาล่า มาแลกแบบตรงๆ
ก่อนที่เจ้าพ่อแหล่งข่าวซื้อขายอย่าง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ จะออกมาทวิตข้อความว่า ดีลดังกล่าวไม่เป็นความจริงเลย
1
ปัญหาหลักอยู่ตรงค่าจ้างของ กรีซมันน์ ซึ่งรับจากบาร์ซ่าสูงมาก แล้วหากย้ายไปสโมสรใหม่จริง จะยอมถูกหารเหลือแค่ครึ่งเดียวอย่างนั้นหรือ แทบเป็นไปไม่ได้เลย
ว่ากันตามตรงจาก 800,000 ลดลงมาเหลือ 400,000 ยูโรต่อสัปดาห์ก็ว่ามากแล้ว ต่อให้มีทีมจ่ายไหว แต่ใครละจะยอมจ่ายกับความเสี่ยงแบบนี้
1
กรีซมันน์ เองก็อายุปาเข้าไป 30 ปีแล้ว หากว่ากันตามวัยอาจจะผ่านจุดพีกมาเรียบร้อย การจะเค้นฟอร์มสุดยอดของตัวเองกลับมาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
2
คิดแล้วมันน่าเจ็บปวดเหมือนกันสำหรับ กรีซมันน์ ต้องมาตกอยู่ในชะตากรรมเช่นนี้
อองตวน กรีซมันน์ ต้องเจอกับการถูกมองข้ามและปฏิเสธตั้งแต่ยังเด็ก
อายุเพียงแค่ 3 ขวบก็เริ่มผูกพันกับฟุตบอล โตมาหน่อยถึงขั้นชวนพ่อไปแคมป์ทีมชาติฝรั่งเศสเพื่อขอลายเซ็นนักเตะที่ชื่นชอบอย่าง ซีเนดีน ซีดาน , ฟาเบียง บาร์กเตซ หรือ เธียร์รี่ อองรี
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความฝันสูงสุดคือการเป็นแข้งอาชีพ แต่ในช่วงนั้นไม่ว่าจะไปคัดตัวทีมไหน ต่อให้สกิลดีฝีเท้าเยี่ยมก็เจอปฏิเสธเรื่อยมา ด้วยเหตุผลเบสิกว่า -- ตัวเล็กเกินไป
1
ทุกครั้งที่ได้ยินประโยคนี้ มันทรมานจิตใจมากๆ จุกเสียดข้างใน ยามไปทดสอบฝีเท้าแล้วต้องรอคอยคำตอบ ซึ่งหายเงียบกลายเป็นความว่างเปล่า
จนครอบครัวเริ่มสงสาร กรีซมันน์ ไม่อยากเห็นลูกต้องจมทุกข์อีก จึงต้องการให้เปลี่ยนเป้าหมายและเส้นทางเดินใหม่
1
แต่เขาไม่ย่อท้อ ชดเชยสิ่งที่ตัวเองขาดหายไป ด้วยอีกสิ่งหนึ่งเสมอ จนกระทั่งถูกยอมรับพิสูจน์ตัวเองได้
ไปไกลจนถึงขั้นยกระดับตัวเองเป็นแข้งซูเปอร์สตาร์ มีค่าตัวพุ่งไปถึง 120 ล้านยูโรอย่างที่รู้กัน
มาวันนี้เขาถูกปฏิเสธอีกครั้ง แม้ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป แต่ใครที่ได้เจอคงเจ็บปวดอยู่ดี
แต่ภูมิต้านทานของ กรีซมันน์ ที่มีอยู่ในอดีต เอาชนะอุปสรรคและคำปฏิเสธมาได้อย่างสง่างาม จะช่วยผลักดันให้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงได้อีกหรือไม่
หากต้องล้มเหลวกับบาร์เซโลน่า ไม่ได้หมายความว่าจะต้องล้มเหลวกับต้นสังกัดใหม่ในอนาคต
บาร์ซ่าอาจคือสโมสรที่หลงรักและใฝ่ฝันมาร่วม แต่เมื่อวันหนึ่งรู้แล้วว่านี่ไม่ใช่คำตอบ กรีซมันน์ ก็ยังสามารถหาคำตอบได้ต่ออีก
มาดูกันว่าคำตอบของเขาจะออกมาเป็นอย่างไร?
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา