20 ก.ค. 2021 เวลา 23:41 • การเมือง
ล็อกเป้าโค่น "บิ๊กตู่" !
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามที่ "พรรคฝ่ายค้าน" จะได้รวมพลัง พร้อมใจกันยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลรอบนี้ต้องยอมรับว่า "มีความหมาย"ไม่น้อย !
เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้น ก่อนที่รัฐบาลจะเตรียมยุบสภาฯเพื่อเลือกตั้งใหม่ ตามที่ พรรคฝ่ายค้านประเมินสถานการณ์เอาไว้ แต่ยังต้องไม่ลืมว่าเป้าหมายการซักฟอกรอบนี้ยังต้องยกระดับให้ไปถึงขั้น "โค่น" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ "ผอ.ศบค." ลงให้ได้ โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันที่รัฐบาลครบเทอม
2
หรืออย่างน้อยที่สุด การซักฟอกครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องมีบาดแผล ให้บอบช้ำมากที่สุด นักหนาสาหัสให้มากที่สุด
1
เพื่อที่จะเดินหน้าไปสู่ปฏิบัติการ "ล้างไพ่" ทางการเมือง ปิดฉาก "3 ป." ก่อนถึงวันเปิดสนามจริง !
การเคลื่อนไหวของสองพรรคหลักในปีกของพรรคฝ่ายค้านที่กำลังเล่นบท "กำหนดเกม" นาทีนี้ย่อมไม่พ้น พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้าน และพรรคก้าวไกลที่งานนี้จะเป็นพรรคที่แบก "เดิมพัน" มากกว่า พรรคเพื่อไทยอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อมวลชนนอกสภาฯ ที่เชื่อมโยงกับแกนนำของพรรคก้าวไกล เปิดเกมลุยถล่มรัฐบาล เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก จนเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นมาตั้งแต่ปี 2563 จนมาถึงวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มิหนำซ้ำ บรรดา "แกนนำเยาวชน" ต่างพากันเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเป็นทิวแถว ขณะที่บางราย เล็ดรอด เดินทางหนีออกไปต่างประเทศตั้งแต่ก่อนไวรัสโควิด-19 กลับมาระบาดระลอกที่ 3 ด้วยซ้ำ
1
ADVERTISEMENT
แต่ทั้งหลายทั้งปวง ยังไม่พบว่า ข้อเรียกร้องจากม็อบราษฎร จะเข้าใกล้ความสำเร็จแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม ยิ่งมีแต่จะสูญเสียแนวร่วม เมื่อล่าสุดพรรคเพื่อไทย ที่แม้จะเป็นพรรคฝ่ายเหมือนกัน แต่กำลัง "เล่นคนละเกม" กับพรรคก้าวไกล
แม้ทางหนึ่งเป้าหมายของพรรคเพื่อไทยที่เคยประกาศมาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะใช้เวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจชำแหละรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อชี้ให้สังคมได้เห็นถึงความผิดพลาด ล้มเหลว ในการบริหารประเทศ ตลอด 7ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่บ้านเมืองเจอกับ "วิกฤติโควิด" รัฐบาลกลับยิ่งซ้ำเติมปัญหาด้วยการประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาด ทั้งการระบาดของไวรัส ไปจนถึงการจัดหาวัคซีนระดมฉีดให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
1
ทว่า อย่าลืมว่า พรรคเพื่อไทยใช่ว่าจะ "ปิดประตูตาย" ไม่ยอมรับการเจรจาทางการเมืองกับฝ่ายตรงข้าม เมื่อเป้าหมายของพรรคเพื่อไทย คือการได้เข้าสู่สถานะของการเป็น "ฝ่ายบริหาร" ขณะที่พรรคก้าวไกล วางเป้าหมายเอาไว้ที่ "การเปลี่ยนแปลง" ทั้งในทางการเมือง ไปจนถึงการเสนอปฏิรูปสถาบัน ซึ่งถือเป็นประเด็นที่เชื่อมโยงกับมวลชนนอกสภาฯ อย่างม็อบราษฎร
ดังนั้น จึงไม่ได้หมายความว่า เกมเขย่าพล.อ.ประยุทธ์ รอบนี้นั้น "พรรคร่วมฝ่ายค้าน" จะได้ประโยชน์จากการถล่มผู้นำรัฐบาล กันทุกฝ่าย เพราะสำหรับพรรคเพื่อไทยแล้ว อย่าลืมว่ายังมี "เกมภาคต่อ" ให้ต้องเล่นอีก เพราะหากย้อนกลับไปฟังในสิ่งที่ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ พูดในคลับเฮ้าส์ครั้งล่าสุด ที่ประเมินว่าพล.อ.ประยุทธ์ อาจจะยุบสภาฯ ไม่เกินสิ้นปีนี้ หรือบวกลบ ไม่เกินเดือน ม.ค.- ก.พ.65 และเมื่อเลือกตั้งก็ขอให้พี่น้องช่วยกันเลือกพรรคการเมือง ให้ชนะ "พรรคพลังประชารัฐ" อย่างถล่มทลาย เพื่อให้กลับมาตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ให้ได้
แต่นี่คือเส้นทางที่พรรคเพื่อไทยอาจจะยังเดินไม่สุดทาง เพราะที่สุดแล้ว โอกาสที่จะเกิดการเจรจาระหว่าง พรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย ก็ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้น ในคำตอบสุดท้าย !
1
โดย:ทีมข่าวการเมือง
โฆษณา