รู้จัก หุ้น CENTEL อีกหนึ่งอาณาจักรของเครือ เซ็นทรัล
หุ้น CENTEL หรือชื่อเต็มๆ คือ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด(มหาชน) ประกอบธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2523 ที่มีกลุ่มเครือเซ็นทรัลเป็นเจ้าของ
โดยมีโรงแรมแห่งแรกที่ชื่อว่า ไฮแอท เซ็นทรัล พลาซ่า กรุงเทพฯ และบางกอกคอนเวชัน เซ็นเตอร์ ในปี 2526
ปัจจุบันมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ บริษัท เตียง จิราธิวัฒน์ จำกัด จำนวน 67,523,190 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (อ้างอิง ข้อมูล ณ วันที่ 20/07/2564)
ทางบริษัทฯสามารถแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่
1.กลุ่มธุรกิจโรงแรม
ดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ เซ็นทารา
อ้างอิง รายงานผลดำเนินงาน ไตรมาส 1/64 บริษัทฯเป็นเจ้าของและบริหารงานโรงแรมและรีสอร์ท จำนวน 83 แห่ง มีจำนวนห้องพัก 17,160 ห้อง ใน 14 ประเทศ ภายใต้แบรนด์ จำนวน 6 แบรนด์ ได้แก่ Centara Reserve, Centara Grandm Centara Boutique Collection, Centra by Centara และ COSI
ตัวอย่างแบรนด์ในเครือ เซ็นทารา (ที่มา รายงานประจำปี 2563)
2.กลุ่มธุรกิจอาหาร
ดำเนินการผ่านบริษัทลูกที่ชื่อว่า บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด(CRG)
โดยมีแบรนด์ชั้นนำที่หลายๆท่านคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี กว่า 15 แบรนด์ในปัจจุบัน เช่น
มิสเตอร์ โดนัท(Mister Donut) จำนวน 375 สาขา
เคเอฟซี(KFC) จำนวน 289 สาขา
อานตี้ แอนส์(Auntie Anne’s) จำนวน 188 สาขา
โอโตยะ(Ootoya) จำนวน 47 สาขา
ชาบูตง ราเมน(Chabuton Ramen) จำนวน 17 สาขา และอื่นๆ เป็นต้น
โดยทาง CRG มีสัดส่วนรายได้มาจาก KFC 55%, Mister Donut 16%, Ootoya 7%, Auntie Anne's 7%, อื่นๆ 15% (อ้างอิงจาก ผลการดำเนินงาน ไตรมาส1/64)
ปัจจุบัน บริษัทฯมีจำนวนสาขาของแบรนด์ร้านอาหารในเครือ รวมกันทั้งสิ้นกว่า 1,120 สาขา ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ภาพตัวอย่างแบรนด์ในเครือ CRG (ที่มา รายงานประจำปี 2563)
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ของบริษัทฯ
ปี 2561 รายได้รวม 21,768 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,178 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้รวม 21,291 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,744 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้รวม 13,249 ล้านบาท ขาดทุน 2,775 ล้านบาท
ปี 63 บริษัทฯมีรายได้รวมจาก ธุรกิจโรงแรม คิดเป็น 3,117 ล้านบาท และธุรกิจอาหาร จำนวน 10,132 ล้านบาท ลดลงจากปี 62 อย่างชัดเจน โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมากกว่าครึ่งนั้น มาจากธุรกิจอาหาร
ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ยังคงทวีความรุนแรงต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ที่ได้ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยและทั่วโลก
โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมอย่าง CENTEL ก็ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ เลยทำให้พบกับภาวะขาดทุนของธุรกิจในปีนี้
และจากสถานการณ์การระบาดล่าสุดในประเทศไทย ที่มียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่าหมื่นรายติดต่อกันหลายวัน และทางภาครัฐเอง ได้มีการออกมาตราการเพิ่มเติมให้มีคำสั่งคุมเข้มในเขตพื้นที่สีแดง บวกกับงดให้มีการเดินทางของเที่ยวบินภายในประเทศ
อีกทั้งล่าสุดมีคำสั่งให้ปิดร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า และห้ามไม่ให้ทางร้านเปิดพื้นที่ในการทำเดลิเวอรี่อีกด้วย
ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันและเป็นอีกหนึ่งปีที่หนักหนาสำหรับธุรกิจอย่าง CENTEL แน่นอน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังตั้งได้เป้าหมายในการเติบโตของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทไว้ที่ 170 แห่ง ภายในปี 2567 นี้ บวกกับการปรับกลยุทธ์เกี่ยวกับธุรกิจอาหาร ให้เข้าถึงความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ให้เป็นในรูปแบบเดลิเวอรี่เพื่อตอบโจทย์บรรทัดฐานใหม่ในธุรกิจ(New Normal) มากขึ้น
โดยสรุป ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมรสุมครั้งใหญ่ของ CENTEL แต่บริษัทฯก็มีข้อดีตรงที่มีช่องทางในการหารายได้มากกว่าหนึ่งช่องทาง ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดี ที่สามารถช่วยพะยุงภาคธุรกิจหลักเอาไว้ได้ระดับหนึ่ง ในยามเกิดวิกฤตแบบนี้
ซึ่งพวกเราก็คงต้องคอยดูกันต่อไป ว่าเมื่อวิกฤตในครั้งนี้คลี่คลายลง แล้วบริษัทฯจะสามารถกลับมาเติบโตได้อีกมากน้อยแค่ไหนกัน
**หมายเหตุ** ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง อย่าลืมศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจ ก่อนลุงทุนทุกครั้งเสมอ
ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก investor.centarahotelsresorts.com/th, set.or.th,
-กดติดตาม รู้ก่อนลงทุน-
อัพเดทบทความน่ารู้เกี่ยวกับการลงทุนในทุกวัน
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
